14 ต.ค. 2019 เวลา 05:05 • ปรัชญา
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกให้ฟังครับ ขอตั้งชื่อเรื่องว่า สุสานคอมมิวนิสต์
ขอบคุณรูปภาพจาก เว็บhttps://get.pxhere.com/photo/tree-forest-black-and-white-darkness-cemetery-monochrome-grave-ruins-woodland-habitat-rural-area-monochrome-photography-natural-environment-43818.jpg
ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเป็นคนที่พึ่งเข้ามาในแอปนี้และถ้าเรื่องเล่าผมยังขาดอะไรสามารถติชมได้นะครับ
เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ผมอายุ10ปี ผมเป็นคนจังหวัดมุกดาหารครับ หมู่บ้านที่ผมอยู่ก็มีภูเขาล้อมรอบคนในหมู่ชอบหาของป่าเพื่อดำรงชีวิตและทำไร่ทำนาตามฤดูกาล
ในวันหนึ่งคุณตาของผมจะพาผมเข้าป่าซึ่งผมก็ไม่คิดอะไรอยู่แล้วเพราะผมเข้าป่ามาตั้งแต่5ขวบ
แต่การเข้าป่าครั้งนี้คุณตาพาผมไปไกลมากเพราะป่าที่เข้ามานี้รู้สึกไม่คุ้นเคยเหมือนป่าใกล้หมู่ป่า
จากนั้นคุณตากับผมก็เดินขึ้นภูเขาอีกคนแถวนั้นเรียกว่า ภูพานน้อย เป็นเขตของคอมมิวนิสต์สมัครสงคราม
ผมได้ฟังคุณตาเล่าให้ฟังว่าตั้งแต่สมัยสงครามคอมมิวนิสต์ คุณตาผมเป็นทหารในสงครามครั้งนั้น
ซึ่งที่แห่งนี้ที่ตาจะพาไปเป็นหลุมฝังศพของทหารคอมมิวนิสต์ที่ตายไปโดยทหารจะนำเอาศพไปฝังไว้แล้วนำข้าวของเครื่องใช้ของคนตายมาวางไว้บนหลุมฝังศพ
คุณตาบอกว่าคนที่คุณตายิงตายก็ถูกนำมาฝังไว้ที่นี้จากนั้นคุณตาก็หยุดเดินแล้วบอกว่าถึงแล้วผมก็หัดซ้ายขวาเพื่อสำรวจพื้นที่
สายตาของผมเห็นเสาไม้ มากมายถูกปักอยู่ในบริเวณนั้น คุณตาบอกว่านั้นคือป้ายหลุมศพหรือคนสมัยก่อนทำไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่ามีคนตายถูกฝังที่นี้
ผมได้ถามคุณตาว่าทำมัยเราไม่เผาศพตามประเพณีครับคุณตาบอกว่าคนเหล่านี้ตายโหงจึงไม่สามารถนำไปเผาได้
จากนั้นคุณตาก็นำเอาธูปเทียนออกมาจากกระเป๋าย่าม แล้วให้ผมของผลไม้และกล่องอาหารที่คุณตาให้ผมใส่มาในกระเป๋าออกมาให้
คุณตาได้นำใบไม้มาวางไว้ตรงหลุดฝังศพแล้วจุดธูปเทียนพร้อมกับเท่อาหารลงบนใบไม้จากนั้นตาบอกว่าถ้าเห็นหรือได้ยินเสียงอะไรห้ามไปจากตานะ
ผมก็ยัง งง อยู่แต่ก็รับปากกับคุณตา จากนั้นพอคุณตานำธูปเทียนปักลงบนพื้นไม่รู้มีลมมาจากไหนพัดมาแรงมาก
ผมนั่งลงแล้วเอาตัวพิงต้นไม้อีกซักพักพอลมสงบลงคุณตาก็ท้องบทสวดอะไรสักอย่างซึ่งผมไม่คอยเข้าใจแต่เหมือนเป็นการเชิญใครสักคนมา
