15 ต.ค. 2019 เวลา 16:35 • ประวัติศาสตร์
15 ตุลาคม "วันปั๊กสากล" #Nationalpugday!
กลับมาแล้วนะคะ ห่างหายกันไปนานน๊านนาน กลับมาคราวนี้ แอดก็ได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับน้องหมาปั๊กมาให้เพื่อนๆบล๊อคดิทได้อ่านกันค่าาาาา
แล้วทำไมต้องเป็นเรื่องน้องหมาปั๊กหละ???
เพราะว่าวันนี้เป็นวัน..หมาปั๊กแห่งชาติ.. ( National Pug day )
ประวัติความเป็นมาของน้องหมาปั๊ก
ย้อนไปประมาณ 2,000 กว่าปี หรือ 400-700 ปีก่อนคริสตกาลน้องหมาปั๊กได้ถือกำเนิดในประเทศจีน แรกเริ่มนิยมเลี้ยงอยู่ในวัดจีนทางแถบทิเบต ต่อมาได้มีการขยายความนิยมเข้าไปยังพระราชวังผันตัวไปเป็นน้องหมาทรงเลี้ยง หรือ “สุนัขหลวง” เพราะมีรูปร่างลักษณะโหวงเฮ้งดีเหมือนราชสีห์หน้าประตูวัง จึงได้รับมอบตำแหน่งให้มานั่งอยู่เคียงข้างจักรพรรดิเฝ้าต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง ถึงกับมีการกล่าวกันว่าน้องหมาปั๊กเพศเมียนั้นจะยิ่งรู้งานนั่งนิ่งอย่างมีสง่าราศี ได้รับการยกย่องเชิดหน้าชูตาเทียบเท่าตำแหน่งมเหสีและเหล่านางสนมของจักรพรรดิเชียว
ในสมัยเก่าก่อน ผู้ที่จะเลี้ยงน้องปั๊กได้จะต้องเป็นจักรพรรดิหรือราชนิกุลของในราชวงศ์เท่านั้น ไม่มีการนำน้องหมาปั๊กออกไปนอกพ้นประตูพระราชวังต้องห้าม ถึงขนาดมีการจัดยามคอยเฝ้าน้องปั๊กและจัดเตรียมอาหารอย่างดีที่สุดให้แก่พวกเขา หากใครขโมย จะมีโทษถึงประหารชีวิต
อย่างไรก็ตาม เมื่อประเทศจีนเริ่มเปิดการค้ากับต่างชาติ ได้มีการนำน้องหมาปั๊กเป็นของกำนัลให้แก่ราชวงศ์ต่างๆ ในต่างประเทศ อย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงประเทศทางแถบยุโรป ในเวลาต่อมา
น้องหมาปั๊กได้อวดโฉมตามที่ต่างๆทั่วโลกโดยเฉพาะซีกโลกตะวันตกที่เราจะเห็นน้องอยู่บนภาพวาดมากมาย เคียงคู่ด้วยราชนิกุลสำคัญๆ แต่กลับไม่มีเรื่ิองของน้องหมาปั๊กกับชาวบ้านธรรมดาสามัญชนเลย
นั่นเป็นเพราะอะไรน้าาาา
เริ่มด้วย จุดเริ่มต้นของน้องหมาปั๊กเมื่อประมาณ 400 ปีก่อนคริสตกาล จักพรรดิจีนโปรดปรานน้องหมาปั๊กที่มีรูปร่างเล็ก กระทัดรัดเหมาะกับการเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เป็นน้องหมาที่ชอบอยู่นิ่งๆ บนตัก ไม่ซุกซนวุ่นวาย อยู่ติดเจ้าของ พลังงานน้อย ไม่ต้องการพื้นที่ในการเลี้ยง สามารถอยู่เงียบๆ ในห้องได้ไม่มีปัญหา
อีกทั้งยังมีนิสัยขี้ประจบเอาใจ อ่อนโยนขี้เล่น ต้องการความรัก ดวงตากลมโตนอกจากจะคล้ายสิงโตศักดิ์สิทธิ์แล้วยังสามารถสื่ออารมณ์ความรู้สึกได้ชัดเจน เรียกความเมตตาเอ็นดูจากจักรพรรดิได้อีกด้วยค่ะ
ประการที่สอง..
