22 ธ.ค. 2019 เวลา 03:00 • ธุรกิจ
"ลักษณะของหุ้นที่ไม่น่าเข้าไปยุ่ง"
[สำหรับการลงทุนระยะยาว]
.
1. ไม่มีปันผล - การที่บริษัทไม่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นนั้น แสดงว่าต้องมีปัญหาอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็ไม่ให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นสักเท่าไหร่
และการที่เราจะเข้าไปซื้อหุ้นลักษณะนี้ มันทำให้เราเสียเปรียบตรงที่ เราหวังได้แค่กำไรส่วนต่าง หากราคาหุ้นไม่ไปไหน เท่ากับการลงทุนของเรานั้นไม่ได้อะไรเลย เป็นแบบนั้นเอาเงินฝากกับธนาคารเสียดีกว่า
เป้าหมายของนักลงทุนระยะยาว คือ การให้เงินทำงานแทนเรา นั่นหมายความว่า #ต้นไม้ที่เราลงทุนปลูกควรจะเป็นต้นไม้ที่ออกดอกออกผลให้กับเราได้ตลอดชีวิต ซึ่งก็คือ "เงินปันผล" นั่นเอง
.
2. หุ้นที่พุ่งขึ้นแรงแล้ว - การที่นักลงทุนเข้าไปซื้อหุ้นที่พุ่งขึ้นมาสูงๆแล้วนั้นเป็นความเสี่ยงที่สูงมาก นั่นหมายความว่า มีคนที่มีต้นทุนอยู่ข้างล่างระดับนึงแล้ว
ลองนึกภาพตาม ถ้าเรามีต้นทุนหุ้นตัวนึงอยู่ที่ 5 บาท วันนี้มันขึ้นมาถึง 10 บาท เราอยากจะขายมันมั้ย? อยากแน่นอน ถูกมั้ยครับ? คนอื่นก็คิดเหมือนเรา
ฉะนั้นโอกาสที่จะถูกเทขายมาเพื่อทำกำไรของคนที่มีต้นทุนต่ำมีสูงมาก และถ้าเราเห็นหุ้นแบบนี้ที่ขึ้นมา 100% แล้วดันเข้าไปซื้อ โอกาสขาดทุนก็อยู่ไม่ไกลเลย ทางที่ดี #เราควรมีหุ้นตั้งแต่ตอนมันยังไม่พุ่งขึ้นแรง
.
3. กำไรสะสมติดลบ - หากหุ้นตัวนั้นไม่มีกำไรสะสมของบริษัทเลย แถมยังติดลบอีก โอกาสที่บริษัทนั้นจะเจ๊งมีสูงมาก
กำไรสะสมเป็นตัวชี้วัดความแข็งแกร่งของธุรกิจได้อย่างดี หากกำไรสะสมเป็นบวกยังถือว่าโอเค แต่ถ้ามันเกิดติดลบแล้วละก็ถือว่ากิจการนั้นๆเสี่ยงมากเลยทีเดียว
#กำไรสะสมติดลบอย่าได้เข้าไปยุ่งเชียว
.
4. หนี้สินสูง - เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว เราคงไม่อยากให้บริษัทเรามีหนี้สินเยอะๆ รายได้น้อยๆ กำไรน้อยๆ หรอกถูกมั้ยครับ
เพราะฉะนั้นการซื้อหุ้น ก็คือการเข้าไปเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัทนั้นๆ เราก็ควรเลือกบริษัทที่สินทรัพย์เยอะ แต่หนี้สินน้อย จะปลอดภัยกับการลงทุนของเรามากที่สุด
ส่วนตัวผมจะชอบบริษัทที่มีสินทรัพย์มากกว่าหนี้สิน 2-3 เท่าตัวขึ้นไป ถือว่าเข้าข่ายที่น่าลงทุน และทำให้ลดความเสี่ยงการลงทุนของเราให้น้อยลงได้มาก
#หนี้สินเยอะพอๆกับทรัพย์สินอย่าเข้าไปยุ่งเลย
1
.
ปล. ทุกๆการลงทุนมีความเสี่ยง เราควรศึกษาให้ดีก่อนคิดจะลงทุนนะครับ 😁
ติดตามข้อมูลความรู้หุ้นดีๆแบบฟรีๆเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา