19 ต.ค. 2019 เวลา 03:06 • บันเทิง
'ยุค 5G'
หลังจากที่ผมส่งกลุ่มผู้โดยสารจีนที่ห้างสรรพสินค้า ดิไอคอนสยาม ความจริงผมก็ได้ใช้เวลาบนรถคุยกับเค้าหลายๆเรื่องเลยนะครับ ถ้าผมมีเวลาเขียน ผมจะใช้ชื่อบทความว่า
'ประเทศจีนมีแนวคิดที่มั่นคงด้วยตนเอง' ให้อ่านกันครับ
บทความนี้ผมขอเล่าเรื่องราวของ เซลล์หนุ่มวัย 31 ปี ที่เป็นช่างเทคนิคด้านสัญญาณอินเตอร์เน็ต ที่เราๆ ท่านๆ ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันนั่นเอง
น้องคนนี้มีแรงบันดาลใจที่มาทำงานด้านนี้เกี่ยวกับการดูแลระบบการส่งสัญญาณให้เสถียร เพื่อให้ทุกๆคนไม่สะดุดกับการสื่อสาร ไว้ผมจะบอกให้ฟังว่า อะไรเป็นแรงบันดาลใจของน้องเค้า
เข้าเรื่องเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลาอ่าน...
หลังจากขึ้นรถเรียบร้อย ซึ่งผมสังเกตุเห็นน้องเค้าอุ้มกล่องกระดาษใบใหญ่ขึ้นรถ จากประสบการณ์ที่ผมเคยทำตู้เกมส์ คลุกคลีกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์มาบ้าง ผมเดาเลยว่าตัวนี้น่าจะเป็นอุปกรณ์ไอที ผมเอ่ยว่า
"มันเป็นอะไรครับ"
"เป็นเราเตอร์ครับพี่" น้องตอบ
"ราคาแพงมั๊ยเนี่ย?" ในใจผมคิดว่า...เคยเห็นแต่เราเตอร์ตามบ้านเท่านั้น ซึ่งราคาตัวละไม่เกิน 1500 บาท คิดพร้อมๆกับถามน้องเค้าไป
"ตัวนี้เกือบ ล้านครับ" น้องตอบมา...
"มันทำหน้าที่อะไรครับ?" ผมถามต่อ
"มันทำหน้าที่กระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้กับคนทั้งจังหวัดครับ หนึ่งตัวกระจายได้ทั้งจังหวัด" น้องเค้าตอบ
คืออย่างนี้ครับน้องเค้าเป็นช่างเทคนิคแล้วมาดูแลความเรียบร้อยให้กับองค์กรธุรกิจที่ให้บริการสัญญาณอินเตอร์เน็ตตามบ้านอ่ะครับ
ประเทศไทยก็มีไม่กี่บริษัทหรอกครับ
"น้องได้อะไรจากสิ่งที่น้องทำอยู่ครับ?" ผมยิงคำถามต่อ
"ผมเห็นคนติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกสบายผมก็มีความสุขครับ พี่เคยเป็นมั๊ยครับ สัญญาณอินเทอร์เน็ตใช้ไม่ได้สักหนึ่งวัน พี่คงน่าจะ 'หัวร้อน' แน่นอน" น้องกล่าวให้ผมฟัง
"มันเกิดจากความทรงจำอะไรครับที่ทำให้เกิด
'แรงบันดาลใจ' ที่จะมารับผิดชอบงานด้านนี้" ผมถามต่อ
"ช่วงนั้นสัญญาณมือถือเป็นแบบ EDGE ย่อจาก Enhanced Data rates for Global Evolution
ให้เข้าใจง่ายๆก็คือ 3G ตอนนั้นผมไปต่างประเทศ ผมใช้โทรศัพท์โนเกีย วีดีโอคอลมาที่เมืองไทย มันเห็นหน้านะครับ แต่มันขาดๆหายๆ ผมมีความสุขมากๆเลย และมันทำให้เกิดรู้สึกอยากให้คนอื่นๆได้รับความสุขแบบนี้บ้าง" น้องตอบผม
ผมสังเกตุเสียงและท่าทางตื่นเต้นมากที่น้องเค้าได้เล่าถึงเรื่องตนเองผมเสริมเลย "เล่าต่อๆ"
"ผมทำงานหนักมากนะพี่ ด้วยความที่เทคโนโลยีมาจากเมืองนอก และเอกสารก็เป็นภาษาอังกฤษ ผมศึกษาด้วยตนเองทั้งหมด เวลามันเกิดอาการเสียต่างๆ เบื้องต้นผมจะเปิดตำรา ก่อน ถ้ามันจนปัญญาจริงๆผมจะอีเมล์หาช่างเทคนิคต้นทางที่ต่างประเทศ" เป็นฉากๆเลยทีนี้
"ผมเริ่มแปลตำราจากอังกฤษเพื่อเป็นไทยกะว่าจะทิ้งไว้ให้คนรุ่นหลังไม่ต้องเสียเวลาคลำทางแบบผมครับ" น้องเสริมเนื้อหามาอีก
