7 ต.ค. 2019 เวลา 18:26 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
แคลตัสสายเมา Peyote (Lophophora williamsii) : กระบองเพชรแห่งจิตวิญญาณ!!!
1
Peyote หนึ่งในแคลตัสที่นิยมเลี้ยงกันมากชนิดหนึ่งในประเทศไทยแต่น้อยคนจะรู้ถึงสรรพคุณทางยาและฤทธิ์เสพติดของมันด้วย
วันนี้ผมจะมาเล่าประวัติของแคลตัสชนิดพิเศษตัวหนึ่ง ซึ่งผมเชื่อว่าคงมีท่านผู้อ่านหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตากับแคลตัสชนิดนี้ดี เพราะมันคือPeyote Cactus หรือที่หลายๆคนในวงการชอบเรียกกันว่า "โลโพแคลตัส" ซึ่งมันมีชื่อวิทยาศาสตร์จริงๆว่า "Lophophora williamsii" โดยคำว่า "Peyote" นั่นจริง ๆ แล้วมีรากศัพท์มาจากภาษาของชนพื้นเมืองในแถบตอนเหนือของเม็กซิโก ที่มีความหมายว่า "สิ่งที่เปล่งประกายระยิบระยับ, แสงที่เจิ่ดจรัส และอาจหมายถึงผู้นำจิตวิญญาณไปสู่พระเจ้าด้วย" เอ๊ะ!!! ทำไมชื่อมันถึงสื่อแปลกๆแบบนี้ เรามาหาคำตอบกันในบทความนี้กันครับ Cactus
2
นั่นก็เพราะว่าเจ้าแคลตัส Peyote มันมีฤทธิ์เป็นสารเสพติดด้วยนั่นเองครับ !!! โดยชนพื้นเมืองชาวเม็กซิกันรู้จักนำแคลตัสชนิดนี้มาใช้เป็นยารักษาโรคหลายชนิด ทั้งอาการไข้รูมาติกส์ โรคเบาหวาน โรคผิวหนัง และอื่นๆเรียกได้ว่าเป็นสมุนไพรครอบจักรวาลเลยทีเดียว แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือมันถูกนำมาใช้เป็นพืชกล่อมประสาทในพิธีกรรมทางศาสนาของชาวเม็กซิกันพื้นเมืองเพื่อนำพาจิตวิญญาณของพวกเค้าไปพบพระเจ้าด้วย เนื่องจากแคลตัสชนิดนี้ผลิตสารแอลคาลอยด์ (alkaloid) ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "เม็สคาลิน (Mescaline)" ที่มีฤทธิ์กระตุ้นการรับรู้ทางกายภาพ (Physiological arousal) และการเห็นภาพหลอน (Visual hallucination) เกิดการรับรู้ทางภาพ สี และ แสงมากกว่าปกติคล้ายๆคนเสพ LSD ทำให้ร่างกายผู้เสพเข้าสู่ภวังค์ (Meditation) เคลิ้มเคลม (Euphoria) หรือเรียกง่ายๆว่าฟินนั้นเอง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะเจ้าสารเม็สคาลินมันมีโครงสร้างที่คล้ายกับสารสื่อประสาทชนิดNorepinephrine (นอร์อิพิเนฟริน) จึงจับกับตัวรับบนเซลล์ประสาทในตำแหน่งเดียวกันส่งผลให้ผู้เสพมีภาวะเคลมเป็นสุขนั่นเอง
3
ชนพื้นเมืองในแถบเม็กซิโกและอเมริการู้จักการนำแคลตัส Peyote มาใช้กับพิธีกรรมทางศาสนาเพื่อเข้าสู่ภาวะภวังค์ คล้ายๆกับอาการของคนเสพยา LSD เพื่อสิ่งเร้าทางสรีสะ (Physiological arousal) และการเห็นภาพหลอน (Visual hallucination) นับว่าเป็นวัฒนธรรมที่มีมานานก่อนชาวยุโรปเข้ามาในทวีปนี้ซะอีก
โดยชาวพื้นเมืองเม็กซิกันนิยมนำเจ้าแคลตัส Peyote มาตากแห้งแล้วชงเป็นชาดื่มกันเบาๆในงานชุมนุมทางศาสนา หรืออาจจะบริโภคสดสัก 10-15 หัวเล็กๆขณะทำงาน อย่างไรก็ตามด้วยความที่แคลตัสชนิดนี้มีสารเสพติดอยู่ด้วย ในสหรัฐอเมริกาเองและอีกหลายๆรัฐของเม็กซิโก รวมทั้งบางประเทศทั่วโลกมีการสั่งห้ามการใช้สารเม็สคาลินที่สกัดจาก Peyote เพื่อใช้เป็นสารเสพติด แต่ก็ยังอนุญาติให้ชนพื้นเมืองปลูกและเก็บเกี่ยวสำหรับใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะในโบสถ์ชาวพื้นเมืองอเมริกัน (Native American Church) ของประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเนื่องจากมันเป็นส่วนหนึ่งในวัฒนธรรมของพวกเค้าไปซะแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจขึ้นไปอีกคือในหลายประเทศทั่วโลก การปลูกแคลตัสPeyote กลับเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในโรงเพาะเลี้ยงแคลตัส เพราะความสวยงามของดอกและรูปร่างของเจ้า Peyote นั่นเอง แคลตัสชนิดนี้จึงกระจายพันธุ์ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว แต่น้อยคนมากๆครับจะรู้ถึงที่มาที่ไปและประวัติศาสตร์เชิงวัฒนธรรมที่อยู่เบื้องหลังดอกสวยๆเหล่านี้
3
สารเม็สคาลินที่พบในแคลตัส Peyote มีฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดภาวะเคลิ้มเคลิมและภวังค์ แม้จะมีสารเสพติดและผิดกฎหมายในบางมลรัฐของเม็กซิโก อเมริกา และหลายประเทศทั่วโลก แต่ที่ประเทศไทยกลับมีการเพาะเลี้ยง Peyote กันอย่างแพร่หลายจนเป็นไม้ติดตลาดชนิดหนึ่ง ซึ่งน้อยคนมากจะรู้ว่ามันมีฤทธิ์เป็นสารเสพติด
ผมลืมบอกไปนะครับแม้ว่าเจ้าแคลตัส Peyote จะถูกจัดเป็นพืชที่ให้สารเสพติดแต่ก็มีรายงานการวิจัยบ่งชี้ว่ามันมีฤทธิ์ที่น้อยกว่าการเสพ LSD มากพอสมควร แต่การบริโภคมากๆอาจทำให้เกิดภาวะอาเจียนได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการส่งออกหรือนำเข้าแคลตัส Peyote ในสหรัฐอเมริกาและจีนยังเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายนะครับ แต่เอาเป็นว่าเลี้ยงดูดอกเฉยๆก็ฟินแล้วหล่ะครับ ก็เจ้าตัวเล่นสวยซะขนาดนี้ (ผมเองยังมีเลยครับ)^^
1
แคลตัส Peyote สวยมั้ยหล่ะค้าบ ^^
โฆษณา