ก้าว 3 ก้าว
มีนักธุรกิจท่านนึงที่อยากทำบุญ พอดีมีเพื่อนๆแนะนำมาว่า ไปหาพระท่านนี้สิแม่นจริงของดีเพียบ
นักธุรกิจท่านนี้พอได้ยินแบบนี้ก็ได้ทำการเตรียมของเพื่อไปถวายให้พระ ด้วยสังฆทาน 5 ชุด กับเงิน 10,000 บาท และก็ไปที่วัด
พอไปถึงวัดก็เข้าไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อครับวันนี้ผมมาทำบุญครับ ผมอยากรวยขึ้นกว่าเดิมอยากประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม หลวงพ่อมีของดีให้ผมไหมครับ
ด้วยความที่หลวงพ่อเป็นคนตรงๆพูดตรงๆแรงๆ จึงบอกกับนักธุรกิจท่านนี้ไปว่า ไอ้ของดงของดี ไม่มีให้หรอก มีแต่ธรรมมะนี่แหละที่เป็นของดี จะเอาไหมละ
เมื่อนักธุรกิจท่านนี้ได้ฟังที่หลวงพ่อพูด ก็เริ่มไม่ชอบ ใจจริงก็อยากจะลุกออกมาจากตรงนั้นเลยแต่ก็กลัวเสียมารยาทไหนๆก็ได้มาแล้วก็เลยเอาสะหน่อย ฟังสะหน่อย
หลวงพ่อก็เลยบอกว่า เมื่อเจ้าถึงยามที่ต้องตัดสินใจอะไรที่สำคัญที่สุดบางอย่างให้เจ้า ก้าวไป ข้างหน้า 3 ก้าว และ ก้าวถอยหลัง 3 ก้าว ทำแบบนี้ให้ได้ 3 หน ค่อยตัดสินใจ ถ้าเจ้าทำได้ ชีวิตจะมั่งคั่งเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
พอนักธุรกิจฟังหลวงพ่อพูดจบก็เลยกราบลา โดยดึงเงินที่จะถวายคืน 5,000 บาท และ สังฆทานอีก 3 ชุด บอกว่าจะไปให้วัดอื่นด้วย เพราะในใจรู้สึกไม่คุ้มกับการมาวัดครั้งนี้
หลายวันต่อมานักธุรกิจท่านนี้มีธุระที่ต้องบินไปต่างประเทศเพื่อไปเซ็นต์สัญญาระหว่างธุรกิจ แพลนประมาณ 5 วัน จึงได้ไปทำการสั่งลาภรรยาผู้น่ารัก
นักธุรกิจท่านนี้มีภรรยาสาวสวยอายุ 22 ต้นๆ สวยเซ็กซี่ที่สุดรักมากห่วงมาก และกลัวมากว่าภรรยาของตัวเองจะไปมีชู้ จึงพร่ำพรอดอยู่นานสองนานพอได้เวลาสักพักภรรยาจึงบอกว่า "พอแล้วคะพี่หนูไม่มีใครหรอกเชื่อใจหนูได้" หลังจากนั้นนักธุรกิจท่านนี้ก็ได้ออกเดินทาง
ในระหว่างที่อยู่ต่างประเทศนั้นนักธุรกิจท่านนี้เขาคิดถึงภรรยาเขามากเพราะในใจกังวลอยู่ตลอดเวลาว่าภรรยาจะนอกใจจึงรีบทำธุระให้เสร็จเร็วที่สุดและทำการซื้อเพชร1ชุดเพื่อเป็นของขวัญกลับไปฝากภรรยา
พอถึงวันที่ 3 เขาก็บินกินมาบ้านทันที ถึงบ้านประมาณ เที่ยงคืนกว่าๆ กะว่าจะย่องเบาเข้าไปในบ้านเพื่อเซอร์ไพรส์ภรรยาโดยการปลุกเธอขึ้นมาและมอบเครื่องเพชรให้เธอ เธอคงจะดีใจน่าดู
พอปีนกำแพงเข้าไปในบ้าน ตอนมืดๆไม่ได้เปิดไฟก็พอจะเดาทางได้เพราะเป็นบ้านของตัวเอง แต่ก็รู้สึกแปลกๆเอะ ทำไมประตูหลังบ้านถึงไม่ได้ล็อคนะ? แต่ก็ไม่ได้สนใจ เขาก็เลยเดินผ่านเข้าไปในห้องและค่อยๆเปิดประตูห้องเข้าไป