"สุดยอดเลยครับน้องทำเพื่อคนอื่นมันมีความสุขนะ" ผมเอ่ย
"น้องคิดอย่างไรกับ 5G พี่ว่าพี่ถามถูกคนแล้วหล่ะ?" ผมอยากทราบความคิดอ่าน
"5G เป็นระบบสัญญาณที่มีความเสถียรสูงมาก ค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ สิบห้าส่วนในหนึ่งพันของ1 วินาที ขยายความดังนี้
เอาหนึ่งวินาทีแบ่งออกเป็นหนึ่งพันส่วน การล่าช้าของสัญญาณ5G จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้แค่ 15ส่วนใน1000 นั่นเอง" น้องตอบ
"ที่พี่เห็นดารามาใส่แว่นแล้วนั่งขับรถอยู่ที่กรุงเทพแล้วรถขยับที่หาดใหญ่ มันทำได้จริงใช่ไหมครับ" ผมถามต่อ
"ใช่ครับพี่มันทำได้จริงๆ" น้องตอบ
"แล้วมันสามารถสร้างประโยชน์อะไรได้อีกไหมน้องลองเปรยให้พี่ฟังทีครับ" ผมตั้งคำถามลึกไปอีก
"สามารถใช้กับวงการแพทย์ได้ครับ" น้องตอบ
"น้องคิดว่าประเทศไทยจะใช้สักกี่ปีถึงจะเต็มระบบ?" ผมถาม
"ผมคิดว่า 5 ปีครับพี่" น้องตอบ
ผมครุ่นคิดอยู่นานก่อนจะพูดกับน้องเค้า ผมว่าจำเป็นมากที่ต้องแชร์ไอเดียนี้ให้น้องคนนี้ เพราะน้องเค้าตรงสายงานสุดๆ
"น้องช่วยฟังแนวคิดพี่ดีๆนะครับ ช่วงห้าปีที่กำลังจะมาถึง ถ้าน้องศึกษาถึงวิธีการทำงานของวงการแพทย์แล้วนำการสื่อสาร 5 G มาช่วยในวงการแพทย์ เช่น
📌การตรวจอาการเบื้องต้นของผู้ป่วย โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล อาจจะมีส่วนกลางของอำเภอแต่ละเขตแล้วเชื่อมกับแพทย์ที่รอตรวจรักษา สั่งจ่ายยาผ่านใบนำไปเบิกที่หน่วยงานรัฐ
📌การผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางที่ใช้เครื่องมือผ่านการสื่อสาร5G
เพราะพี่รับคนป่วยไปโรงพยาบาลหลายแหล่งแล้ว แต่ละที่ผ่านไปก็หนาแน่นไปด้วยคนป่วย"
น้องเค้านิ่งไปสักพัก ได้แต่พยักหน้า
"รองดูครับ หรือน้องอาจจะศึกษาทางนี้ให้เชี่ยวชาญแล้วเขียนแผนการทำงานไปเสนอโรงพยาบาลเอกชน ถึงตอนนั้น เค้าอาจจะรับน้องเป็นที่ปรึกษาโครงการเลยก็ได้
เรื่องเงินไม่ต้องไปคิดถึง เอาว่าน้องได้มีส่วนทำให้คนไทยได้รับการรักษาพยาบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ถึงเวลานั้น เงินทอง ความสำเร็จจะน้อยกว่าความภูมิใจในการช่วยชีวิตมนุษย์ด้วยกัน" ผมเสริมอีกครั้ง
เดินทางมาถึงจุดหมายพอดี น้องเค้ายกมือไหว้สำหรับหนังสือที่ผมมอบให้ พร้อมกับบอกว่า
"ขอบคุณมากสำหรับเรื่องราวที่แชร์ให้ผมฟังครับ"
"ขอให้น้องประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานต่อไปครับ" ผมเอ่ยพร้อมกับรับไหว้
ท้ายที่สุดแล้ว การช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้มีความสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นการสื่อสาร หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ชีวิตมนุษย์มีความปลอดภัย ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความมั่งคั่งให้เราได้และมอบความสุขให้เราได้อีกเช่นกัน
เรื่องเล่าหลังพวงมาลัย
โฆษณา