16 ต.ค. 2019 เวลา 08:28 • การศึกษา
รวมความรู้เกี่ยวกับอาหารที่ควรมีติดรถไว้ยามรถติด
จากผลการสำรวจชีวิตคนเมืองในปัจจุบันนั้น ใช้ชีวิตอยู่บนรถยนต์โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2-4 ชั่วโมงต่อวัน ยิ่งประกอบกับรถที่ติดแบบมหาโหดของกรุงเทพฯ เชื่อว่าหลายๆ คนคงต้องเคยหิวจนทนไม่ไหวเป็นแน่ เนื่องด้วยในวันอาหารโลก 16 ตุลาคม ทางเราจึงได้นำความรู้เกี่ยวกับอาหารมาให้ได้อ่านกันครับ
โดยเฉลี่ยแล้วมนุษย์เรานั้นจะใช้พลังงานในการขับรถ อยู่ที่ 170 กิโลแคลอรี่ ต่อ ชั่วโมง ยิ่งรถติดมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้าปล่อยให้ท้องหิวอยู่อย่างนั้นก็อาจจะเสี่ยงต่อโรคกระเพาะ และทางเดินอาหารได้ ซึ่งอาหารที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและเหมาะกับการพกไว้ทานเวลารถติดนั้นมีดังนี้
ถั่วและธัญพืช
หนึ่งในอาหารที่เบสิคสุดๆ ทานได้ง่าย ไม่เลอะเทอะ ปราศจากกลิ่น อุดมไปด้วยพลังงานจากไขมัน โปรตีน และไฟเบอร์ มีราคาที่หลากหลายตั้งแต่ถั่วลิสงที่ราคาไม่แพง ไปจนถึงอัลมอนด์ หรือแมคคาเดเมียที่มีราคาสูงขึ้นไป ซึ่งอาหารจำพวกถั่วหรือธัญพืชนั้นยังเก็บรักษาไว้ได้นานอีกด้วย
ผลไม้อบแห้ง
ผลไม้อบแห้ง อาทิ ลูกเกด อินผลัม ลูกพรุน สตรอว์เบอร์รี่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพราะเก็บรักษาได้ง่าย ให้สารอาหารที่หลากหลาย รวมถึงให้พลังงานสูง แต่อาจจะต้องระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลในผลไม้อบแห้งบางชนิดเช่นกัน
โฮมเมดแซนวิช
แซนวิชเป็นอาหารมื้อหลักที่ทานได้ง่าย อยู่ท้อง และมีสารอาหารที่ครบหลักโภชนาการ ยิ่งเป็นแซนวิชที่ทำเองนั้นสามารถเลือกวัตถุดิบได้หลากหลาย และปรุงแต่งรสชาตให้ออกมาถูกปากได้เป็นอย่างดี
เอเนอร์จี้บาร์
แม้ว่าคุณจะไม่ใช่สายคลีนผู้รักสุขภาพ ก็ต้องยอมรับว่าเอเนอร์จี้บาร์ นั้นหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป อีกทั้งยังให้พลังงานที่เหมาะสมและสารอาหารที่ครบถ้วน แถมยังมีรสชาตหลากหลายให้เลือกอีกด้วย
ชา และ กาแฟ
ชา และ กาแฟ สามารถช่วยแก้ง่วงได้ ด้วยผลจากคาเฟอีนในตัวเครื่องดื่มสุดมหัศจรรย์นี้ จะช่วยกระตุ้นสมองทำให้ตื่นตัว อย่างไรก็ตามร่างกายมนุษย์นั้นไม่ควรรับคาเฟอีนเกินกว่า 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเท่ากับกาแฟ 3-4 แก้ว เพราะคาเฟอีนในกระแสเลือดที่มากเกินไปอาจทำให้มือสั่น นอนไม่หลับ หรือเกิดอาการชักได้
น้ำสะอาด
น้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญกว่า 70% ในร่างกายมนุษย์ ทั้งช่วยให้ความชุ่มชื้น ทำให้รู้สึกสดชื่น และทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นควรมีน้ำสะอาดติดรถไว้อยู่เสมอ โดยควรดื่มน้ำ 8-10 แก้วต่อวันเป็นอย่างน้อย
** แถมท้ายกับเคล็ดไม่ลับ **
ก่อนขับรถควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อหนัก หรือการกินอาหารที่เยอะเกินไป เนื่องจากหลังอาหารมื้อหนักปริมาณเลือดในร่างกายจะถูกส่งไปยังกระเพาะอาหารและลำไส้เพื่อช่วยย่อยอาหาร เป็นสาเหตุทำให้เรามักเกิดอาการง่วงหลังจากที่กินอิ่มและมีโอกาสหลับในได้
หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ด
การรับประทานอาหารรสจัดนั้นจะทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นปัจจัยในการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร ทำให้ไม่สบายตัว และยังเสี่ยงทำให้เกิดอาการปวดท้องได้อีกด้วย
ดื่มไม่ขับ
แอลกอฮอล์นั้นทำให้ร่างกายคนเรามีอัตราการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ รอบข้างช้าลง สำหรับกฎหมายบ้านเรานั้นถือว่าผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอลเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ นั้นเมาสุราและมีโทษหนัก ดังนั้นอย่าลืม Drink Responsibly ดื่มไม่ขับดีกว่านะครับ
และสำหรับคราวหน้า ทีมงาน Autostation จะนำเรื่องราวดี ๆ อะไรมาฝาก ติดตามกันได้เลยครับ
ติดตามข่าวสารยานยนต์ก่อนใครได้ที่ www.autostation.com
โฆษณา