10 ต.ค. 2019 เวลา 04:53 • ธุรกิจ
3 เมกะเทรนด์ที่น่าจับตามองในปี 2030
เทรนด์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตเตรียมความพร้อมกันรึยัง
missiontothemoon.co
1. โลกของเรากำลังแก่! เพราะ 1.4 พันล้านคนจะเป็นผู้สูงอายุ
2030 scenario: ในอีก 14 ปีข้างหน้า มนุษย์อาจมีอายุยืนยาวโดยที่ร่างกายไม่ได้เสื่อมสภาพตามไปด้วย พูดง่ายๆ ก็คือต่อให้เราอายุเกิน 100 ปี ร่างกายของเราก็ยังไม่แก่ แถมยังทำงานได้ตามปกติ นอกจากผู้คนจะมีโอกาสเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้นแล้ว เทคโนโลยีอัจฉริยะจะช่วยยืดอายุร่างกายให้ทำงานได้นานขึ้น นักออกแบบอวัยวะสามารถสั่งตัดอวัยวะใหม่จากเครื่องพิมพ์สามมิติเพื่อใช้ในการผ่าตัด ขณะที่ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยจะถูกส่งจากนาโนชิปที่ฝังในร่างกายไปถึงแพทย์ประจำตัวทันที
สังคมยุคใหม่จะเต็มไปด้วยคนหลายเจเนอเรชัน ทางองค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่าในอีก 14 ปี จะมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากถึง 1.4 พันล้านคน หรือ 16.5% ของประชากรโลกทั้งหมด 8.4 พันล้านคน ขณะที่ผู้สูงอายุไทยจะพุ่งสูงถึง 30% ของประชากรทั้งหมด 68.3 ล้านคน คนรุ่นเบบี้บูมจะเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อเยอะ และการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรมและตลาด แรงงานในอนาคตอย่างแน่นอน
โอกาสที่น่าสนใจของธุรกิจไทย:
– พัฒนาสินค้าและบริการให้น่าใช้ ตอบสนองทั้งฟังก์ชันการใช้งาน รสนิยม และความต้องการของผู้สูงอายุยุคใหม่
– เทคโนโลยีอัจฉริยะจะเข้ามาช่วยดูแลผู้สูงอายุ เช่น สมาร์ตโฮมที่มีระบบเซ็นเซอร์แจ้งเตือนการหกล้ม และ Wearble Device ที่ช่วยบันทึกสุขภาพหรือระบุโลเคชันของผู้สูงอายุแบบเรียลไทม์
– บริการด้านการเงินและการวางแผนการออมในวัยเกษียณทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
– บริการรถสาธารณะ เช่น แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่สำหรับผู้สูงอายุ และรถยนต์ไร้คนขับ
2. โลกไร้พรมแดนเหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออำนาจทางเศรษฐกิจใหม่ที่โตแบบก้าวกระโดด
2030 scenario: กระแสโลกาภิวัตน์ยังคงมีอิทธิพลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจนถึงปี 2030 ภาคการส่งออกจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี กลุ่มเศรษฐกิจบริกส์ (BRICS) จะมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจขึ้นกว่า 2 เท่า โดยมีมูลค่าทางจีดีพีเป็น 38% ของจีดีพีโลก ขณะที่ประชากรอินเดียจะแซงหน้าจีน ชนชั้นกลางจะเป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และพาอินเดียก้าวขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจในเวทีเศรษฐกิจโลก
โอกาสที่น่าสนใจของธุรกิจไทย:
– วิเคราะห์ซีเนริโอและประยุกต์ใช้กับแผนการลงทุนทำธุรกิจ เพื่อจัดการกับความเสี่ยง และพัฒนาศักยภาพการแข่งขันทางธุรกิจให้ทัดเทียมกับตลาดของกลุ่มเศรษฐกิจบริกส์ (BRICS)
– จับตาตลาดและกลุ่มผู้บริโภคที่จะกลายเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่ เช่น อินเดีย
3. โลกที่ขาดแคลนทรัพยากร
2030 scenario: ความท้าทายใหญ่ที่ทุกคนจะต้องเผชิญร่วมกันก็คือ การขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติที่ผลิตทดแทนไม่ได้ ในปี 2030 จำนวนประชากรโลกจะพุ่งทะยานถึง 8.4 พันล้านคน การเติบโตของชนชั้นกลางจะส่งผลให้ชุมชนกลายเป็นเมืองและเกิดการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าปี 2030 จะมีคนอาศัยอยู่ในเขตเมืองมากกว่า 5 พันล้านคน โดยเฉพาะในแอฟริกาและเอเชีย ภาคอุตสาหกรรมการผลิต และโรงงานผลิตไฟฟ้าทำให้เราต้องใช้ทรัพยากรน้ำมากกว่าเดิมเกือบ 40% ที่น่ากังวลก็คือ เราจะมีทรัพยากรมากพอสำหรับความต้องการมหาศาลเช่นนี้ได้ก็ต่อเมื่อมีโลกมากถึง 3 ใบ
อย่างไรก็ตาม เราอาจเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำ ภายใน 50 ปี กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกจะอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีทรัพยากรน้ำไม่เพียงพอต่อการบริโภค และบางประเทศจะประสบปัญหาขาดแคลนน้ำรุนแรงในปี 2040
โอกาสที่น่าสนใจของธุรกิจไทย:
– ทุกธุรกิจควรวางแผนการจัดการทรัพยากรและพลังงานอย่างฉลาด หรือใช้พลังงานทางเลือกแทนพลังงานจากฟอสซิล
– ทำงานกับนักจัดการทรัพยากรเพื่อลดทรัพยากรการผลิต หรือเปลี่ยนสินค้าให้เป็นบริการแทน เช่น สื่อสตรีมมิง การบริการระบบคลาวด์และแอปพลิเคชัน
– สินค้าและบริการที่คำนึงถึงตลอดวงจรการผลิตและลดของเสียให้เป็นศูนย์หรือ Zero Waste จะเป็นที่นิยมมากขึ้น
– บรรจุภัณฑ์ในอนาคตจะย่อยสลายได้ตามธรรมชาติทันทีหลังใช้งานเสร็จ หรือแม้กระทั่งกินได้!
– เกิดเทรนด์แฟชั่นใหม่ที่สร้างมูลค่าจากโมเลกุลของผงฝุ่น มลภาวะ และขยะ
โฆษณา