10 สัญญาณเตือนว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะพังพินาศ (ตอนจบ)
Credit: TNN_16
เอ้าๆ ล้อมวงกันเข้ามา เราจะเล่าให้ฟังอีก 5 สัญญาณเตือนภัยในยาม "เศรษฐกิจกำลังจะมีปัญหา"
6. ตลาดหุ้นตกเอาตกเอา - ตลาดหุ้นเนี่ยนะ ปกติมันผันผวน ขึ้นๆลงๆ ตลอดเวลา แต่...ถ้ามันเอาแต่ลง ลง ลง ลง ลง ต่อเนื่องกัน มันคือหนึ่งในสัญญาณที่เราๆต้องจับตามอง คือตลาดหุ้นนี่นะ มี 2 โหมด คือ โหมดกระทิง (ขาขึ้น) กับ โหมดหมี (ขาลง) การที่ตลาดเปลี่ยนโหมดมาเป็นหมี มันย่อมแสดงให้เห็นถึงสภาวะธุรกิจของบริษัทในตลาด (ใหญ่ๆทั้งนั้น) และสะท้อน "ความเชื่อมั่น" ของนักลงทุน ซึ่งมีการโยกย้ายเงินจากตลาดหุ้นไปตราสารหนี้ (พวกพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้บริษัทเอกชน อื่นๆ) หรือแม้กระทั่ง "ทอง" ซึ่งเราสังเกตกันมั้ยว่าช่วงที่ผ่านมาเนี่ย ราคาทองเริ่ม"ขยับขึ้น" แล้วนะ กลับมาที่ตลาดหุ้นไทย ถ้าดูย้อนหลัง 5 ปี ตลาดบ้านเราก็ยังไม่ได้แย่นะ เพราะฉะนั้นถือว่าตลาดหุ้นไทยยัง "โอเค" อยู่
7) หนี้บัตรเครดิต / หนี้ครัวเรือน / การผิดนัดชำระสูงขึ้น - ข้อนี้เป็นผลมาจากการที่สภาพเศรษฐกิจเริ่มฝืดเคืองหนักขึ้น คือรายได้ลดลงจนไม่พอค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะ "ค่าใช่จ่ายฉุกเฉิน" เช่น ค่าเทอมลูก ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ ซ่อมบ้าน และอื่นๆ ที่เราต้องใช้จ่ายแต่มันไม่มีเงินอะ ก็ต้องไปกู้เงินมา ซึ่งหนึ่งในแหล่งกู้เงินง่ายที่สุดคือ "กดเงินสดจากบัตรเครดิต" (วันหลังจะมาขยี้ประเด็นนี้ให้ฟังนะ) ส่วนของไทยนั้น พบว่าหนี้ครัวเรือนสูงขึ้น 6.3% คิดเป็น 78.7% ของ GDP (อธิบายง่ายๆว่า พวกเรารวมกันทั้งประเทศทำงานได้ 100 บาท แต่พวกเราทุกคนเป็นหนี้ที่เกี่ยวข้องกับ บ้าน รถ บัตรเครดิต เงินกู้ส่วนบุคคล"ในระบบ" รวมกัน 79 บาท) ซึ่งถือว่าสูงมากๆนะ สูงขนาดไหน สูงเป็นอันดับ 11 ของโลกไง แต่ GDP ราชอาณาจักรไทยมูลค่าสูงแค่อันดับที่ 25 เอง แสดงว่าเราเป็นหนี้มากกว่าความสามารถในการหาเงินมากๆนะ...
