คัดหนังมา 5 เรื่อง ที่คิดว่าชอบที่สุดในชีวิต(ของคนเขียน)
ชอบคือ= อาจจะประทับใจ แบบว่ายังจำโมเมนต์ความรู้สึกที่ได้ดู ณ. ตอนนั้น และอาจจะไม่ใช่หนังที่ดีที่สุด สำหรับทุกๆคน แต่ว่าถ้าให้มานั่งนึกว่าในชีวิตที่เริ่มดูหนังมา มีเรื่องไหนที่โผล่มา 5 เรื่องที่นึกออก ก็สรุปได้เอาละกันว่านี่แหละ ที่ใช่ที่สุดแล้ว เริ่มเลยละกัน555
จากทั้งหมด 5 เรื่อง ไม่ได้เรียงลำดับความชอบนะครับ
เรียงตามอายุหนังดีกว่าจากเก่าสุดไปหาใหม่ละกัน
อันดับ1
Terminator2 Judgment Day
หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อไทยๆว่า “คนเหล็ก2029”ที่สุดแล้วของหนัง Action Sci-fi ที่มอบความบันเทิงแบบตื่นตาตื่นใจ ร้องว๊าวกันเลยทีเดียว และเทคนิคภาพแบบโคตรจะล้ำหน้ามากๆในยุคนั้น ส่วนพล๊อตหนังเป็นยังไง ทุกๆคน คงจะรู้กันอยู่แล้วเนอะ555
เป็นหนังภาคต่อจากภาคแรกเมื่อปี 1984
แต่ด้วยความที่ ภาคแรกนั้นผมยังเด็กมากๆไง ดูไม่ทัน มาทันดูตอนภาค 2 ที่ตอนนั้นเป็นยุคของหนังกลางแปลง หนังเรื่องนี้ก็ยังทันในยุคนั้นพอดี แต่ที่ได้ดูจริงๆเลยก็ใน Big Cinema ช่อง7 “โปรแกรมเพชรหนังพันล้าน” นี่แหนะกลัวไม่รู้ว่าแก่จริง555
ส่วนในเรื่องของตัวหนังบอกได้คำเดียวครับ ว่าสนุกมากๆ การเดินเรื่องก็ตื่นเต้นเร้าใจ ดิบๆโหดๆบ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่เด็กดูได้ ส่วนที่เป็นทีเด็ดเลยก็ เทคนิคงานภาพนี่แหละครับ โดนเฉพาะไอ้ตัวร้ายที่มาตามฆ่า จอร์น โอคอนเนอร์ (ที่ยังเป็นเด็กในโลกปัจจุบัน) ที่เป็นเหล็กไหลนี่มอบความตื่นตาตื่นใจให้คนดูได้ดีโดยแท้
เรื่องนี้เป็นหนังอันทรงคุณค่าของผมเลยนะครับ มันดีทุกอย่างจริงๆ และด้วยความที่มันเป็นหนัง sci-fi คือแบบไม่ต้องหาเหตุผลความเป็นจริงอะไรมารองรับมันหรอกแค่ดูแล้วมันบันเทิงตอบสนองความมันส์ที่ให้มาแบบจัดเต็มจริงๆ เอาจริงๆคือดูหนังเรื่องนี้หลายรอบมากๆ ดูกี่ครั้งก็ยังสนุก ยังงงอยู่ว่าหนังเก่าขนาดนี้แล้ว ทำไมฉากแอ๊กชั่นมันดูสนุกกว่าหนังปัจจุบันเสียอีก ยิ่งถ้าเอาไปเทียบกับหนังเฟรนไชส์เดียวกัน ตั้งแต่ภาค 3 ไปนี่ ไม่อยากจะเอ่ยเลย ต้องให้เครดิตผู้กำกับและทีมงานหนังเรื่องนี้จริงๆครับ และแม้จะมีภาคต่อตามๆกันมา ก็มิอาจจะทำได้เทียบเคียงเวอร์ชั่นของ เจมส์ คาเมรอน เลยสักกะนิด
