Dr.Branden เป็นคนที่บำบัดจิตใจของ Charles เขาบอกว่าตอนที่เขาเห็น Charles ครั้งแรก เขาไม่ได้เห็นชายวัยกลางคนผมบาง แต่เขาเห็นเด็กน้อยผู้หวาดกลัว สับสน และรวดร้าว
Charles เป็นลูกชายคนเดียวของผู้อพยพชาวรัสเซียที่ยากจน เขาถูกเลี้ยงดูโดยปราศจากความรัก ไม่เคยรู้สึกถึงความอบอุ่นหรือความรักใคร่ ทั้งยังถูกทารุณกรรมทางกายอย่างน่าอับอาย แต่เขามีความปรารถนาแรงกล้าที่จะอยู่รอดและทะเยอทะยานไขว่คว้าความสำเร็จ
ถ้าเทียบชีวิตวัยเด็กของ Charles กับทฤษฎีลำดับความต้องการของ Maslow (Maslow’s Hierarchy of Needs) เราจะเห็นว่าหลายส่วนเลยทีเดียวที่ไม่ได้รับการเติมเต็ม ทฤษฎีนี้บอกว่าเราต้องเติมเต็มความต้องการขั้นพื้นฐานก่อนจากนั้นถึงจะมีความต้องการในขั้นที่สูงขึ้นและซับซ้อนขึ้น
Maslow’s hierarchy of needs
ชีวิตในวัยเด็กของ Charles ไม่ได้รับความปลอดภัย ไม่ได้รับความรักจากพ่อแม่ เมื่อส่วนนี้ไม่ได้รับการเติมเต็ม เขาจึงรู้สึกเว้าแหว่ง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ Charles ต้องการที่จะมีความนับถือตัวเอง
Dr.Branden บอกว่าตัวตนวัยเด็กที่อยู่ในร่างผู้ใหญ่ถือกุญแจดอกสำคัญสู่การกอบกู้ความนับถือตัวเองของ Charles กลับคืนมา ถ้าเรามีปัญหาเรื่องความนับถือตัวเองแบบ Charles ก็เป็นไปได้ว่าวัยเด็กของเราคงได้รับความเจ็บปวดบางอย่าง
Dr.Branden หาทางให้ Charles กอบกู้ตัวตนในวัยเด็ก เขาอยากให้นึกย้อนไปในวัยเด็ก ให้ดำดิ่งจนสัมผัสความรู้สึกอัปยศ อับอาย อันตราย ปั่นป่วน สับสน
วิธีการที่จะไปถึงขั้นนั้นคือการเติมประโยคให้สมบูรณ์ เขาจะให้ประโยคที่ไม่สมบูรณ์มา Charles จะต้องทวนประโยคนั้นและต่อประโยคจนจบให้แตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง
ความนับถือตัวเองในระดับที่ไม่เหมาะสมจะส่งผลชีวิตของเรามีปัญหาแบบที่ Charles เป็น คุณอาจจะบรรลุสิ่งที่คุณเรียกว่าความสำเร็จ แต่ลึกๆคุณก็ยังรู้สึกถึงความเว้าแหว่งภายในใจ