10 ต.ค. 2019 เวลา 09:45 • ไลฟ์สไตล์
ถ้าไม่เขียนวันนั้น..ก็ไม่มีวันนี้..
Writing as a brain fitness
ย้อนไป 10 ปีก่อน ขณะที่ข้าพเจ้าเรียนการทำวิจัยอยู่ ณ ประเทศที่เวลากลับกลางวันกลางคืนกับประเทศไทย..ความเวิ่นเว้อ คิดไม่ออกบอกไม่ถูก ทำให้ใช้เวลา internet ดูนั่นดูนี่ เพื่อผ่อนคลาย แต่ก็ไม่สามารถตั้งสติเขียนวิจัยให้จบได้สักที..
จนมีโอกาสได้ลองเขียน blog "Gotoknow" โดยเขียนช่วงบ่ายๆ (ตรงกับตีสองตีสามเมืองไทย) กลางคืนเขียนวิจัย จนถึง 4 ทุ่ม ( 10 โมงเช้าไทย) ก่อนเข้านอนก็ไปตอบขอบคุณคนที่มาอ่านมา comment
เรื่องที่เขียน ช่วงแรกเพื่อเยียวยาตนเอง มีอารมณ์ลบปนพอควร พอเขียนๆ ไปเริ่มแคร์คนอ่านมากขึ้น ปริมาณโทนลบจึงค่อยๆ ลดลง
ต้องขอขอบคุณกัลยาณมิตร ที่ช่วยเข้ามาแวะเวียน มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แรงจูงใจไม่มีสิ่งใดนอกจากจำนวน 'ดอกไม้' กับมิตรภาพ..เมื่อกลับมาเมืองไทย ก็ยังนัดทานข้าวกัน กัลยาณมิตรบางท่านยังเอาหนังสือมาฝากให้ทุกวันเกิด ^_^
ในช่วงปีกว่า ข้าพเจ้าเขียน blog gotokbow 200 กว่าบทความ พร้อมๆ กับสังเกตความเปลี่ยนแปลงดังนี้
1.การเขียน blog ช่วยให้ข้าพเจ้ารวบรวมสมาธิเขียนวิจัยได้ดีขึ้น การเรียบเรียงความคิดเพื่อเขียนสื่อสาร 'มโนภาพ' ออกมาเป็น 'คำพูด' ใช้ความพยายามน้อยลง
..
ซึ่งตรงกับการศึกษาด้วย functional MRI ในคนที่เริ่มเขียน (novice) และนักเขียน (expert) พบว่า expert มีการทำงานของ prefrontal ร่วมกับ caudate มากกว่า แต่การทำงานส่วน visual cortex น้อยกว่า เมื่อเทียบกับ novice
อาจแสดงว่า expert ใช้ความพยายามในการเกิดมโนภาพน้อยลง แต่ใช้สมาธิ-attention ร่วมกับทักษะ- procedural memory มากขึ้นคล้ายๆ ขณะคนปั่นจักรยานเสือภูเขา
https://www.sciencedirect.com/science/article/abs/pii/S1053811914004613
2.เรียนรู้ 'human humility' จากคนที่อัตตาสูง ชอบแสดงว่าเก่งไปทุกเรื่อง เห็นความงามของความไม่สมบูรณ์แบบนี่แหละ ทำให้เราเครียดน้อยลง มีเพื่อนเพิ่มขึ้น
ที่สำคัญ คือ ข้อ 3
กระบวนการ "คุยกับตนเอง" (Reflection) ทำให้ค่อยๆ เห็นตัวตนที่แท้จริง ว่าสนใจ Neuroscience..และนี่คือจุดหักเหให้ข้าพเจ้าตั้งใจที่จะเรียนประสาทวิทยาหลังกลับมาเมืองไทยให้ได้ จนเขียนใน บทความชื่อ "เปิดใจถึง gotoknow" https://www.gotoknow.org/posts/537073
ข้าพเจ้ากลับมาเรียนประสาทวิทยาในวัยที่คนเป็นเป็นหัวหน้าวอร์ด (chief resident) คือลูกศิษย์ที่เคยสอนตอนเขาเป็น นักศึกษาแพทย์ :)
..เส้นทางที่ท้าทาย..3 ปี ผ่านไปไวเหมือนโกหก
ที่คิดขึ้นมาเมื่อไร ณ วันนี้ ไม่มีวินาทีไหนที่จะไม่ภูมิใจในการตัดสินใจครั้งนั้น จนได้ตรวจคนไข้ ได้วิจัยในสาขาที่ตนเองรัก..
ณ วันนี้ ทีได้เขียน blog ถ่ายทอดสิ่งที่หลงไหล กับเพื่อนใหม่ใน Blockdit คือความ 'ฟิน' ทันทีที่ กด "โพสต์" เช่นเดียวกับหลายคนรู้สึก 'ฟิน' หลังได้วิ่งหรือออกกำลังกายได้เหงื่อ..
ถ้าไม่เริ่มเขียน ณ วันนั้น
ก็อาจไม่มีวันนี้
เชียร์ทุกท่านค่ะ..การเขียนให้อะไรมากว่าที่คิด
** Writing is a brain fitness **
โฆษณา