อืม และอีกอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจะมีภาคใหม่ล่าสุดเข้าฉายนี่หน่า จำได้ลางๆว่า แม่ของ จอร์น โอคอนเนอร์ กลับมารับบทเดิม หนังจะออกมาเป็นยังไงน้าาาาาา..ไม่อยากจะคิด5555
อันดับ 2
The Shawshank Redemption
มีหลายคำหลายนิยามมากนะครับที่จะบรรยายความรู้สึกที่มีต่อหนังเรื่องนี้ แต่โดยส่วนตัวผมแล้วคำที่ผมที่จะสามารถนึกออกได้และตรงความรู้สึกกับหนังหลังจากที่ดูจบ คือ มันอิ่มเอม สวยงามต่อความรู้สึกมากๆ มันส่งผลต่อชีวิตเราได้เลยนะครับทำเป็นเล่นไป ไม่ได้เวอร์นะ555 ทำไมหนังมันมีอิมแพคต่อผมขนาดนั้น คือดูจบมันทำให้เรารู้จักคุณค่าของชีวิต คุณค่าของอิสรภาพ และคุณค่าของมิตรภาพ โอยยย..เยอะแยะไม่รู้จะบรรยายยังไงดี
อยากจะเล่าให้ฟังครับครั้งแรกที่ดูก็คือในทีวีครับ จากช่องไหนเอ่ยให้ทาย??? Big Cinema โปรแกรมเพชรหนังพันล้านเจ้าเก่าของเรานี่เอง 555
ตอนที่ได้ดูนี่ ไม่รู้จักไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้เลยนะครับ คือดูไปงั้นๆแหละ พอดูๆไปหนังมันดึงเราให้ติดตามตั้งแต่ต้นจนจบแบบที่ว่าไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย แม้หน้าหนังมันจะเป็นแนวชีวิต ดราม่าค่อนข้างจะหนักอยู่ แต่ถ้าดูจบเมื่อไหร่ มันจะกลั่นกรองเป็นความรู้สึกอย่างที่ผมเขียนไว้ข้างต้นเลย
หนังเล่าถึง หนุ่มนายธนาคารคนหนึ่งโดนจับข้อหาฆาตกรรมภรรยาตัวเองโดยเจ้าตัวยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์แต่ด้วยหลักฐานอะไรต่างๆ ชี้ว่าเป็นเขาที่ทำก็ดิ้นไม่หลุดสิครับ จึงต้องเข้าไปใช้ชีวิตในซังเตไป ทีนี้เรื่องราวต่างๆก็ดำเนินกันไปในเรือนจำนี่แหละครับ เล่าเยอะไม่ได้จริงๆ สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู บอกได้เพียงฉากในรูปประกอบคือฉากที่ผมชอบมากๆ พีคสุดละ
จำได้เลยตอนดูหนังเรื่องนี้จนจบยังนั่งหน้าจอทีวีอยู่เลย นั่งดู end credits ขึ้นต่อ คือเฮ้ยจบแล้วเหรอ ไม่ใช่ว่าหนังมันจบแบบค้างๆคาๆนะ คือจบแบบสวยงาม อิ่มเอม แต่ว่าเราอารมณ์ยังค้างอยู่ไง5555
สรุปเลยว่า หนังควรค่าแก่การดูมากๆๆๆจ้าาา
อันดับที่ 3
Infernal Affairs
หรือชื่อแบบไทยๆก็คือ “สองคนสองคม”