8. การสร้างบ้านหรือภาคอสังหาริมทรัพย์เริ่มชะลอตัวลง - ชัดเจนจ้า ลดลงชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มแนวดิ่งหรือคอนโดมิเนียม หลักๆเนื่องมาจากมาตรการของแบงค์ชาติไทยเรื่องการควบคุมการปล่อยกู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ทำให้ธนาคารปล่อยกู้กันยากขึ้น ส่งผลให้ "ความต้องการซื้อ" และ "ความต้องการสร้าง" ลดลงไปทั้งคู่ เพราะหลายปีที่ผ่านมาภาคอสังหาริมทรัพย์บ้านเราร้อนแรงมาก เน้นไปทางเก็งกำไร ทำให้เกิดความกังวลในเสถียรภาพของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (พวกเจ้าคงเคยยินคำว่า "ฟองสบู่คอนโดมิเนียม") แต่สำหรับเรา เรามองว่านี่เป็นมาตรการที่เหมาะสมแล้วนะ เพราะที่ผ่านมาราคาอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะใน กทม. สูงมากจนทำให้คนที่เค้าอยากซื้ออยู่เองต้องซื้อแพง เนื่องจากพวกนักเก็งกำไรมาคอยดักเก็บ "ใบจอง" เข้าทำนอง "คนอยู่ไม่ได้ซื้อ คนซื้อก็ไม่ได้อยู่" แถมเราไปต่างจังหวัดยังเห็นคอนโดขึ้นกันด้วย เราก็ไม่เข้าใจ ที่ดินมีตั้งเยอะ ทำไมไม่สร้างบ้าน ไปสร้างคอนโดเหมือน กทม. ทำไมกัน เฮ้อ...ประหลาด !
9. เงินเฟ้อสูงขึ้น - เรื่องของเงินเฟ้อที่มีผลกระทบกับสภาวะเศรษฐกิจคือ การที่เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป ทำให้สินค้าและบริการแพงขึ้นเร็ว ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ก็มักจะสูงขึ้นตามกันกระทบต่อภาคธุรกิจที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น สำหรับบ้านเรานะ ถ้าดูที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (ตัดผลจากราคาน้ำมันออก) ก็พบว่าเพิ่มขึ้นนิดหน่อย อยู่ที่ 0.49% จาก 0.41% ถือว่า ok
10. เงื่อนเวลา - คือเศรษฐกิจเนี่ย มองว่าเป็นวงจรก็ได้ มีขาขึ้นขาลง ทีนี้ก็มีคนเค้าติดตามดูในอดีตว่าแต่ละช่วงของวงจรเศรษฐกิจเนี่ย มันมีระยะเวลาเท่าไรกันบ้าง ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามแต่ละยุคสมัย โดยสั้นสุดที่ 18 เดือนในช่วงปี 2524 - 2525 แต่ในยุคปัจจุบันถือว่ายาวนานที่สุดแล้วคือตั้งแต่ปี 2552 ถึงปัจจุบัน ซึ่งถ้าพวกเจ้าก็ลองประเมินดูว่ามันใกล้จะสิ้นสุดแล้วยัง (อันนี้ตอบยากจริงๆ)
จบแล้ว 10 สัญญาณเตือนภัย ว่าเศรษฐกิจเราจะ "ปัง" หรือ "พัง" สำหรับเรา เรามองว่าจาก 10 ดัชนีชี้วัดเนี่ย ไทยโดนไป “4 เต็มๆ” (ข้อ 1, 3, 4, 7) และ “4 ถากๆ” (ข้อ 2, 5, 7, 8) ถ้าเหมารวมๆก็ถือว่า โดนไปประมาณครึ่งนึงได้...
เราอยากให้เจ้าอ่านแล้วอย่าเพิ่งเชื่อเรา พวกเจ้าควรจะศึกษาข้อมูลด้วยตัวเอง สังเกตสถานการณ์รอบๆตัวและเก็บไป "ตรึกตรอง" มองดูเอาเอง แล้วก็สามารถแชร์ความคิดเห็นหรือผลจากการสังเกตให้เพื่อนๆฟัง ช่วยกันเตือนสติ ช่วยกันเฝ้าระวัง เพราะถึงเวลาที่วิกฤตเศรษฐกิจมาจริง ความแข็งแกร่งของแต่ละคนแต่ละครอบครัวจะช่วยกันพยุงประเทศให้ผ่านพ้นภัยไปได้ ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบ และถึงแม้ประเทศไทยเราจะยังไม่เกิดภาะวิกฤติ แต่ถ้า "เพื่อนร่วมโลก" เราโดน (ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าประเทศแถบตะวันตกจะ "โดน" ก่อนพวกเรา) เราก็โดนไปด้วยกันนะ...
สู้ๆพวกเจ้า แล้วเราจะมาแชร์ มาขยี้ประเด็นอื่นๆต่อ ใครคิดว่าอ่าน Post เราแล้วมีประโยชน์ ก็ติดตาม / comment กันได้นะ
ขอสันติสุขจงมีแด่พวกเจ้า
#สุลต่านตกอับ
- 20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
