1.ถือเงินสดมากเกินความจำเป็น ธุรกิจเสียโอกาสในการลงทุนที่ให้กำไรสูงกว่า
2.ขายเชื่อมากเกินไป เกิดลูกหนี้ที่เก็บไม่ได้จำนวนมากเงินทุนจมในตัวลูกหนี้ เสี่ยงเกิดหนี้สูญ มีค่าใช้จ่ายเก็บหนี้มากขึ้น
3.สต๊อกสินค้าคงเหลือเกินความจำเป็นเงินทุนจมในสินค้า ระยะยาวสินค้าเสื่อมสภาพหรือล้าสมัยจนไม่สามารถขายได้
4.ถือเงินสดน้อยเกินไป ส่งผลให้ธุรกิจดำเนินงานติดขัด เพราะมีเงินสดไม่เพียงพอในการจ่ายชำระหนี้จ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
5.เร่งรัดชำระหนี้เร็วเกินไปทำให้ยอดขายลดลง เพราะลูกค้าตัดสินใจไปซื้อสินค้าจากรายอื่นที่ให้เครดิตนานกว่า
6.สินค้าคงเหลือน้อยเกินไป ทำให้สินค้าขาดมือส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและส่วนแบ่งตลาดลดลง
7.ยืมเงินจากแหล่งเงินทุนระยะสั้นมากเกินไป เพื่อนำมาจ่ายชำระหนี้ให้ทันกำหนด เช่น การกู้ยืมเงินจากธนาคาร สามารถจ่ายชำระหนี้ได้ทันตามกำหนด แต่ไม่สามารถทำให้สภาพคล่องของกิจการดีขึ้น กลับกันทำให้ธุรกิจมีปัญหาสภาพคล่องมากขึ้นกว่าเดิมเพราะอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน(Current Ratio) เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ลดลง
จากข้อมูลทั้งหมดนี้เราจะเห็นได้ว่า “เงินทุนหมุนเวียน” คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจอยู่รอดได้หรือไม่ได้ คนที่มีประสบการณ์จะมีวิธีบริหารจัดการอย่างมืออาชีพตรงกันข้ามกับผู้ลงทุนรายใหม่ๆ ที่ไร้ประสบการณ์มักมองข้ามเรื่องนี้สุดท้ายกลายเป็นว่าธุรกิจเดินหน้าไม่ได้ทั้งที่มีการวางแผนทุกอย่างเป็นอย่างดียกเว้นไม่ได้วางแผนเรื่องเงินทุนหมุนเวียนให้ดีพอ