หนังชุดนี้ทำออกมา 3 ภาคครับ แต่ที่แบบว่าเจ๋งสุดคือ ภาค 1 กับ 2 ส่วนภาค 3 นี่ ความเข้มข้นอ่อนลงมาเยอะมาก เหมือนเอาสองภาคแรกมาต่อยอดหากินต่อ มันเลยทำให้ขาดความเข้มข้นลงไป
ส่วนที่ดีงามมากๆของหนังชุดนี้นะครับ คือบทหนังพล๊อตหนังนี่แหละครับ คือเจ๋งมาก คิดได้ไง ดีไม่ดีก็ hollywood ซื้อเอาไปรีเมคใหม่ในเวอร์ชั่น มาร์ติน สกอร์เซซี่ อ่ะครับ
หนังเล่าถึงการห่ำหั่นกันระหว่างแก๊งค์มาเฟียกับทีมตำรวจ ที่งัดกลยุทธ์ต่างๆมาสู้กัน และแผนเด็ดที่อุตส่าห์คิดกันออกคือ ส่งสายไปอยู่ในบ้านของศัตรูของกันและกันเพื่อที่จะได้ล้วงข้อมูลเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นต่อในแต่ละศึก มาเฟียส่งเด็กมาเป็นตำรวจ ตำรวจส่งเด็กไปเป็นโจร ความสนุกเข้มข้นคือตรงนี้แหละครับ เชือดเฉือนกันไปมา ชิงเหลี่ยมกัน ระหว่างสองฝ่าย มันมากๆ
ภาคแรกว่าดีแล้ว ภาค2ต่อมายิ่งสนุกกว่า(สำหรับผมนะ)หนังไม่ได้ดำเนินเหตุการณ์ต่อจากภาคแรก แต่ย้อนให้ดูเหตุการณ์ก่อนภาคแรกก่อนที่จะมาเป็นสายสืบกันเต็มตัว เราจะได้เห็นว่าไอ้สองคนเนี่ยมันโตกันมายังไงเจออะไรมา แก่นแท้ของแต่ละคนดีชั่วต่างกันอย่างไร
เป็นหนังฮ่องกง หนังเอเชียเรื่องเดียวที่โผล่มาอยู่ในลิสท์หนังที่ชอบที่สุดในชีวิตได้นี้ถือว่าไม่ธรรมดามากๆนะครับ ว่าแล้วก็ไปหามาดูเลย ใครที่พลาดไป
ลำดับที่ 4
Interstellar
หนังแนว sci-fi วิทยาศาสตร์ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลนด์ คนดัง คนที่ปลุกหนังชุดแบตแมนไตรภาค หนังSuperhero ฝั่ง DC ให้เป็นหนังขึ้นหิ้งไปแล้วนั้นกลับมาทำหนังฟอร์มใหญ่อีกเรื่องครับ
ความรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้บอกเลยว่า ตื่นเต้นตั้งแต่ได้ข่าวว่าโนแลนด์จะทำหนังเกี่ยวกับการเดินทางข้ามอวกาศ ค้นหาดาวดวงใหม่ โดยเฉพาะในตัวอย่างหนังที่เราได้ดู ยิ่งปลุกความสงสัยความอยากรู้ว่าผู้กำกับจะใส่ไอเดียอะไรลงไปในหนัง ยิ่งขึ้นชื่อเรื่องไอเดียแปลกๆ สดใหม่ในหนังทุกๆเรื่องอยู่แล้วด้วย โอย อดใจรอแทบไม่ไหว(ถึงขนาดฝันว่าได้ดูหนังก่อนเข้าฉายวันนึง อันนี้จริงเลยนะครับ ไม่ได้เวอร์5555)