ณที่แห่งนี้
และแล้วผมได้สังเกตถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นคือท้องฟ้ามืดเหมือนฝนจะตกผมเริ่มกลัวขึ้นมาทันทีผมจึงเข้าไปอยู่ใกล้ๆกับคุณตา
แต่แล้วหูผมได้ยินเสียงของอะไรซักอย่างดังมาจากลำธารเป็นเสียงคนเล่นน้ำโดยปกติแล้วป่าแบบนี้คงไม่มีคนมาเล่นน้ำหรอกแต่ด้วยความเป็นเด็กและชอบสงสัยอะไรต่างๆๆ
ก็เลยแอบเดินไปดูโดยไม่บอกคุณตาด้วยเผื่อเจอเด็กๆๆรุ่นเดียวกันเล่นน้ำก็คงดีจะได้เล่นน้ำด้วย
ผมจึงแอบย่องไปข้างต้นไม้ติดลำธารแต่สิ่งที่ผมเห็นกลับไม่มีอะไรเลยแต่มีแสงสีท้องส่องผ่านจากในน้ำขึ้นมาแทน
ผมจึงเดินเข้าไปดูจึงเห็นว่าเป็นแหวนสีทองสวยมากตกอยู่ในน้ำ หนึ่งวง ด้วยความดีใจผมเลยลงไปเอาแหวนนั้นขึ้นมาแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าโดยไม่บอกคุณตา
แล้วหลังจากที่คุณตาเสร็จพิธีแล้วจึงพาผมเดินกลับบ้านผมถามคุณตาว่าทำมัยว่างของไว้แบบนี้ไม่กลัวคนขโมยหรอ เพราะที่ผมเห็นในหลุมศพแต่ละหลุมมีทั้ง หมวกเหล็ก รองเท้า และข้าวของเครื่องใช้ต่างๆๆมากมาย
คุณตาตอบสั้นๆๆว่าคนทุกคนล้วนรักของๆตัวเองทั้นนั้น
หลายก็ห้ามไปขโมยของๆคนอื่นมานะ
จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงบ้านผมก็ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกินข้าว
โดยไม่ยอมเล่าเรื่องวันนี้ให้คุณพ่อคุณแม่ฟังเลยบอกแค่ว่าคุณตาพาไปดูหลุมฟังศพทหาร
จากนั้นพอเวลาสักประมาณ 23.00
ผมรู้สึกประหลาดใจมากมีเสียงดังมาจากใต้ถุนบ้านเหมือนมีคนมาค้นหาของ ลืมบอกครับบ้านผมเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูงจากพื้นและห้องน้ำก็จะอยู่ด้านล่างของบ้านข้างบ้านเป็นป่ากล้วยของคุณตาครับ
จากนั้นผมก็พยายามปลุกพ่อกับแม่ให้ลุกมาฟังแต่พ่อแม่ก็ไม่ยอมตื่นซักทีผมเลยลองเดินออกไปดูโดยมีไฟฉายติดตัวไปด้วย
ผมเอาหัวกลมลงไปดูและสิ่งที่ผมเห็นคือเหมือนเป็นคนแต่ตัวใหญ่มากดูไม่เห็นหน้าชัดเจนแต่ได้ยินเสียงบนว่า ของกูอยู่ไหนวะ ซ้ำไปมาอยู่หลายลอบ ผมก็นึกว่าเป็นโจรหรือเปล่าเลยตัดสินใจเอาไฟฉายส่องดูเพื่อโจรจะกลัวแล้วหนีไป
แต่สิ่งที่เห็นคือเงาคนสีดำไม่มีหัวกำลังข้นของอยู่จากนั้นก็เงานั้นก็หยุดแล้วหันมาหาผม ในมือของเงานั้นถืออะไรบ้างอย่างยกขึ้นมาก็ผมมองเห็นได้ชัดเลยว่ามันเป็นหัวคนที่ส่งยิ้มมาพร้อมตาสีแดง
