จะมารีวิวการเลือกสอบ PAT 7 ภาษาบาลี วิชาที่ใครๆก็คิดว่าสอบไปทำไม? เข้าไปมั่วก็ได้คะแนน 100+ แล้ว #อย่าคิดว่ามันง่าย มั่วกับทำจริงๆคะแนนมันก็ต่างกัน 100 คะแนนเหมือนกัน เราในฐานะผู้มีประสบการณ์สอบจริงมา 1 ครั้งจะขอฝากภาษาบาลีไว้ให้น้องๆ #dek63 หรือใครก็ตามที่จะซิ่วใหม่เก็บเอาไว้พิจารณาเป็นตัวทำคะแนนให้ได้สูงๆ
คำถามทำไมต้องสอบบาลี
1.สอบบาลียื่นที่ไหนได้บ้าง?
ส่วนนี้เราขอมุ่งเน้นไปที่ จุฬา-ธรรมศาสตร์ เพราะคนส่วนมากสอบบาลีเพื่อยื่นมหาลัยเหล่านี้กันเยอะ
**รอบ 3 สามารถยื่นคณะต่างๆได้ดังนี้
• จุฬาฯ
- คณะอักษรศาสตร์ ใช้บาลีเป็นองค์ประกอบ 25% จาก 4 วิชา
- คณะรัฐศาสตร์ (ทุกสาขา) ใช้บาลีเป็นองค์ประกอบ 30% จาก 2 วิชา
• ธรรมศาสตร์
- คณะศิลปศาสตร์ (สาขาปรัชญา)
**รอบ 4 (แอดมิชชั่น) จะยื่นได้บางคณะ/สาขา เนื่องจากบางคณะเปิดโอกาสให้คนที่จะยื่น PAT 1 ยื่นเป็นพื้นฐานวิทย์เป็นหลัก
• จุฬาฯ
- คณะรัฐศาสตร์ (ยื่นได้เฉพาะสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) สาขาอื่นใช้ GAT ล้วน/PAT 1 ยื่น จะเห็นได้ว่าคะแนนสาขาอื่นสูงกว่า เพราะมันไม่ใช้บาลีเป็นองค์ประกอบ
• ธรรมศาสตร์
-คณะศิลปศาสตร์ ทุกสาขา ยกเว้นสาขาภาษาอังกฤษ และบางสาขาที่ใช้คะแนนเฉพาะ
2. ทำไมต้องสอบบาลี วิชาอื่นก็ได้
คนที่สอบได้คะแนนเยอะๆ ส่วนนึงก็มาจากไหวพริบในการเลือกสอบ ไม่ใช่สักแต่ว่าสอบ แล้วภาวนาให้ได้คะแนนเยอะๆ บ้าบอนะแบบนี้ เราจะพามองเป็นสองกรณี กรณีแรกเด็กส่วนนึงเป็นเด็กวิทย์-คณิต แต่อ่อนคณิต และไม่อยากเข้าคณะที่ต้องสอบ PAT 1 จะให้สอบภาษาที่ 3 ก็ไม่รู้จะสอบอะไร เลยตัดสินใจเลือกสอบมั่ว และเข้าไปทำข้อสอบแบบมั่วๆเช่นกัน
กรณีที่สอง เด็กส่วนนึงเป็นสายศิลป์ แต่อ่อนภาษาที่ตนเรียนเหลือเกิน แต่คณะที่จะเข้าบังคับใช้ จำเป็นต้องสอบ คะแนนออกมามันก็เลยฝืนใจเราเหมือนตอนที่เราฝืนไปสอบเช่นกัน
คำตอบ!
เราจะมาบอกทริคให้ได้คะแนนสูงๆตามวิถีเด็กเก่งปกติทั่วไป
-สายวิทย์ ถ้ารู้ว่าเราไม่เก่งคณิตมากพอที่จะทำให้PAT1 ได้คะแนน 120+ แนะนำให้ถอย เพราะมันมีเด็กเก่งกว่าเรา เช่นเด็กเตรียมฯ มาตรฐานเขาอยู่ที่ 150++ อยู่แล้ว จะไปยื่นเเข่งทำไม เลี่ยงได้เลี่ยง
-สายศิลป์ ถ้ารู้อีกว่าตนไม่ถนัดภาษาที่เรียนอยู่ก็ควรเลี่ยง อย่าฝืนสอบเพราะไงก็สู้เด็กเก่งขั้นสุดอย่างเด็กเตรียมฯไม่ได้ มาตรฐานเขาอยู่ที่ 250+ อย่าคิดเอาคะแนน 100+ ที่มั่วได้ไปแข่ง แพ้ตั้งแต่ยื่น! ฝากไว้ให้คิด
3. ประโยชน์ของการสอบบาลี
แน่นอนว่าประโยชน์มีมากพอที่จะติดมหาลัยดัง คณะดีได้เช่นกัน อย่าลืมว่าคนที่สอบ PAT 7 ทุกภาษาต้องแข่งกัน ก็คือคณะรับร่วมกันทุกภาษา ใครจะสอบอะไรก็ได้ แต่คณะก็ตัดคะแนนที่สูงที่สุด จึงเรียกว่าคณะรับร่วม จาก 2 กรณีดังที่กล่าวมาในข้อ2 ประโยชน์โดยตรงจะเป็นส่วนนี้ ส่วนที่ดึงคะแนนรวมให้เยอะ เป็นที่น่าพอใจของเรา ฉะนั้นภาษาบาลีจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะขับเคลื่อนคะแนนเราสู่ 20,000 คะแนน เพราะบาลีเป็นวิชาที่ไม่ง่ายและไม่ยาก เพียงแค่ "ท่องได้ จำได้ ทำได้" สโลแกนนี้เราใช้มาแล้ว เวิร์คจริง ผลลัพธ์ก็ดังรูปที่แนบไว้ แน่นอนว่ามีคนจำนวนน้อยที่เลือกสอบบาลี และก็มีส่วนน้อยที่ได้ 200+ นับจำนวนคนได้เลย เพราะมันน้อยจริง ส่วนภาษาอื่นๆเป็นภาษายอดนิยม คนสอบจำนวนมาก แต่ก็มีจำนวนน้อยที่ได้ 200+ เช่นกัน คนที่เก่งจริงๆก็จะอยู่ 250+ เป็นที่แน่นอนสำหรับภาษายอดนิยมอย่างภาษาจีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ของเด็กเตรียมฯ เราถ้ารู้ตัวว่าพื้นฐานไม่แน่นขนาดนั้น จะไปเริ่มเก็บในเวลา 3 เดือนยังไงก็ไม่ทัน แต่บาลีมันใช้ภาษาไทย เราอ่านออก เราเข้าใจในภาษาไทย เพียงแต่ต้องศึกษาไวยกรณ์+วิธีการอ่านแบบบาลี ในเวลา 3 เดือนต่อให้เริ่มใหม่ก็ทัน เพราะมันอ่านออกอยู่แล้ว แค่ตั้งใจกับมัน
จากที่ผู้อ่านได้อ่านมาทั้งหมด ผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก หรือมีข้อสงสัยตรงไหนสามารถ comment สอบถามเพิ่มเติมได้เสมอครับ
ปล.ขออนุญาตอ้างชื่อเด็กเตรียมฯ ในการยกตัวอย่างประกอบการอธิบาย เพื่อให้เห็นภาพ ไม่ได้มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงแต่อย่างใด ขอบคุณครับ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