หนังว่าด้วย โลกมนุษย์กำลังเสื่อมสภาพ อาศัยอยู่เริ่มจะลำบากแล้ว ปลูกพืชอะไรกินเริ่มจะไม่ได้แล้ว ทางนาซ่าก็เลยมีโครงการลับๆ โครงการหนึ่งด้วยการส่งทีมนักบินอวกาศหรือทีมสำรวจ ออกไปดูซิ ว่าดาวดวงไหนพอที่จะย้ายคนไปอยู่ได้ บอกเลยครับหนังมีทุกอย่างเกี่ยวกับจักรวาลที่เราเคยได้ยินได้เรียนมา ไม่ว่าจะเป็น หลุมดำ รูหนอน ทฤษฎีสัมพัทธภาพ มิติที่3ที่4ที่5 บวกกับไอเดียจินตนาการของผู้กำกับ ทำให้หนังน่าสนใจมากๆ และสำคัญหนังทำออกมาได้สนุกสุดๆเลยครับ จำได้ว่าตอนที่หนังออกฉายให้ดูกันแล้วเนี่ย หนังได้ตั้งคำถามมากมาย ตั้งกระทู้มากมาย ให้คนที่ดูหนังแล้วมาเสวนากัน เถียงกัง บลัฟกัน สนุกสนานกันใหญ่เลยเกี่ยวกับทฤษฎีที่เกี่ยวกับอวกาศที่หนังใส่ลงไป ประมาณว่าหนังจบแต่คนยังไม่จบ5555
หนังดีมากๆครับ คารค่าแก่การรับชมอย่างยิ่ง ถึงแม้จะไม่ค่อยมีพื้นฐานเรื่องจักรวาลอวกาศอะไรแบบนี้เท่าไหร(เหมือนผม)หนังก็ยังดูสนุกได้แน่นอนครับ
ลำดับที่ 5
Sicario (2015)
ชอบมากๆ มากถึงมากที่สุด ดูไปหลายรอบมากวันก่อนก็เพิ่งดู นี่ก็ว่าจะดูอีกรอบ 5555 โอเวอร์อีกแระ
หนังเล่าถึงสงครามยาเสพติดระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐฝั่งอเมริกากับมาเฟียค้ายาฝั่งเม็กซิโก ปัญหานี้มันเรื้อรังมานานไม่มีทางกำจัดได้ให้หายขาดอย่างที่รู้ๆกันอยู่
แต่หนังเล่าผ่านสายตาตัวละครเจ้าหน้าที่ FBI หญิงมือใหม่คนหนึ่ง ที่ได้รับคำสั่งจากเบื้องบนให้มาร่วมงานกับเจ้าหน้าที่ภาคสนามกลุ่มหนึ่ง ที่มีวิธีการทำงานที่ทำให้เธออึดอัด สงสัย ว่าคนที่เธอทำงานด้วยเป็นใคร ไปยังไงมายังไง จนทำให้เราคนดูก็สงสัยเหมือนกัน
หนังเดินเรื่องแบบสมจริงมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของตัวละครแต่ละคน การพูด ภาษากาย โดยเฉพาะฉากในตัวเมืองฮัวเรสในเม๊กซิโกนี่คือ โคตรเรียลมากๆ พูดแล้วขนลุก เพราะว่าหนังสร้างบรรยากาศให้ดูอันตราย ไม่น่าไว้ใจ อาจจะโดนซุ่มโจมตีได้ทุกเมื่อ ซึ่งในจุดนี้หนังทำได้ดีมากๆครับ
หนังไม่ได้เน้นแอ๊กชั่นอะไรนะครับ เน้นบรรยากาศอึมครึม เน้นความให้สงสัยว่าจะเกิดอะไร และพวกที่เธอทำงานด้วยวางแผนจะทำอะไรกัน มีลับลมคมในอะไรกัน โอยยย ว่าแล้วใครที่ชอบหนังแนวยาเสพติด ค้ายา มาเฟีย อะไรพวกนี้ก็รีบไปดูเลยครับ
ปล.ภาพที่แปะไว้คือฉากที่พีคมาก5555
จบแล้วนะครับ
ช่วยกันอ่านหน่อยน้าาา จะเป็นกำลังใจได้อย่างดีเลย จะได้มีแรงเขียนอีก
ขอบคุณมากนะครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
