#โรงแรมซาวอย ประวัติศาสตร์ของโรงแรมที่หรูที่สุดในโลก
สิ่งที่ดีที่สุดในการมีชีวิต คือการได้ใช้ชีวิตตามอย่างที่ใจปรารถนา อย่าไปเชื่อหากมีคนบอกคุณว่าเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วอย่าไปทำงานอะไรให้มันเยอะแยะ มีมากไปสุดท้ายตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้ เพราคำพูดแบบนี้มันเป็นของคนขี้แพ้ที่ยอมจำนนกับความกลัวจนไม่กล้าทำอะไร
มีใครบ้างจะไม่อยากนั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสเวลาเดินทาง หรือมีใครบ้างที่ไม่อยากเข้าพักโรงแรม 5 ดาวหรือกินข้าวในภัตตาคารหรูถ้าโอกาสเอื้ออำนวย ขอยอมรับแบบไม่อายเลยนะคะว่าฉันคนหนึ่งล่ะที่อยากมีโอกาสสัมผัสและลิ้มลองกับบรรยากาศแบบนี้สักครั้งในชีวิต และแน่นอนว่าถ้าคุณอยากได้รับการบริการพิเศษในสถานที่พิเศษแบบนี้คุณต้องใช้ “เงิน” ฉันไม่ได้อยากชี้นำให้คุณเป็นคนโลภหรือโอ้อวดความร่ำรวย แต่ฉันแค่อยากแนะนำให้คุณเปิดตาให้กว้างขึ้นกว่าเดิม รู้จักออกไปเรียนรู้โลกภายนอกและมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต แล้วเมื่อคุณได้มีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริงมากขึ้นคุณจะมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้นด้วย และนี่เป็นกุศโลบายที่ทำให้ฉันกล้าลงมือทำในสิ่งใหม่ ๆ
ในประเทศฝรั่งเศสนั้นคนฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับการ “กิน” มาก เพราะเขาถือว่าประเทศของเขาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารมากมาย ทั้งผลไม้ เนื้อสัตว์ ขนมปัง เนย ไวน์ ของกินทุกอย่างที่ขึ้นชื่อติดอันดับโลกส่วนใหญ่ล้วนมาจากประเทศฝรั่งเศสทั้งนั้น วัฒนธรรมการกินของคนฝรั่งเศสก็มีความพิถีพิถันกันสุด ๆ จนถือกำเนิด “มิชลินไกด์” หรือ “กีดมิชแล็ง” หนังสือในตำนานจากสองพี่น้องมิชลินผู้ผลิตยางรถยนต์ชื่อดังยักษ์ใหญ่ของโลก มิชลินไกด์ เป็นหนังสือแนะนำโรงแรมและร้านอาหารที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกและรางวัล “ดาวมิชลิน” เพื่อมอบให้แก่ร้านอาหารชั้นยอดจากทั่วโลก ชาวฝรั่งเศสนั้นเห็นว่าเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ ฉันเคยอ่านเจอจากหนังสือเล่มหนึ่งว่าสามีภรรยาชาวฝรั่งเศสที่เป็นชนชั้นแรงงานจะชวนกันนำเงินที่เก็บออมไว้ส่วนหนึ่งไปเป็นค่าใช้จ่ายในการกินอาหารมื้อดีๆในภัตตาคารที่ได้รับดาวจากมิชลินปีละครั้งในวันพิเศษ ฉันชื่นชมวิธีคิดแบบนี้มากเพราะถึงแม้ชีวิตเราจะมีข้อจำกัดแต่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นและตั้งใจอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ฉันเองก็มีความฝันอยากมีโอกาสเข้าพักในโรงแรมชั้นนำที่หรูที่สุดของโลกอย่างเช่น “โรงแรมซาวอย” สักครั้งเหมือนกัน โรงแรมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราและเต็มไปด้วยรสนิยมชั้นสูง เป็นต้นแบบการทำธุรกิจโรงแรมของโลก โรงแรมหรูที่มีบุคคลระดับโลกบริหารและเดินทางเข้าไปพักมากมาย หากมีโอกาสสักครั้งคงสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมไปเหมือนกัน
ประวัติความเป็นมาของโรงแรมซาวอย (Savoy Hotel)
โรงแรมซาวอย ก่อสร้างโดย ริชาร์ด ดี โอลี่ คาร์ท เปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1889 ใช้เวลาก่อสร้าง 5 ปี เป็นโรงแรมหรูแห่งแรกของอังกฤษและเป็นอาคารสาธารณะแห่งแรกของโลกที่ให้แสงสว่างโดยไฟฟ้าทั้งหมด ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างหรูหรามองเห็นทัศนียภาพที่งดงามของแม่น้ำเทมส์ ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อThomas Edward Collcutt โรงแรมมีทั้งหมด 12 ชั้นมีห้องพักไว้บริการ 267 ห้อง ตกแต่งในสไตล์เอ็ดเวิร์ดหรือสไตล์อาร์ตเดโค ค่าห้องพักอยู่ที่ 250-10,000 ปอนด์ต่อคืน มีห้องอาหารและบาร์หลายห้องที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกรุง London และ มี “บัตเลอร์” (Butler) หรือพ่อบ้านส่วนตัวไว้คอยบริการสำหรับลูกค้าที่เช่าห้องพักราคาตั้งแต่ 3,000 ปอนด์ขึ้นไป
