บทเพลงโดย 3หนุ่มนอร์เวย์ , บันทึกเสียงครั้งแรกในปี 1984 มีถึงสองเวอร์ชั่น และก็สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับที่2 ใน UK Singles Chart ในเดือน ตุลาคม 1985 และในเดือนเดียวกัน ซิงเกิ้ลนี้ยังสามารถติดอันดับ Billboard Hot 100 ในฝั่งอเมริกา และยังได้รับรางวัลจาก 1986 MTV Video Music Awards เป็นสิ่งยืนยันความสำเร็จอีกด้วย
Take On Me เป็น Synthpop ที่ผสานกันระหว่างอะคูสติคกีตาร์และเปียโน ทำออกมามาในจังหวะสนุก เร็ว ด้วย เท็มโป 168.61 บีทต่อนาที รวมกับเนื้อหาของบทเพลงในทำนอง อ้อนวอนเกี่ยวกับความรัก ทำให้ทางวงประสบความสําเร็จอย่างมาก และขายได้มากกว่า 7 ล้าน Copies ทั่วโลก
🎧2) When Doves Cry ศิลปิน Prince.
นักร้องหนุ่ม อเมริกัน นามPrince และเป็นศิลปินเดี่ยวที่มี ผลงานติดChart ถึง 5สัปดาห์ ในปี1984 จากอัลบั้มPurple Rain. บทเพลง When Doves Cry ได้ติดอันดับที่ 52 ของบทเพลง 500 เพลงฮิตตลอดกาลของนิตยสาร Rolling Stone รวมถึง Rock and Roll Hall of Frame ‘s 500 Songs ซึ่งก็เป็นสิ่งยืนยันความเป็นตำนานยุค 80s ของบทเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี.
When Doves Cry กลายมาเป็นบทเพลงที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็น Prince ซึ่งมีแนวดนตรีที่ฟังแล้วไม่ปกติ สำหรับเพลงเต้นรำในยุคนั้น ไม่มีไลน์ของBass บทเพลงเปิดท่อน อินโทรมาด้วยแค่เสียง Solo กีตาร์ และกลองไฟฟ้า Linn LM-1ตามด้วยเสียงร้องออกมาจากลำคอ ของPrince หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเสียงของกีตาร์และ Synthesizer แต่ใครจะไปรู้ละว่าสุดท้ายมันจะเป็นบทเพลงที่เยี่ยมได้ขนาดนี้
🎧 3) Pour Some Sugar on Me ศิลปิน Def Leppard.
วงร็อคจากฝั่งอังกฤษ นามว่า Def Leopard กับซิงเกิ้ล Pour Some Sugar On Me ในปี 1987. เพลงที่สามารถไต่อันดับ US Billboard Hot 100 ในวันที่ 23 กรกฎาคม1988 ไปจนถึง อันดับที่2 นอกจากนั้น ยังติดอันดับที่ 1 MTV top 300 Videos of All Time อีกรางวัล
Elliott นักร้องนำของวงอ้างว่า บทเพลงนี่ได้แรงบันดาลใจโดย Arosmithและ Run -DMC ในเวอร์ชั่นเพลง Walk This Way ซึ่งเป็นการผสานกันอย่างลงตัวระหว่าง ร็อคและแร็พ
🎧 4) Billie Jean ศิลปิน Michael Jackson
ถ้าจะพูดถึงนักร้องอเมริกันผิวสีคนนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก Michael Jackson , ซิงเกิ้ล Billie Jean ถูกปล่อยออกมาใน วันที่ 2มกราคม 1983 และเป็นซิงเกิ้ลที่สอง จากสตูดิโออัลบั้มที่6,Thriller(1982).
Billie Jean ติดอันดับซิงเกิ้ลยอดเยี่ยมในปี 1993,ซึ่งช่วยให้อัลบั้ม Thriller กลายมาเป็นอัลบั้มเพลงที่ติดอันดับขายดีตลอดกาล รวมถึงติดอยู่ใน Billboard Hot 100 นานถึงเจ็ดสัปดาห์
Michael Jackson บอกว่า บทเพลงนี้เขียนมาจากพื้นฐานเรื่องจริงของกลุ่มวงดนตรีในครอบครัว ชื่อJackson5 ซึ่งเขาก็คือหนึ่งในสมาชิกในวงดังกล่าวด้วย , ทุกๆครั้งหลังการแสดง พวกเขาก็จะรวมกลุ่มกันดื่มและเมาอยู่ด้านหลังเวทีร่วมกับศิลปินวงอื่นๆ,และMichael คิดว่า เขาได้เขียนเพลงที่เกี่ยวกับประสบการณ์ของพี่ชายเขาเอง ในตอนที่Michaelยังเป็นเด็ก , เหล่าบรรดาผู้หญิงที่เข้ามาอ้างว่า พี่ชายเขาคือพ่อของเด็กก็คือ Billie Jean ในเพลงที่เขาเขียนไว้นั่นเอง