19 ต.ค. 2019 เวลา 03:50 • ปรัชญา
ทำอย่างไรให้มีความสุขเหมือน ‘กะทิ’
หากใครเคยอ่านหรือดูภาพยนตร์ “ความสุขของกะทิ” เชื่อว่าจะซาบซึ้งในเนื้อเรื่องไม่มากก็น้อย เป็นเรื่องราวของเด็กตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่แสนจะธรรมดา การเล่าเรื่องและฉากเรียบง่ายไม่มีความซับซ้อน แต่กระเส่าอารมณ์ภายในจิตใจโดยแท้จริง
ส่วนท้ายของเรื่องกินใจเข้าไปถึงที่สุด กะทิทำหน้าที่คล้ายกระจกเงาสะท้อนความทุกข์/ความสุขของเราได้เป็นอย่างดี หากเราตั้งคำถามกับชีวิตว่าความสุขในปัจจุบันคืออะไร ตัวละครเด็กหญิงกะทิก็คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
หลายครั้งที่เราหยิบเอาความคิดมาถือไว้จนหนักอึ้ง ราวกับว่าจะไม่สามารถเดินต่อไปได้อีก ความคิดอาจห้ามกันไม่ได้ก็คงจริงแท้ แต่เด็กหญิงกะทิทำให้คิดได้ว่า ในช่วงเวลาที่จิตใจจมดิ่งหรือความหมองหม่น ปล่อยวางมันไว้ชั่วคราว เรายังมีความสุขอื่นซึ่งหาได้ไม่ไกลตัว
ขอยกบทหนึ่งจากหนังสือที่ผู้เขียนงามพรรณ เวชชาชีวะ บรรยายเอาไว้ถึงความสุขของเด็กหญิงวัยเก้าขวบ
Photo by Leo Rivas on Unsplash
” น่าเสียดายที่ท้องฟ้ากลางกรุงเต็มไปด้วยมลภาวะ จนหมู่ดาวไม่ปรากฏให้เห็นได้อย่างที่ผู้จัดตั้งใจ แต่กะทิก็สุขใจกับการเฝ้ามองท้องฟ้า กะทิรู้สึกดีและสัญญากับตัวเองว่าจะทำบ่อยๆ
จักรวาลนี้กว้างใหญ่นัก มนุษย์ตัวจ้อยจะมีอำนาจอะไร เพียงแหงนมองฟ้าก็จะปลดศักดา และความมุ่งหวังเกินตัวให้หมดสิ้นไปได้ในบัดดล
เหลือเพียงหัวใจดวงเล็กๆ ในอกที่เต้นอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวและใฝ่หาความสุขตามอัตภาพ ไม่ต้องการสิ่งใดที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ต้องการสิ่งใดที่อยู่ไกลตัว “
โฆษณา