9 ต.ค. 2019 เวลา 08:30 • ปรัชญา
เมื่อเด็กวัดฟังเพลงสากล จงสอนลูกคุณให้ทำตาม
ไม่ต้องสงสัยนะครับว่าเด็กวัดคือใครอะไรยังไง เด็กวัดที่ว่าคือผมเองครับที่เขียนบล็อกนี้อยู่ตั้งแต่จำความได้ผมก็เริ่มเข้ามาอยู่ในวัด อาศัยห้องเก็บของใต้กุฏิเป็นที่พักพิง ร่วมกับตายายที่ทำงานอยู่ในวัด
โอกาสในการศึกษาของผมก็คือ โรงเรียนวัดนั่นเองไม่ได้ไปไหนไกล กิจกรรมเมื่อตื่นเช้ามาก็คือเดินตามหลวงพ่อที่ออกบิณฑบาต อาหารการกินก็อาศัยข้าวก้นบาตรในทุกๆวัน
ในวัยเด็กแบบนั้นไม่เคยรู้สึกเลยครับว่าตัวเองลำบาก ด้วยความเป็นเด็กผมก็สนุกสนานกับทุกสิ่งที่พบเจอ ไม่ได้รู้สึกขาดเหลืออะไร จะมีอยู่บ้างก็เวลาไปเที่ยวงานประจำปีหรืองานวัด เวลาที่อยากได้ของเล่น หรือขนมอะไร ขอตากับยายก็จะไม่ค่อยได้หรอกครับ
จะถูกบ่ายเบี่ยงว่าวันหลังบ้าง คราวหน้าบ้าง ผมก็ไม่ได้ร้องไห้งอแงอะไรมากมาย แต่ถ้าอยากได้อันไหนจริงๆก็จะเอาแต่พูดว่าอยากได้ จนสุดท้ายลืมไปเองว่าอยากได้ก็จบไปครับ
แล้วสิ่งที่ทำให้ชีวิตผมค่อยๆต่างจากเด็กวัดคนเดิมคือ การดูทีวีครับ ทุกๆวันหยุดหรือช่วงปิดเทอมผมก็จะอาศัยสำนักงานของวัด เป็นที่สถิตดูทีวีในนั้นทั้งวัน ดูการ์ตูนครับเป็นส่วนใหญ่เลื่อนๆไปเปลี่ยนช่องไป
ก็เจอเข้ากับช่องเพลงช่องหนึ่งกำลังเล่นเพลงฝรั่งเพลงแรกที่ผมได้ยินจนติดหูก็คือเพลง Beautiful Girls ของ Sean Kingston ซึ่งตอนนั้นน่าจะอยู่ประมาณประถมต้น ไม่รู้เลยว่ามันแปลว่าอะไรรู้แค่เป็นภาษาอังกฤษ ก็ร้องตามอยู่อย่างนั้นมีเพลงอื่นก็ฟังตามๆไป
นั้นคือจุดเริ่มต้นและจุดเปลี่ยนสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของผม เพราะตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ ผมกลายเป็นคนที่ชอบฟังเพลงภาษาอังกฤษเอาเรื่องคนหนึ่งเลยทีเดียว ลามไปถึงการย้อนหาเพลงลูกกรุง ฟังเพลงลูกทุ่ง เพลงอะไรสารพัดแทบทุกแนว
เพลงสากลเปลี่ยนความสามารถทางภาษาอังกฤษของผมหลายอย่าง โดยเฉพาะการกล้าออกเสียงตามสำเนียงที่ถูกต้อง เพราะเราฟังเพลงจากเจ้าของภาษา เวลาเราชอบเพลงไหนเราก็ร้องตาม ก็ไม่ต่างจากการฝึกพูดภาษาอังกฤษตามสำเนียงเจ้าของภาษา
ทำให้เวลาที่ผมอยู่ในห้องเรียนภาษาอังกฤษ ผมจะกล้าอ่านออกเสียงอย่างถูกต้อง เสียงที่หลายคนอาจจะล้อว่า กระแดะ แต่ผมกล้าที่จะพูดออกมา ก็ผมฟังเพลงที่ฝรั่งเขาร้องหนะ เขาก็ทำเสียงแบบนี้ใครว่ายังไงผมก็ไม่ได้เอามาใส่ใจ
และอีกอย่างที่ผมได้เรียนรู้จากเพลงสากล คือการยอมรับและเข้าใจทางวัฒนธรรม อย่างที่บอกว่าเด็กวัดคนหนึ่งที่เรียนโรงเรียนวัด ในสมัยเกือบ 20 ปีก่อน คงไม่ได้มีโอกาสในการเรียนรู้หรือศึกษาวัฒนธรรมต่างชาติซักเท่าไหร่
ทำให้เมื่อผมโตมา ผมกลายเป็นคนที่สนใจวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของผู้คนในที่ต่างๆอย่างมาก อยากรู้ว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร วัฒนธรรมของเขาเป็นยังไง เขาทานอาหารอะไร และทำให้ผมเปิดใจยอมรับ วัฒนธรรมที่แตกต่างได้ไม่ยากเย็นนัก
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่สอดแทรกเข้ามาในความคิดของผม ตั้งแต่ผมฟังเพลงสากลเพลงแรกจนถึงปัจจุบันนี้ และเชื่อว่าสำหรับเด็กๆในสมัยนี้ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ คงไม่ใช่เรื่องยาก
จึงอยากฝากให้ทุกๆท่านที่มีบุตรหลาน ผมอยากให้สนับสนุนพวกเขา ในสิ่งที่พวกเขาชอบในสิ่งที่พวกเขาสนใจ หรือหาสิ่งที่จะเป็นพัฒนาการที่ดีให้กับเขา ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับการฟังเพลง หรืออะไรแบบผมนะครับ
จงสนับสนุนและให้กำลังใจที่ดีเสมอแก่พวกเขา เพราะเชื่อว่าในอนาคตความสำเร็จจะอยู่ในมือของคนที่พร้อมจะคว้าโอกาสนั้นที่สุด จงสร้างความพร้อมให้กับคุณและคนที่คุณรักนะครับ
ฝากกดแชร์ถ้าเห็นว่าบทความนี้น่าสนใจและน่าบอกต่อ กดไลค์
คอมเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
โฆษณา