13 ต.ค. 2019 เวลา 11:41 • ไลฟ์สไตล์
"หนูอยากเป็นแอร์เพราะหนูชอบพบปะผู้คนค่ะ"
ชอบพบปะผู้คนคือหนึ่งในเหตุผลที่เราจะได้ยินบ่อยๆในการสมัครแอร์
อยากให้ถามตัวเองดีๆก่อนว่าชอบจริงรึป่าว ? ...
Rosewood Luang Prabang (May 2019)
โดยนิสัยส่วนตัวแล้ว แน็ตไม่มีปัญหากับการโดนทิ้งให้อยู่คนเดียวกับเพื่อนของเพื่อน แน็ตสามารถสร้างบทสนทนาขึ้นมาได้ใหม่ แน็ตชอบการพรีเซ้นงานตั้งแต่มหาลัย แน็ตมีโอกาสได้ฝึก public speaking ตั้งแต่อยู่ ม.ปลายจนทุกวันนี้เวลาไปไหนคนส่วนใหญ่จะบอกว่า แน็ตพูดเก่งมาก ยิ่งพอไปทำงานเป็นแอร์แล้ว มันเหมือนกับอัพสกิลขึ้นไปอีก
แต่มันก็มีความคิดลึกๆตีสะท้อนกลับมาตลอดว่า ........ เราเหนื่อย เราไม่ได้ชอบพบปะผู้คน เราไม่ได้ชอบแบบนี้ จนอาการมันเริ่มออกมา
อ่ะ งง เอ๊ะ แน็ตตั้งใจกำลังจะสื่อว่าอะไรน้า ?
เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมาคือช่วงที่อาการ burn-out มันชัดมาก แน็ตเหมือนตกอยู่ในห้วงของคำว่า "ฉัน มา ทำ อะ ไร ที่ นี่?" ทั้งที่เราก็ทำในสิ่งที่เราทำมาตลอด 3 ปีกว่าๆ คือ ทำหน้าที่อาชีพแอร์โฮสเตส ดูแลผู้โดยสารบนไฟลท์ ในช่วงนั้นกลายเป็นคนไม่อยากไปทำงาน นั่งน้ำตาซึม เกลียดคน ทำงานอยู่ก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ ร้องไห้ .... ตอนนั้นคิดได้อย่างเดียวว่า "หนักมากแล้วค่ะกู"
Luang Prabang National Museum
จนมันมาเจอคำตอบตอนที่หนีไปหลวงพระบาง
แน็ตหนีไปอยู่เงียบๆทั้งหมด 5 วัน ไม่ได้บอกใคร แค่บอกน้องชายคนเดียวถ้าจำไม่ผิด ไปแบบอยู่ดีๆก็ไป ไม่ได้แพลน ในระหว่าง วันที่สองและส ก็มีนัดเจอรุ่นน้องที่ทำงานที่นั่นบ้างแต่ก็เจอช่วงสั้นๆ แต่ถ้านับแล้ววันๆก็ไม่ได้คุยกับใครเลย ยกเว้นพี่ที่โฮสเทล คนขายข้าว และป้าๆร้านของชำ แน็ตรู้สึกสงบเหมือนเจอโลกใหม่
ก็เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองใหม่ ..... หรือเราจะไม่ค่อยชอบพบปะผู้คนนะ?
เวลาล่วงเลยไปถึงเช้าวันที่ 3 ทำกิจกรรมเดิมคือไปปั่นจักรยานรอบเมือง ไปหาวัดต่างๆ พอขับไปถึงหน้าร้านของชำร้านหนึ่งข้างๆ World Heritage House หรือ สำนักงานของ UNESCO เพื่อแวะซื้อน้ำ เราก็ไปชวนน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่มาซื้อไอติมคุยเฉยเลย คุยไปคุยมา ป้าเจ้าของออกมาร่วมวงด้วย แล้วก็มีพี่ผู้ชายที่ทำงานอยู่ที่ UNESCO มาร่วงวงด้วยอีก จำได้เลยว่าหัวข้อการสนทนาคือ เริ่มจากฐานเงินเดือนที่ลาวไปจนถึงอยู่กรุงเทพอย่างไรให้ปลอดภัย (เพิ่งจะรู้ว่าคนลาวขยาด กทม. เบาๆ)
อ่ะ ..... "สรุปว่ากูก็ชอบเม้าสินะ"
อิหยังว่ะ ?
Kuang Si Waterfall
จากนั้นก็ปั่นจักรยานรอบเมืองให้ตัวดำต่อไป ร้อนมาก แต่ลมตีหน้าเพลินดี คิดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนไปเจอเพื่อนใหม่ที่ร้านคาเฟ่ และอีกคนที่โฮสเทล ทีนี้คุยยาว อยู่เที่ยวด้วยกันเพลินๆอีก 2 วัน
เรากลับมาตกผลึกได้ว่า
"เราชอบพูด เราชอบคุย แต่เราไม่ได้ชอบพูดกับทุกคน และเราไม่ชอบให้ใครมาตั้งความหวังไว้กับเราตั้งแต่ตอนเราทำความรู้จักกัน เราชอบพบปะผู้คนที่คุยเรื่องเดียวกับเราได้"
การที่เรารู้จักใครในฐานะที่เราเป็นแอร์ปฎิบัติหน้าที่อยู่ เราจะต้องแบกรับความคาดหวังจากคนมากกว่า 400 คนบนเครื่องบินทั้งผู้โดยสารหรือเพื่อนร่วมงาน แอร์ถูกคาดหวังให้ยิ้มให้ทุกคน แอร์ถูกคาดหวังให้ดูแลห้องน้ำยังไงก็ได้ให้สะอาดตลอดเวลา แอร์ถูกคาดหวังให้มีไก่ให้ทานแม้ว่าจะเหลือแต่เนื้อ เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะเพิ่งเลิกกับแฟน แม่ป่วย หมาตาย แมวพิการ กระต่ายหาย จะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน เราก็ไม่สามารถแสดงความรู้สึกใดๆออกมาได้ เพราะเค้าไม่ได้คาดหวังว่าเค้าต้องมารับรู้อะไรแบบนั้น
ไม่ได้พูดให้ไม่อยากเป็น แต่อยากให้เห็นสองด้านก่อนน้องๆ จะเริ่มบิน ป๊าชอบบอกว่าอะไรที่เรียกว่างาน มันกดดันหมดแหละ
ท้ายนี้ ขอให้น้องๆทุกคนโชคดีกับมหกรรมการสมัครแอร์ที่กำลังจะมาถึงนะคะ :)
ป.ล. ขอกระซิบว่าแน็ตเปิดคอร์สติว English conversation ด้วยนะคะ รีบๆสมัครรับจำนวนจำกัดค่า :)
Kuang Si Waterfall
โฆษณา