ชื่อซาวอย (Savoy) เป็นชื่อราชวงศ์และราชตระกูลที่เก่าที่สุดในโลกทางฝั่ง ฝรั่งเศส สเปน และ โครเอเชีย โรงแรมซาวอยเคยถูกซื้อโดยเจ้าชายอัลวาลีด บิน ทาลาล แห่งซาอุดีอาระเบีย หนึ่งในมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. 2007 ด้วยราคาประมาณ 250 ล้านปอนด์ และปิดปรับปรุงไป 3 ปีด้วยงบประมาณ 100 ล้านปอนด์และงบที่บานปลายเพิ่มขึ้นอีก 120 ล้านปอนด์ โรงแรมซาวอยเปิดให้บริการอีกครั้งในเดือน ตุลาคม ปี ค.ศ. 2010 ตอนนี้โรงแรมบริหารโดย Fairmont Hotels and Resorts มันถูกเรียกว่า “โรงแรมที่โด่งดังที่สุดของลอนดอน”
(ข้อมูลจากwikipedia)
โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1889 เป็นโรงแรมที่หรูหราโอ่อ่าที่สุดในอังกฤษยุคนั้น บริหารงานโดย ซีซาร์ ริทซ์ (César Ritz) ซึ่งต่อมาได้รับสมญานามว่าเป็น “บิดาแห่งการโรงแรม” ของโลก และมีคนที่ประกอบอาหารอร่อยที่สุดในโลก คือ ออกุสต์ เอสกอฟฟิเยต์ (Auguste Escoffier) ซึ่งได้รับยกย่องเป็น “บิดาแห่งการครัว” โรงแรมนี้ยังเคยให้การต้อนรับบุคคลสำคัญของโลกหลายท่าน ทั้งราชวงศ์ นักการเมือง นักแสดงและนักกีฬาที่มีชื่อเสียงของโลกต่างพากันเดินทางมาที่นี่ อาทิเช่น เซอร์วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์อังกฤษ แฟรงก์ ซินาตรา ศิลปินนักแสดงและนักร้องชื่อดังชาวอเมริกา มาริลิน มอนโร อดีตนักแสดง นักร้อง นางแบบชาวอเมริกัน ชาร์ลี แชปลิน นักแสดงชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง และอีกหลาย ๆท่านที่ไม่ได้เอามากล่าว ผู้เข้าพักที่มีชื่อเสียงเหล่านี้จะทำให้ผู้เข้าพักคนอื่น ๆ มีความตื่นเต้นและเกิดความคาดหวังว่าจะเจอคนดังเดินผ่านให้เห็นกันบ้าง หรือขึ้นลิฟต์ไปด้วยกันหรือนั่งอยู่โต๊ะอาหารตรงข้ามกัน มันจึงเป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของโรงแรมซาวอยที่ดึงดูดให้ผู้คนทั่วไปหลั่งไหลไปพัก
ฉันนำเอาเรื่องราวของโรงแรมซาวอยมาแบ่งปัน เพราะเคยดูในสารคดี โรงแรมที่หรูที่สุดในโลก ฉันประทับใจในความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของความเป็นซาวอยที่ได้ถ่ายทอดออกมา เขาบอกว่าเขาคือโรงแรมที่ดีที่สุดของโลก เป็นสถาบันอังกฤษอันทรงเกียรติและสัญลักษณ์ของเมืองลอนดอน ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม ชื่อคลีแลน แมคโดนัลด์ ปลูกฝังพนักงานของโรงแรมในขณะอบรมว่า ฉันคือซาวอย (I am Savoy) เพื่อให้พนักงานทุกคนรู้สึกถึงความเป็นทีมและปลูกฝังจิตวิญญาณของความเป็นซาวอยลงไป
เมื่อเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในโลกก็เป็นธรรมดาที่จะถูกคาดหวังการบริการที่สมบูรณ์แบบที่สุดจากผู้เข้าพัก ฉันรู้สึกว่าการศึกษาประวัติศาสตร์ของโรงแรมซาวอยมันก่อให้เกิดแรงบันดาลใจผลักดันให้ฉันมีความมุ่งมั่นและอยากทำสิ่งที่ดีที่สุดออกมาให้ได้และทำให้มากกว่าความสามารถที่คิดว่าตัวเองมี ฉันหวังว่าเนื้อหาในบทความนี้จะช่วยผลักดันและเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านกล้าคิดและลงมือทำตามอย่างความฝันที่ใจของคุณปรารถนาด้วยค่ะ
เราเชื่อว่าการแบ่งปันความรู้คือพลังที่ยิ่งใหญ่
ติดตามบทความของเราทั้งหมดได้ที่
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