แล้วพูดว่ามึงเอาของกูไปไว้ที่ไหนผมตกใจสุดขีดรีบลุกแล้ววิ่งเข้าห้องจากนั้นเสียงหมาก็หอน ดั่งขึ้นมาพร้อมกับเสียงคนพูดว่ามึงเอาของกูไปไว้ไหน
1
ผมกลัวมากพยายามปลุกพ่อแม่แต่ก็ไม่เป็นผล
ผมจึงวิ่งเข้าไปหาคุณตา คุณตาก็ตื่นรอผมอยู่แล้วพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจแล้วถามผมว่าไปทำอะไรมาหรือเปล่าเขาจึงมาทวงของคืนแบบนี้
หลานไปเอาอะไรมาซึ่งทำให้ผมนึกได้เลยว่าได้ไปเก็บแหวนที่ตรงลำธารมา ผมจึงเล่าให้คุณตาฟังคุณตาทำหน้าตกใจแล้วต่อว่าผมทันทีเลยว่าหลายทำอะไรลงไป
ตาบอกแล้วว่าของใครใครก็รัก คุณตาถามว่าแหวนวงนั้นตอนนี้อยู่ที่ไหนผมเลยบอกไปว่าอยู่ในกระเป๋ากางเกงที่ว่างไว้ในห้องน้ำ
คุณตาก็เลยจับไฟฉายแล้วถือเอาย่ามพร้อมกับมีด หนึ่งเล่มไปด้วยแล้วบอกกับผมว่าถ้าใครเรียกให้ออกไปหาห้ามออกไป
จากนั้นคุณตาก็เดินบงจากบ้านไปผมก็วิ่งไปนอนกับพ่อแม่แล้วเอาผ้าคลุมหัวทันที สักพักผมก็ได้ยินเสียงคนเรียกว่าหลานๆๆ ออกมาหาตาที ตาอยู่ข้างนอกบ้านตาขึ้นไม่ได้มันมืดมากเลยด้วยความดีใจก็เลยคิดจะออกไปแต่กลับนึกได้ว่าตาเอาไฟฉายไปด้วยไม่น่าจะมืด
แต่เสียงเรียกก็ยังดังเลือยๆ ดังประมาณ10 นาที
แล้วก็หายไปผมก็เลยโล่งใจแต่อีกสักพักเสียงก็กลับมาแต่ไม่ได้แค่เสียงครั้งนี้มีเสียงเคาะประตูหน้าต่างผนังบ้านรอบไปหมดเลย
พร้อมกับเสียงคนพูกว่ามึงเอาของกูไปกูจะเอามึงไปด้วยซ้ำกันไปผมกลัวมากเลยพยายามปลุกพ่อแม่แต่ว่าไม่ได้ผมสักผมร้องไห้แล้วพูดขอโทษผมจะไม่เอามาอีกแล้วปล่อยผมไปนะครับผมกลัวแล้วเสียงนั้นก็หัวเลาะออกมา แบ้วพูว่ากูไม่ยอมยังไงมึงต้องไปกับกู ผมร้องไห้จนหลับไป จนประมาณตี5 ก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบ้านมา
ผมตกใจมากได้แต่คิดว่าตายแน่ๆๆคงไม่รอดแล้วผมกอดพ่อแม่ไว้ไม่ยอมปล่อยมือเลยจากนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากนอกห้องว่าตากลับมาแล้วหลานไม่ต้องกลัวนะ ตาเอาของไปคืนให้แล้วนะ
ผมได้ยินดังนั้นก็ดีใจมากวิ่งออกไปหาคุณตาด้วยความดีใจ หลังจากนั้นคุณตาก็ได้ให้ตะกรุดไว้แล้วบอกว่ามันจะช่วยให้คุ้มครองหลานนะ
ผมดีใจมากเลยครับร้องไห้ไม่หยุด จนถึงทุกวันนี้ตะกรุดก็ยังอยู่กับผมนะครับ ส่วนคุณตาตอนนี้ก็ยังอยู่ครับอายุ79ปีแล้ว และนี่คือเหตุผลว่าทำมัยไม่ควรขโมยของคนอื่นมานะครับของใครใครก็รักครับ สดูท้ายก็อยากขอใก็ทุกคนมาติดตามผมให้มากๆนะครับจะมีเรื่องเล่าใหม่มาลงให้อ่านนะครับ
1
โฆษณา