จุดโทษท้ายเกม+ชนะ100%
คุยหลังเกม+ตัดเกรดนักเตะ
นัดลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์ชนะเลสเตอร์ 2-1
วันนี้ลิเวอร์พูลใช้ไลน์อัพเหมือนเดิมหมด มีแค่ลอฟเลนมาแทนมาติปที่ยังเจ็บอยู่ ที่เหลือฟูลทีม เหมือนเกมสัปดาห์ที่แล้วเปะ
ครึ่งแรกลิเวอร์พูลเล่นได้ดี ครองเกมทั้งหมด เลสเตอร์แทบไม่ขึ้นเกินครึ่งสนามเลย โดนตัดตลอด สาดยาวไปกองหลังลิเวอร์พูลเก็บได้หมด
เกมนี้กอลกลางตัวรับของทั้ง 2 ฝั่งโดนเหลืองตั้งแต่ครึ่งแรกทำให้การเบรกเกมต้องเข้าโดยคนอื่น
ในครึ่งแรกมาเน่ยืนฝั่งขวา ซาร่ายืนหน้าเป้า
ฟิร์มิโน่ยืนฝั่งซ้าย
มาเน่เผา เบน ชีเวลด์เป็นว่าเล่น ทำให้ฝั่งขวาเลสเตอร์มีปัญหามากในครึ่งแรก แต่โชคดีที่โซยุนชูเข้าสกัดในจังหวะสุดท้ายได้ตลอด
อาร์โนลก็ได้ครอสง่ายดาย เกือบแอสซิสได้หลายครั้ง ทั้งลูกที่ครอสเลยไปถึงมิลเนอร์ยิงข้ามคาน และ ครอสเข้ามาฟิร์มิโน่ชาร์ตพลาด
ในครึ่งแรกเลสเตอร์ไม่มีโอกาสยิงเลยซักครั้ง ลิเวอร์พูลตัดเกมเร็วตลอด ตัดตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งสนาม
การวางบอลยาวของเลสเตอร์ไม่ได้ผลเลย ลอฟเลน กับ ฟานไดจ์เก็บได้หมด
ประตูแรกมาจากการเปิดบอลยาวของมิลเนอร์ อิแวนกะจังหวะบอลพลาดทำให้มาเน่หลุดเดี่ยวยิงเข้าไป กลายเป็นประตูที่ 50 ของเขากับลิเวอร์พูล จากการลงเล่น 100 นัด โดยเฉพาะช่วงหลังๆยิงกระจุย
เริ่มครึ่งหลังลิเวอร์พูลยังคงคุมเกมอยู่
มีอยู่จังหวะหนุ่งที่ผมชอบมาก ตอนที่มาเน่-ซาร่าชิ่งกัน แต่ยิงติดเซฟชไมเคิ่ล
แต่อาร์เดียนก็ไม่แพ้กัน สามารถสกัดจังหวะที่วาร์ดีหลุดเดี่ยวมาได้
หลังจากนั้นเลสเตอร์ก็เปิดเกมบุกของตัวเองทำให้ลิเวอร์พูลโงหัวไม่ขึ้นอยู่พักหนึ่ง และก็ได้ประตูจาก การยิงตรงกรอบครั้งแรกของเจมส์ แมตดิสันในนาทีที่ 80 ซึ่งอีก 10 นาทีก็หมดเวลา
แต่แทนที่เลสเตอร์จะเล่นรับเหมือนทีมล่างๆ แต่เขากับบุกต่อเพื่อหวังชัยชนะ แต่ถึงอย่างนั้นเหมือนร็อดเจอร์เหมือนอยากให้ลูกทีมหยุดและเล่นรับโดยการถอด
แมตดิสันออกและส่งกลางเข้ามาแทน
ทันใดนั้นลิเวอร์พูลก็ได้จุดโทษจากการที่
มาร์ค อัลไบตันไปเกี่ยวขา ผมมองว่าลูกนี้ให้ได้ คือ ถ้าเป็นกองหลังที่เก๋าๆหน่อยจะเตะทิ้งกันไว้เผื่อโดนฉกเหมือนลูกนี้
