7 ต.ค. 2019 เวลา 02:55 • การศึกษา
คำพูดย้ำแรงบันดาลใจครั้งสุดท้าย ของสตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง
สตีเฟ่น ฮอว์กิ้ง เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎี นักจักรวาลวิทยาที่เป็นระดับตำนานคนนึงของโลก เขาพึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2018 อายุ 76 ปี
ครั้งนึง goalcast ได้เอาบทการTalk show ของเขามาลงครับ
โพสต์นี้ผมเลยเอาแปลเป็นภาษาไทยให้อ่านมุมมองของคนที่อัจฉริยะมากๆคนนึงของโลกให้อ่านกัน
หากแปลผิดตรงไหนก็ขออภัยล่วงหน้านะครับ เพราะคำพูดของเขาเข้าใจความหมายยากจริงๆ
.
มีบางอย่างผิดปกติกับผม...
วันนึงผมล้มลงและมันยากที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง
แม่ของผมรู้ทันทีว่าผมมีบางอย่างผิดปกติและเธอพาผมไปพบแพทย์...
.
ผมใช้เวลาหลายสัปดาห์ในโรงพยาบาล
และพวกเขาเหล่านั้นก็มีการทดสอบมากมายกับผม
พวดเขาไม่มีใครสามารถบอกผมได้เลยว่าผมมีอะไรผิดปกติ แต่ตอนนั้นผมพอเดาได้ว่ามันแย่มาก
ในความจริงแพทย์ที่วินิจฉัยผม เขาเดินจากผมไปและผมก็ไม่เห็นเขาอีกเลย
เพราะเขารู้สึกว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ ...
ผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน...
.
ตอนแรกผมรู้สึกหดหู่ ครับ
ร่างกายผมดูเหมือนว่าจะแย่ลงอย่างรวดเร็ว
มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะเรียนปริญญาเอก
มันบ้าไปแล้ว
เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะมีชีวิตอยู่ได้นานพอจะทำมันสำเร็จมั้ย?
.
แต่ในที่สุด
ผมก็มาเคมบริดจ์เพื่อทำจักรวาลวิทยาและวันนั้นผมมาพร้อมกับความรู้จักรวาลวิทยาที่ผมมุ่งมั่นจะทำมัน
จากนั้นอาการค่อยๆดีขึ้น ดีขึ้น
และผมเริ่มจะก้าวหน้าในหน้าที่การงานครับ
.
หลังจากวันนั้นความคาดหวังที่จะมีชีวิตอยู่ยืนยาวของผมก็ลดลงเหลือศูนย์
ผมมองว่าทุกวันของผมก็กลายเป็นโบนัสชีวิตและผมก็เริ่มชื่นชมมัน
“เพราะทุกวันที่มีชีวิตก็เหมือนผมได้โบนัส”
.
ทุกอย่างที่ผมมี ทำให้ผมมีวันนี้ได้
มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อเจนครับ
ผมพบเธอในงานปาร์ตี้ เราแต่งงานกัน
ซึ่งเธอคนนี้แหละมีส่วนในการยกวิญญาณของผมให้กลับคืนมา
เธอทำให้รู้ว่า
“ในขณะที่มีชีวิตอยู่เราก็มีความหวัง”
นักวิทยาศาสตร์มีการวางแผนการทดลองมากมายไว้สำหรับอนาคต
เราจะทำตามแผนเพื่อศึกษากาแลกซี่หลายพันล้านแห่งและทุกครั้งเราจะเข้าใจสถานที่ในจักรวาลของเราดีขึ้น
แต่เราต้องเดินทางไปในอวกาศต่อไป เพื่ออนาคตของมนุษยชาติ
.
จากการศึกษาผมไม่คิดว่าเราจะมีชีวิตอีกต่อไปนับพันปีได้
โดยไม่หลบหนีออกจากโลกที่บอบบางของเราครับ...
แต่นี่มันไม่ใช่เรื่องที่แย่
มันเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีด้วยซ้ำ สำหรับการมีชีวิตอยู่
.
การทำฟิสิกส์เชิงทฤษฎีทำให้ผมค้นพบกับความจริงที่ว่ามนุษย์เราที่เป็นตัวเราเองเป็นเพียงของสะสม
ของอนุภาคพื้นฐานของธรรมชาติ
.
นั่นทำให้ผมสามารถเข้าใกล้ความเข้าใจพื้นฐานได้ว่า
มีบางสิ่งที่เป็นกฎหมายที่ควบคุมจักรวาลและตัวเรา
และการมีชีวิตอยู่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่และผมมีความสุข
.
ถ้าผมสามารถมีส่วนรวมเพียงเล็กน้อยที่จะช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น
ผมก็ต้องการแบ่งปันความตื่นเต้นและความกระตือรือล้นของผมเกี่ยวกับภารกิจนี้ที่ผมถนัด
.
ดังนั้น
“จงแหงนมองขึ้นไปดูดวดาวแทนที่จะก้มมองแต่เท้าของคุณ”
พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณเห็นและสงสัยกับสิ่งที่จักรวาลนี้มีอยู่
.
.
จงเป็นคนอยากรู้อยากเห็นและอย่างไรก็ตามชีวิตที่ยากลำบากอาจมีบางสิ่งที่คุณสามารถทำได้และคุณจะประสบความสำเร็จเสมอ
.
.
“มันสำคัญที่คุณไม่ยอมแพ้ ในขณะที่มีชีวิต "
.
"จงมีความหวัง”
คนที่จะผลักคุณไปข้างหน้า กับคนที่จะผลักให้คุณล้มลง มีอยู่คนเดียวในโลกเท่านั้นคือ "ตัวคุณเอง"
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่ตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้แล้วพบว่าปัญหาที่คุณกำลังเจอมันยากที่จะก้าวข้ามผ่านมันไปได้ ขอให้คุณวางมันลงสักครู่แล้วลองกลับมาอ่านเรื่องนี้ก่อนก่อนแล้วค่อยตอบกับตัวเองว่า
คุณเลือกที่จะไปข้างหน้า หรือจะจมอยู่กับปัญหาตรงนี้
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน
I’m sam
ฝากกดไลค์ กดติดตามด้วยนะครับผม
Mindset series ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา