คุณมีที่ยึดเหนี่ยวความจำแบบไหน?
ธรรมะฉบับพกพา
จำได้ว่ามีหนังเรื่องนึงเกี่ยวกับมิติของเวลา ต้องมีอะไรบางอย่างเป็นจุดที่ทำให้กลับมาที่เดิมได้
ในกรณีของผม ณ เวลานี้ยังนึกไม่ออกครับ
เวลาเจอสถานการณ์แบบนี้ ผมต้องหาอะไรทำ แล้วค่อยกลับมานึกใหม่เป็นระยะ ซึ่งบางครั้งก็จำได้เร็ว บางครั้งก็ช้า ขึ้นอยู่กับว่าวันที่เกิดเหตุการณ์นั้นมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่
เช่น วันนั้นดูหนังอยู่บ้านดีๆ ไฟดับ หรือนัดไปดูหนังเรื่องนั้นกับแฟนครั้งแรก
เงื่อนไขพวกนี้บางทีก็ช่วยเรื่องการเรียนได้เหมือนกัน ผมว่า Mind map ก็เป็นวิธีนึง ใช้สัญลักษณ์สีหรือรูปภาพโยงเส้นแสดงความเชื่อมโยง
ผมเคยนำเสนอ Product strategy โดยใช้ Mind map ปรากฎว่าผู้บริหารระดับสูงทั้งสองท่านไม่เข้าใจครับ
ผมน่าจะ Present ไม่ดีในวันนั้น สรุปในที่ประชุมก็กลับไปใช้วิธีดั้งเดิม คือ ถามฝ่ายขายทีละคน แล้วแต่ว่าใครถนัดขายอะไร คาดการณ์ว่าจะขายได้มั้ย
เพื่อกำหนด New product สำหรับปีหน้า ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงกัน เพราะผมก็ควักข้อมูลเดียวกัน ออกมาใช้
และได้ Lobby กับฝ่ายขายให้ทำสรุปยอดขายย้อนหลัง 3 ปี เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยไว้ก่อนหน้านี้แล้ว สรุปคือต่างกันที่วิธีการนำเสนอและเวลาที่ใช้ครับ
เจ้านายพอใจก็ถือว่าจบ
กลับมาเรื่องการทบทวนความจำกันอีกครั้ง
วิธีที่ผมใช้ส่วนตัวและใช้บ่อยที่สุดคือการสวดมนต์ และเวลาที่ผมสวดมนต์เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์คือตอนขับรถไปทำงานตอนเช้า
บางวันก็ใช้เวลาน้อย เพราะสวดรวดเดียว แต่บางวันก็ไม่ คือสติไม่อยู่กับตัวเผลอคิดเรื่องอื่น
บางทีรู้สึกตัวอีกทีก็สงสัยตัวเองว่าหยุดสวดไปเฉยๆตอนไหน ไม่รู้ว่าถึงบทไหนแล้ว ก็ต้องเริ่มใหม่
วันที่สวดคล่องๆจะเป็นวันที่สมองปลอดโปร่งมาก คิดอะไรก็ออก หาทางแก้ไขปัญหา หรือแม้กระทั่งความโกรธที่เกิดจากเพื่อนร่วมงานที่ไปด้วยกันไม่ค่อยได้ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน วันนั้นก็จะหาวิธีจัดการแบบสวยๆจนได้
ผมใช้เวลาประมาณ 15 นาที ถ้าเร็วกว่านั้นจะหมายถึงเปอร์เซนต์สูงที่ผมจะทำงานได้ดีในวันนั้น
และเวลาสวดหากขับคนเดียวก็จะออกเสียงให้ตัวเองได้ยิน ถ้ามีเด็กๆนั่งไปด้วยก็พึมพำเอา หรือไม่ก็ไปส่งที่โรงเรียนให้เรียบร้อยก่อน
เคยได้ยินว่าเวลาสวดมนต์ควรเปล่งเสียงให้ดังพอประมาณ เผื่อแผ่ให้กับเจ้ากรรมนายเวร สรรพสัตว์ หรือเทวดาได้ยินเสียงสวดนั้น
อันที่จริงผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้มาก ที่ออกเสียงเพราะกลัวลืมครับ อาจจะเป็นกุศโลบายของคนเก่าก่อนก็ได้
บทสวดที่ใช้ประกอบไปด้วย (ขอเปิดบทสวดแพพเพราะจำชื่อบทสวดไม่ได้ทั้งหมดโดยสมบูรณ์ แต่ท่องได้ครับ)
บูชาพระรัตนตรัย
กราบพระรัตนตรัย
นมัสการพระรัตนตรัย
คำขอขมาพระรัตนตรัย
ไตรสรณคมน์
ถวายพรพระ (อิติปิ โสฯ)
พุทธชัยมงคลคาถา (พาหุงฯ)
มหาการุณิโก
พระคาถาชินบัญชร (ที่เริ่มฝึกเกิดจากการอ่านเพชรพระอุมา)
แผ่เมตตาแก่ตนเอง
แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์
แผ่ส่วนกุศล
ครบตามนี้เป็นอันจบ และผมจะมีเวลาฟัง Podcast ฝึกฟังภาษาอังกฤษอีกนิดหน่อยแล้วแต่วัน ซึ่งระหว่างฟังอยู่นั้นผมก็จะกินข้าวเช้าไปด้วย ก็ขับไปกินไปล่ะครับ ตอนรถติดๆ
บทสวดทั้งหมดหาง่ายมากครับ เป็นเล่มเล็กๆพกพาได้ เวลาไปวัดจะมีวางแจกกันเยอะเลย ส่วนใหญ่เนื้อหาบทสวดคล้ายกัน
ผมยังไม่เคยบวชเรียนและไม่ได้ธรรมมะธัมโมมาก ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมก็เป็นคนทั่วๆไป เข้าวัดบ้างตามโอกาส
ผมเพียงแค่นำหลักคำสอนซึ่งเป็นเหตุเป็นผลมาเป็นเข็มทิศนำทาง บทสวดต่างๆก็ทำให้ระลึกถึงองค์พระพุทธเจ้าและศาสนาพุทธ ที่เหลือคือกำไร
ตั้งแต่ผมเริ่มฝึกท่องสวดมนต์มาเกือบสิบปี ชีวิตการทำงานถึงแม้จะมีอุปสรรคน้อยใหญ่ แต่ก็ฝ่าฟันมาได้และเจริญเติบโตตามเวลาที่ผ่านไป
ก็ได้นำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆไว้ตรงนี้ครับ
อย่าลืมกด Like กด Share กดติดตาม เป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
