Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เกษียณก่อน35
•
ติดตาม
18 ต.ค. 2019 เวลา 23:00 • ปรัชญา
รีวิวหนังสือ Living Buddha, Living Christ
สวัสดีเช้าวันเสาร์สบายๆ เข้าหน้าหนาว
อยากชวนคุยเรื่องจิตวิญญาณและการใช้ชีวิต
พอดีสนใจศึกษาเรื่องจุดสูงสุดของชีวิต
เราเกิดทำไม อะไรคือความหมายของชีวิต
เราจะดับทุกข์ที่เจอทุกๆวันได้อย่างไร
เราจะเบิกบานร่าเริงทุกๆวันได้อย่างไร
เลยศึกษาศาสนามากขึ้นและหลากหลายขึ้น
เลยตามหาหนังสือที่พูดถึง 2 ศาสนานี้มาสักพัก
ทั้งพุทธและคริสต์
เคยอ่านแต่คริสตธรรม พุทธธรรมของท่านพุทธทาส
และก็ได้มาเจอเล่มนี้
เป็นคนที่ยังแสวงหาหนทางอันเป็นที่สุดของการเกิดมาในชีวิตนี้
มาเจอเล่มนี้กรี้ดเลย เพิ่งรู้ว่าเล่มนี้เขียนมา20ปีแล้ว
เล่มนี้ปกใหม่เวอร์ชั่น 20th Anniversary
คนเขียนคือท่าน ติช นัท ฮัน พระชาวเวียดนามที่โด่งดัง
เล่มนี้อ่านง่ายมากสำหรับเรา
ประเด็นที่ชอบมากที่สุดในเล่มนี้คือ
เราทุกคนล้วนมี"ราก"ทางศาสนา
แต่ปัจจุบันนี้คนรุ่นใหม่"ไร้ราก"
ไม่นับถือรากใดๆที่ได้มาจากบรรพบุรุษอีกต่อไป
เพราะผู้นำทางศาสนาล้วนไม่สามารถสื่อสารและส่งต่อคุณค่าไปยังคนรุ่นใหม่ได้แบบลึกระดับถึงจิตถึงใจ
ไม่สามารถส่งต่อเพชรแห่งจิตวิญญาณที่ได้รับมอบมาจากคนรุ่นก่อน
ไม่สามารถพูดภาษาเดียวกับคนรุ่นใหม่ได้
ส่งผลให้คนรุ่นใหม่ ทิ้งโบสถ์ ทิ้งสังคม ทิ้งวัฒนธรรม ทิ้งครอบครัว
มองไม่เห็นความสวยงาม และความจริง
เราทุกคนต้องมีราก เพื่อยืนได้อย่างแข็งแรง
หลายคนที่มาฝึกกับท่านติช ท่านจะให้ปฏิบัติแบบเดียวกับที่ศาสนาเดิมที่เราเคยเรียนรู้มา
เพื่อที่จะต่อรากเดิมของจิตวิญญาณ
และถ้าเค้าต่อยอดสำเร็จ เค้าจะกลายเป็นคนใหม่ที่transformจากศาสนาเดิมขึ้นไปอีก
เคยมีคนยิวมาปฏิบัติธรรมแล้วพบว่า
รู้สึกตัวเองเป็นชาวยิวมากกว่าแต่ก่อนอีก
โดยไม่ต้องเปลี่ยนศาสนาเลย
เราต้องหาเพชรแห่งจิตวิญญาณของรากเรา
(ความสวยงามอยู่ตรงที่ บางคนมาปฏิบัติธรรมแล้ว
กลับพบว่า เราเป็นชาวคริสต์ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีก)
อีกประเด็นที่ชอบคือ Beautiful Christian
เป็นคำที่ท่านติชใช้กล่าวถึงชาวคริสต์
และเราก็เห็นด้วยตามนั้นจริงๆ รู้สึกว่าจิตใจคริสเตียนสวยงาม แต่จิตใจชาวพุทธออกแนวสงบ
และคำถามคือเรามีมากกว่า 1 รากได้หรือไม่
หญิงชาวพุทธจะแต่งงานกับหนุ่มคริสเตียนได้หรือไม่
เราสามารถให้ทั้งคู่เรียนรู้รากของกันและกันเพื่อจะมี2รากที่แข็งแรงได้หรือไม่
เรารู้ว่าคนไร้รากจะเจอความทุกข์มหาศาล
แล้วถ้าเกิดเราจะมีมากกว่า 1 รากหล่ะ
ท่านติชบอกว่าก่อนจะเจอคริสเตียน
รากของท่านคือพระพุทธเจ้า
แต่พอได้พบกับBeautiful Christian แล้ว
พระเยซูก็มาเป็นSpiritual Ancestorอีกอัน
โดยไม่รู้สึกถึงความขัดแย้งใดๆในตัวเอง
และกลับรู้สึกแข็งแรงมากขึ้นเพราะมีมากกว่า1ราก
1
Can we encourage ppl to practice both traditions and enrich each other?
อีกประเด็นที่น่าสนใจ
Dialogue: The Key to Peace
เมื่อเราได้คุยกับคนที่มีSpiritual tradition(ไม่ว่าจะคริสต์หรือพุทธ)
เราไม่เพียงสัมผัสได้ถึงTraditionของเขา แต่กลับรู้จักของตัวเองด้วย
ไม่ว่าเค้าจะเดิน นั่ง ยิ้ม หรือพูด เราจะสัมผัสได้ถึงการสำแดงBuddha หรือ Godในตัวเค้า
2
(นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเราควรไปวัดไปโบสถ์หรือมีโอกาสได้สนทนากับคนที่ปฏิบัติ เพราะเราจะได้สัมผัสและรับพลังอะไรบางอย่างเพื่อให้การปฏิบัติของเราก้าวหน้าต่อไป)
(เวลาเราคุยกับคนที่ไม่ปฏิบัติ เราจะรู้สึกเฉยๆ แต่ถ้าได้คุยกับคนที่ปฏิบัติ จะรู้สึกว่าเค้ามีพลังดึงดูดบางอย่าง)
เรื่องสุดท้าย ที่อาจจะลึกซึ้งมาก
แต่ก็ทึ่งที่ท่านติชพูดถึงประเด็นนี้
For genuine awakening to be possible, we must let go of notions and concepts about nirvana, and about God.
(เพื่อจะเข้าถึงนิพพาน เราต้องเลิกยึดติดการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงนิพพาน เพราะถ้าเรายึดในหลักการ คำสอน เราก็เป็นเพียงคนที่ยึดติดและไม่สามารถบรรลุได้จริง ทางคริสต์ก็เช่นกัน)
1
อ่านจบแล้วก็ทึ่งที่เล่มนี้เขียนเมื่อ20ปีที่แล้ว
แต่ความรู้สึกเข้าใจมันช่างสดใหม่ และอกาลิโก
ยังคงค้นหาเส้นทางอันเป็นที่สุดของชีวิตนี้ต่อไป
#LivingBuddhaLivingChrist
5 บันทึก
20
16
3
5
20
16
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย