สตาร์ทอัพการแพทย์ลวงโลกที่มีมูลค่ากว่า
300,000ล้าน
http://elitebusinessmagazine.co.uk
ในปี2014นั้นบริษัท theranos ถูกจับตามองเป็นอย่างมากในด้านเทคโนโลยีการแพทย์
โดยปกติแล้วเราจะต้องเจอะเลือดแล้วเสียเวลาตรวจนานเป็นหลายชั่วโมง แต่เทคโนโลยีของบริษัทนี้ใช้เวลาเพียง30นาที
กับเลือดไม่กี่หยดก็เพียงพอที่จะ ตรวจโรคได้กว่า200ชนิดแล้ว
วัตนกรรมนี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับนักลงทุน เพราะเป็นสิ่งแปลกใหม่ ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงถึง 270,000 ล้านบาท
และมูลค่าทรัพย์สินของผู้ก่อตั้งอย่าง Elizabeth Holmes ก็พุ่งสูงถึง160,000ล้านบาท ติดอันดับเศรษฐีอายุน้อยเลยทีเดียว
แต่ทุกอย่างก็จบลงอย่างง่ายดายเมื่อความจริงถูกเปิดเภยว่าเป็นเรื่องโกหก
ย้อนความกลับไป Elizabeth Holmes เกิดในตระกูลที่เพียบพร้อม แม่เป็นเจ้าหน้าที่คณะกรรมการสภา พ่อเป็นรองประธานบริษัทพลังงาน สิ่งเหล่านี้ทำให้การศึกษาของเธอดี
เขียนโปรแกรม พูดจีนได้ ต่อมาเธอได้เข้าศึกษาในมหาลัยชั้นนำแบบstanford โดยเรียนด้านวิศวเคมี
ในปี2002 เธอได้ความคิดว่าจะทำแผ่นแปะตรวจโรค โดยเพียงแค่เอาแผ่นนี้ไปแปะก็สามารถระบุได้ว่าเป็นโรคอะไร โดยเธอได้นำไปเสนอศาสตราจารย์ แต่ก็ถูกพับไปเนื่องจาก
เป็นไปได้ยากจนเกินไป
เธอจึงตัดสินใจลาออกจากมหาลัยมาทำตามฝันตัวเอง โดยในปี2003เธอได้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา และเริ่มระดมทุน มันไม่ใช่เรื่องยากเพราะฐานะทางบ้านดีอยู่แล้ว เธอระดมทุนได้200ล้านบาทภายใน1ปี
ในปี2005 เครื่องตัวแรกได้ถูกก่อตั้งขึ้น โดยเป็นเครื่องตรวจโรคและให้ยา
ในปี2007 นวัตกรรมแห่งอนาคตถูกสร้างขึ้น
มันคือเครื่อง Edison หรือเครื่องตรวจเลือด
โดยใช้เลือดเพียงไม่กี่หยดเท่านั้น ก็สามารถวิเคราะห์อาการได้
เป็นที่ฮือฮาอย่างมากในทุกวงการเนื่องจากหลักการทำงานที่เป็นความลับ แต่เธอก็ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุผลว่า มันเป็นความลับบริษัทไม่สามารถเปิดเภยได้
ในปี2014 บริษัทแห่งนี้สามารถขายหุ้นได้5.6ล้านหุ้น และบริษัทมีมูลค่าทรัพย์สินประมาณ270,000 ล้านบาท
เธอผู้ก่อตั้งบริษัทได้โด่งดังอย่างมาก ทั้งออกปกนิตยสาร ออกทีวี ออกพูด
แต่แล้วในปี2015 John carreyrou จากนิตยสาร Wall Street journal ได้รู้สึกแปลกๆ
กับเรื่องนี้ และทำการร้องเรียน ว่าผลตรวจที่นี่ไม่ตรงกับที่อื่น เครื่องมือในแล็บดูไม่ได้มาตราฐาน เขาจึงได้ลองตรวจสอบและสืบจากอดีตพนักงานบริษัท
จนความจริงถูกเปิดเภยว่าบริษัทนี้ นำเลือดไปผสมสารเคมี เพื่อเพิ่มปริมาณและนำไปตรวจกับเครื่องมือทั่วๆไป ที่บริษัทอื่นก็มี
ทุกอย่างเป็นเรื่องหลอกหลวง
ในปี2016 อย.และกลต.ของอเมริกาได้ตรวจสอบอย่างจริงจังจนในปี2018
Elizabeth Holmes โดนโทษฐานหลอกหลวง
เธอต้องชำระค่าปรับราว15ล้านบาท รวมถึงคืนหุ้นบริษัท18ล้านหุ้น และห้ามดำรงตำแหน่งบริษัทอื่นๆอีก10ปี และในที่สุดบริษัทก็ต้องปิดตัวลง โดยสร้างความโกรธให้กับนักลงทุนอย่างมากพร้อมทั้งสัญญากับพวกเขาว่าจะหาเงินมาคืนให้ได้ โดยคดีของเธอจะถูกพิพากษาในปี2020 ช่วงเมษา
หากผิดจริงอาจจะต้องจ่ายประมาณ8ล้านและจำคุก20ปีเลยทีเดียว
ขอบคุณที่มา billion mindset,theranos,
Elizabeth Holmes
- 11
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
