4 ต.ค. 2019 เวลา 17:48 • สุขภาพ
EP.1 นานาสารพัน..วัตถุดิบปรุงแต่น้ำปลาหวาน
ว่าด้วยเรื่องของ.. "น้ำตาล"
วัตถุดิบพื้นฐานอย่างแรกในการจะเริ่มเคี่ยวน้ำปลาหวานก็คือ "น้ำตาล"
ตามความเคยชินเราก็จะนึกถึงน้ำตาลปี๊บ เหลวๆ เหลืองๆ ในถุงพลาสติก
แต่เราจะรู้มั้ยว่า.. มันมีน้ำตาลอยู่ 2 ประเภทให้เราเลือกเพื่อมาทำน้ำปลาหวาน
"น้ำตาลมะพร้าว"
ในตลาดจะมีทั้งแบบเป็นปี๊บ, เป็นก้นหอยหรือหยอดมาเป็นฝาๆ หรือบรรจุมาในถ้วยพลาสติก มีด้วยกันหลากหลายราคา อยู่ในช่วง 30-50 บาท ส่วนใหญ่ที่เจอในท้องตลาดจะไม่ใช่น้ำตาลมะพร้าว 100% มักจะมีส่วนผสมของน้ำตาลทรายปนเข้ามา % ตามแต่ละเจ้าว่าจะผสมเข้ามาเท่าไหร่เพื่อเพิ่มปริมาณ
น้ำตาลมะพร้าวแบบฝา > Cr.ภาพจากบ้านทิพย์สวนทอง
น้ำตาลมะพร้าวแบบเป็นก้นหอยหรือฝา.. ก็มีส่วนผสมของน้ำตาลทรายเข้ามาประมาณ 10-20% ว่ากันว่าเพื่อให้มันสามรรถขึ้นรูปได้เวลาแข็งตัว หากเป็นน้ำตาลมะพร้าว 100% มันจะเหลวและนิ่มเกิน
น้ำตาลมะพร้าวแบบก้นหอย Cr.ภาพจากเจ้าของภาพ
น้ำตาลมะพร้าวแบบก้นหอย.. จะมีลักษณะแข็ง ก่อนทำต้องเอามาหักหรือทุบให้แตกก่อนจึงจะละลายได้ง่ายขึ้น
น้ำตาลมะพร้าวแบบถ้วยหรือขันน้ำCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการขึ้นรูปน้ำตาลมะพร้าว.. หยอดลงถ้วยให้ได้ปริมาณเยอะๆ เช่น 1 กก. การนำไปใช้ก็ต้องหักหรือทุบให้แตกก่อนเช่นกัน
น้ำตาลมะพร้าวแบบถุงหรือน้ำตาลปี๊บCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
รูปแบบที่เราเห็นกันในตลาดสดหรือทั่วๆไป โดยเริ่มจากน้ำตาลมะพร้าวที่ถูกบรรจุมาในปี๊บ แล้วร้านชำก็เอามาตักเพื่อแบ่งขายเป็นถุงๆละ 1 กก.
น้ำตาลมะพร้าวแบบบรรจุถุงจากโรงงานCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
เป็นอีกรูปแบบของน้ำตาลมะพร้าวที่มีมาตรฐานระดับโรงงานรับประกันความสะอาดและคุณภาพที่ดี แต่ราคาจะสูงกว่าแบบท้องตลาด
จั่นมะพร้าวCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
น้ำตาลมะพร้าวได้มาจากการนวดจั่นมะพร้าวที่อยู่บนยอดต้นมะพร้าว หลังจากนวดแล้วก็จะปาดเนื่อบางส่วนออก แล้วเอากระบอกไม้ไผ่มาสวมตรงบริเวณที่ปาด เพื่อให้น้ำจากจั่นมะพร้าวไหลออกมา และน้ำนั้นก็จะเอาไปเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำตาลมะพร้าวต่อไป
การเคี่ยวน้ำตาลมะพร้าวCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
น้ำตาลที่ไหลออกมาจากจั่นมะพร้าว จะถูกชาวสวนน้ำมาเคี่ยวในกระทะที่ตั้งบนเตาไฟ แล้วเคี่ยวจากน้ำเหลวๆให้ข้นขึ้นจนเป็นน้ำตาลข้น โดนจะต้องกวนอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้น้ำตาลไหม้ ก่อนที่จะบรรจุลงภาชนะต่างๆ
น้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ.. จะมีกลิ่นที่หอมและรสหวานนุ่นนวล ไม่หวานแหลมแบบน้ำตาลทราย จึงเหมาะกับการนำมาเป็นวัตถุดิบหลักในการทำน้ำปลาหวานอย่างยิ่ง
น้ำตาลมะพร้าวแบบกระปุกCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
ลักษณะน้ำตาลมะพร้าวที่ดีจะมีสีเหลืองนวลๆ เนื้อละเอียด รสหวานนิ่มๆ
ไม่แข็งมาก กลิ่นหอม
"น้ำตาลโตนด"
น้ำตาลอีกประเภท ที่นิยมนำมาทำน้ำปลาหวาน รสชาติโดดเด่นและหอมกว่าน้ำตาลมะพร้าวมาก แต่ราคาก็จะแพงกว่าเป็นเท่าตัว สนนราคาประมาณ 60-80 บาท/กก. หรือบางร้านขายที่ราคา 100-120 บาท/กก. แล้วแต่ว่าเป็นน้ำตาลโตนด 100% หรือมีส่วนผสมของน้ำตาลทรายปน
น้ำตาลโตนดแบบก้นหอยCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
สีของน้ำตาลจะเข้มกว่าน้ำตาลมะพร้าว เนื้อสัมผัสละเอียด กรรมวิธีในการทำคล้ายกัน ต่างกันแค่วัตถุดิบหลักที่เอามาทำมาจากพืชคนละชนิด น้ำตาลโตนดได้มาจากต้นตาล ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรี ส่วนน้ำตาลมะพร้าวจะมาจากจังหวัดสมุทรสงคราม
ต้นตาลโตนาดCr.ภาพจากเจ้าของภาพ
ในการทำน้ำปลาหวาน.. ส่วนใหญ่นิยมใช้น้ำตาลมะพร้าวมาเป็นวัตถุดิบหลัก เนื่องจากหาง่าย ราคาพอรับได้ รสชาติอร่อย หอมพอประมาณ
แต่หากอยากได้น้ำปลาหวานที่รสชาติเข้มข้น กลิ่นหอมมาก อร่อยไปอีกแบบ ก็จะใช้น้ำตาลโตนดมาเป็นวัตถุดิบแทนน้ำตาลมะพร้าว แต่ด้วยราคาที่สูงกว่าเป็นเท่าตัว ในเชิงการค้าจึงยังไม่ค่อยนิยมเอามาทำการผลิตเพื่อขาย
จบข่าว..
โฆษณา