น้องหมาพันธุ์ปั๊กมีรอยย่นที่สัญลักษณ์แสดง ถึงความเป็น ราชนิกุล อยู่บนกลางหน้าผาก มีลักษณะคล้ายตัวอักษรจีน อ่านว่า “หวังจื่อ” หมายถึง “เจ้าชาย” ซึ่งแสดงความเป็นน้องหมามงคล จึงเป็นความพิเศษที่คนในพระราชวังนิยมเลี้ยงและจักรพรรดิทรงโปรดค่ะ
ประการที่สาม..
หมาปั๊ก เป็นน้องหมาที่มีลักษณะคล้ายกับสิงโตอย่างที่เราเห็นกันหน้าพระราชวังของจีน ตัวเล็กๆ หน้าหัก หางม้วน ซึ่งทางความเชื่อของคนจีน สิงโตถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ มีบางตำนานกล่าวไว้ว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่าจะกลับชาติยังโลกอีกครั้งบนหลังสิงโต
นอกจากนี้สิงโตยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ เกียรติยศศักดิ์ศรี และความมั่งคั่งของอำนาจอีกด้วยค่ะ
ทำไมเรียกหมาหน้าย่นตัวนี้ว่าหมาปั๊ก????
ที่มาของสายพันธุ์ปักนั้น มีคำอธิบายแตกต่างกันไปมากมาย เช่นว่า ที่ฮอลแลนด์เรียกมันว่า Mopshond แปลว่า ย่นที่เยอรมันเรียกว่า Mopsและที่ฝรั่งเศสเรียกว่า Carlin
แต่คำอธิบายที่ดูน่าจะใกล้เคียงที่สุด คือ ใบหน้าของสุนัขชนิดนี้คล้ายกับลิงชนิดหนึ่งที่ชื่อ marmoset ซึ่งลิงชนิดนี้ถูกเรียกว่า Pugs
และเป็นสัตว์ที่นิยมเลี้ยงกันมากในช่วงต้นศตวรรษที่ 18
ดังนั้นเพื่อให้มีการแยกแยะสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ได้ง่าย จึงเรียกสุนัขว่า Pug Dogและเรียกสืบต่อกันมาถึงทุกวันนี้
ปั๊กเป็นสุนัขที่น่ารักและซื่อสัตย์ มันมีฉายาว่า Multum in Parvo ซึ่งเหมาะกับมันมาก ฉายานี้แปลว่า " a lot of dog in a small space" หรือ เหมือนมีสุนัขหลายตัวรวมอยู่ในเจ้าปักตัวเล็กๆ เพียงตัวเดียว
ปั๊กมีบุคคลิกลักษณะที่ดีเหมือนกับพร้อมจะแสดงอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะตัวเล็กแต่ก็ไม่ต้องการการเอาอกเอาใจมาก และแม้ใบหน้าดูเหมือนเป็นจอมขี้โกง แต่สำหรับผู้ที่คิดจะมีใจผูกพันกับมันแล้ว หน้าตาแบบนี้เองที่สามารถมัดใจไว้ได้ ไม่ว่าชายและหญิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเด็กๆ อาจกล่าวได้ว่า ปักเป็นสุนัขที่เกิดมาเพื่อจะอยู่ใกล้ชิดกับมนุษย์และทำให้มนุษย์มีความสุข
เป็นใงบ้างคิะ กับสาระดีๆเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับน้องหมาปั๊กในวันหมาปัํ๊ก รู้สึกอยากกลับบ้านไปจ้องตากลมโตของน้องแล้วละสิ น้องต้องตั้งคอสั้นๆรอเราลูบหัวอยู่แน่ๆเลย
ราตรีสวัสดิ์นะคะ 😊
โฆษณา