พอเข้าไปในห้องและมองเข้าไปที่เตียงของภรรยาที่นอนอยู่เห็นหัวของภรรยาที่โผ่ลออกมาจากผ้าห่ม ก็เลยคลานไปอีกฝั่งเพื่อจะทำการเซอไพรส์ พอคลานเข้ามาใกล้อีกฝั่ง มองไปที่เตียง ใจก็เต้นแรงตุบตับๆ เหงื่อซกไปทั้งตัวทันที ใครกันมานอนคว่ำหน้าอยู่ตรงนี้ ฉันรักเธอขนาดนี้ ให้เธอมากมายขนาดนี้ยังกล้านอกใจไปมีชู้อีกหรอ
ด้วยความโกรธแบบสุดขีด เขาเลยคลานกลับออกมาแล้วรีบเดินลงไปชั้นล่างเพื่อไปหยิบปืน กะจะฆ่าภรรยาและชู้ทิ้งไปซะจะได้ไม่ต้องทรมาร ในใจนั้นก็สะบดด่าว่าเมียลงมาจนสุดทาง
พอหยิบปืนได้ก็รีบเดินกลับขึ้นไป แต่ในระหว่างทางนั้นก็นึกถึงคำพูดของหลวงพ่อได้ว่า "เมื่อเจ้าถึงยามที่ต้องตัดสินใจอะไรที่สำคัญที่สุดบางอย่างให้เจ้า ก้าวไป ข้างหน้า 3 ก้าว และ ก้าวถอยหลัง 3 ก้าว ให้ครบ 3 หน"
ในใจนักธุรกิจท่านนี้ก็เลยคิดว่า บ่ะ ไหนๆก็จะฆ่าคนแล้วทำตามที่หลวงพ่อบอกก็ไม่น่ามีอะไรเสียหายนะ เขาก็ทำจนครบ 3 หน ในระหว่างที่ก้าว ก้าวก็ยาว ต้องตั้งสตินับก้าวอีก ปืนก็นักอีก ด้วยความที่ดวงตาของมนุษย์ ถ้าอยู่ในความมืดแรกๆ ก็จะมองไม่เห็นอะไร ก็นานๆไปม่านตาก็จะขยายขึ้นเพื่อรับแสงที่น้อยทำให้มองเห็นชัดขึ้น
พอไปถึงเตียงของภรรยาเขาก็คลานอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อไปดูให้ชัดอีกที ทันได้นั้นใจเขาก็เต้นเเรงตุบตับๆ เหงื่อซกอีกครั้ง เมื่อคนที่นอนอยู่ข้างภรรยานั้นคือ เเม่ของเธอเอง พอนักธุรกิจท่านนี้เห็นแบบนั้นก็เลยรีบ(เสียงสูง)วิ่งลงมาจากบนบ้านทันที ขว้างปืนทิ้ง เข้าห้องน้ำรีบอาบน้ำ รีบแต่งตัว แต่งตัวเสร็จ ก็ขับรถกลับมาที่วัดทันที
ขับรถไปถึงวัดประมาณ ตี 3 ไปปลุกหลวงพ่อแล้วเล่าถูกอย่างให้หลวงพ่อฟัง เพราะคำพูดของหลวงพ่อจึงทำให้ตนหยุดและตั้งสติได้ โดยเกือบที่จะได้ฆ่าภรรยาและแม่ของภรรยาไปแล้ว จึงได้ทำการมอบเงิน 5,000 ที่หยิบออกมากับสังฆทานอีก 3 ชุด ถวายให้กลับหลวงพ่อ
พอหลวงพ่อได้รับก็เลยถามกลับไปว่า เอะคุณโยม!
ทำไมถังนี้มันหนักจัง นักธุรกิจก็ตอบไปว่า อ่อนี่คือชุดเครื่องเพชรครับหลวงพ่อ ผมถวายให้หลวงพ่อครับ
ไหนๆก็ยังไม่ถึงเช้าเลย ผมขอนอนด้วยนะครับ (ยิ้ม)
พอถึงยามเช้านักธุรกิจก็กลับบ้านไปหาภรรยา และกอดภรรยาทันทีที่เจอกัน เขาดีใจมาก และคิดในใจว่า
"ฉันเกือบจะฆ่าคนที่ฉันรักที่สุดกับแม่ของเขาไปแล้ว"
เรื่องเล่าของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เกี่ยวกับ สติ
ขออภัยในเนื้อหาบางช่วงนะครับ ท่านเล่าสนุกมากแต่ผมจับใจความได้เท่านี้
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