และเป็นมิลเนอร์คนยิงจุดโทษหมายเลขหนี่งของลิเวอร์พูลที่ยิงเข้าไปได้เฉียบขาด
จังหวะหลังเกมที่ทะเลาะกัน คือ โรเบอร์สันไปต้องตัวเปเรสหลังจบเกม ก่อนหน้านี้ที่เปเรสมาหัวเราะใส่ก่อนตอนที่เลสเตอร์ตามตีเสมอ แต่ก็ไม่มีอะไรมาก นักเตะทั้งสองฝ่ายมาห้ามกันไว้ เรื่องไม่บานปลาย
เลสเตอร์ยิงได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้นในเกมนี้ และเข้ากรอบ 1 เป็น 1 ประตู
ขณะที่ลิเวอร์พูลยิง 18 ครั้ง ตรงกรอบ 8 เป็น 2 ประตู
มาเน่ 3 ครั้ง 1 ประตู
ซาร่า 5 ครั้ง
ฟิร์มิโน่ 3 ครั้ง
มิลเนอร์ 3 ครั้ง 1 ประตู
ลอฟเลน ฟานไดจ์ ร็อบโบ้ ไวจ์นาลดุม คนละ 1 ครั้ง
ถ้าดูจาก Heat map ด้านล่างแล้ว เลสเตอร์ไม่สามารถเข้าถึงในกรอบเขตโทษของลิเวอร์พูลไม้มากนัด ฝั่งปีกขวาเงียบมากเกมนี้
ตัดเกรดนัดเตะลิเวอร์พูล โดยผมเอง
อาเดรียน 6.5 - ไม่มีอะไรผิดพลาด ลูกที่เสียน่าจะทำได้ ดีกว่านี้นิดนึง
อาร์โนล 7.7 - ครอสบอลได้วูบวาบ แต่คนยิงยังไม่คม
ร็อบโบ้ 7 - วันนี้ดูเงียบๆ แต่เกมรับก็ยังดีเหมือนเดิม
ฟานไดจ์ 7.5 - เก็บได้หมด ผ่านคนนี้เขายาก
ลอฟเลน 7.5 - แทนมาติปได้สบาย สกัดจังหวะสุดท้าย ได้หลายครั้ง
มิลเนอร์ 8 - จุดโทษนิ่งเฉียบขาด+ 1 แอสซิสต์
ไวลนาลจ์ดุม 6.5 - ยังไม่เป็นซีดุม เป็นตัวเพรส+เชื่อม
ฟาบิญโญ่ 7 - ตัดเกมดี บางจังหวะช้าไปหน่อย
ฟิร์มิโน่ 6.5 - วันนี้เงียบๆพออยู่ฝั่งซ้าย ทำอะไรไม่เข้าทางไปหมด
ซาร่า 7 - เชื่อมบอลกับมาเน่ดีมาก เหลือแค่จังหวะจบ
มาเน่ 8 - เผาชีเวลจนไหม้เกรียม + 1 ประตู
เป็นการกลับมาของร็อดเจอร์ในแอนฟิลด์ครั้งแรกหลังจากที่อำลาลิเวอร์พูลไป
ซึ่งเขาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมเจอร์ลิเวอร์พูลว่า เขาเข้าใจได้ที่ถูกปลดจากกุนซือลิเวอร์พูล เพราะ การแต่งตั้งคล็อปป์ มาเป็นกุนซือ เขาสามารถพาลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ UCL และ ทำได้อย่างยอดเยื่อมในพรีเมียร์ลีค
และแอบมีแซวขำๆ เนื่องจาก คล็อปป์เช่าบ้านต่อจาก
ร็อดเจอร์ สองคนนี้ชอบแซวกันเรื่องนี้อยู่แล้ว
ถ้าชอบวิเคราะห์แบบนี้ขอไลค์เป็นกำลังใจ และสามารถกดติดตามเพจได้เพื่อจะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
