20 ต.ค. 2019 เวลา 03:35
🗡 เอ็ด กีน 🗡
...จากเด็กติดแม่สู่ฆาตกรโรคจิตวิปลาศ...
♥ชีวิตวัยเด็กที่มีแม่เป็นโลกทั้งใบ...
เอ็ด กีน เกิดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1906 ในครอบครัวเกษตรกร ที่เมืองลาครอสส์ เคาน์ตี้ รัฐวิสคอนซิน มีพ่อชื่อ #จอร์จ ซึ่งติดสุราอย่างหนักและเมื่อเมาก็จะอาละวาดไล่ทุบตีคนในครอบครัว ส่วนแม่ชื่อ #ออกัสตา เป็นคนที่เคร่งศาสนามากเสียจนเข้มงวดไปทุกเรื่องและมักจะดุด่าด้วยเสียงดังหากมีใครทำอะไรผิดแม้เพียงเล็กน้อย เอ็ดมีพี่ชายคนหนึ่ง ชื่อ #เฮนรี่ ด้วยความเป็นคนขี้อายและเป็นคนเก็บตัว เอ็ดจึงเติบโตอย่างโดดเดี่ยว โดยมีออกัสตาเป็นทั้งเพื่อนและครูอันเนื่องจากเค้าออกโรงเรียนกลางคัน แล้วมาเลี้ยงดูเขาอย่างผู้หญิงเพราะเธอหวังว่าเอ็ดซึ่งเป็นลูกคนที่สองจะเป็นผู้หญิง และมักพาเค้าไปดูการชำแหละซากสัตว์อยู่บ่อย ๆ โดยที่เธอมักสอนเอ็ดอยู่บ่อย ๆ ว่า #ผู้หญิงทุกคนบาปหนา (ยกเว้นแม่) และเจ้าไม่สามารถมีเพื่อนได้นอกจากแม่ และการมีเพศสัมพันธ์เป็นบาปหนา ซึ่งเอ็ดเชื่อในคำสอนนี้ และมองแม่เป็นเสมือนพระเจ้าตลอดมา
1
เอ็ดเวิร์ด กีน
♥พฤติกรรมแปลกๆและความโดดเดี่ยว...
ครูและเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่โรงเรียนประถมศึกษาของเอ็ด กีน จำได้ว่าเค้าเป็นคนขี้อาย แต่มีนิสัยแปลก ๆ เช่น บางครั้งก็หัวเราะและพูดอยู่คนเดียว ทางโรงเรียนตำหนิแม่ของเอ็ดที่ลงโทษลูกชายเมื่อเค้าพยายามเข้าสังคมกับเพื่อนๆ ด้วยเหตุนี้ในวัยเด็กของเค้าจึงค่อนข้างโดดเดี่ยว
นอกเหนือจากการห้ามสุงสิงกับคนอื่นแล้วเธอก็ให้เอ็ดและเฮนรี่อยู่แต่ฟาร์ม โดยมักจะอ่านคัมภีร์ไบเบิลให้ฟังและสั่งสอนว่าโลกนี้มันเลวร้ายนัก ผู้หญิงทุกคนเป็นโสเภณี การดื่มและการผิดศีลธรรมเป็นเครื่องมือของมารร้ายที่ใช้ทำลายมนุษย์
เอ็ด ในวัยเด็ก
♥การฆาตกรรมครั้งแรก...??
จนกระทั่ง จอร์จ พ่อของเอ็ดเสียชีวิตลงขณะเอ็ดมีอายุยี่สิบกว่าๆ กิจการทั้งหมดทั้งสามคนจึงเป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้เอ็ดและพี่ชายจะเข้าสู่วัยหนุ่ม แต่เค้าก็ยังเป็นโสดผิดจากวัยรุ่นชายทั่วไป เนื่องจากเค้ายังจดจำคำสั่งสอนของแม่ไว้ขึ้นใจ
เมื่อเอ็ดอายุ 40 กิจการฟาร์มของเค้าอยู่ช่วงวิกฤต ผลผลิตภายในฟาร์มไม่ดีทำให้ขาดทุนมากมาย ทำให้พี่ชายของเอ็ดต้องทำงานอื่นเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และช่วงนี้พี่ชายเขามักปากกล้าโต้เถียงแม่เป็นประจำ แต่เอ็ดก็ยังเข้าข้างแม่แม้ว่าเรื่องที่เถียงกันแม่จะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม
2
ต่อมาในวันหนึ่งเค้าและเฮนรี่กำลังทำงานอยู่ในแปลงข้าวโพดของพวกเค้า โดยกำลังช่วยกันเผาวัชพืชบริเวณหนองแต่แล้วก็เกิดไฟไหม้ขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาถึงก็ลงมือดับไฟพอเพลิงสงยเอ็ดก็ได้แจ้งว่า พี่ชายของเค้าหายตัวไป...
1
คืนนั้นเองก็พบศพของเฮนรี่นอนคว่ำหน้าลงในบึงโดยในตอนแรกคาดว่าเสียชีวิตจากการสำลักควันไฟ แต่ต่อมาจากการตรวจศพพบว่าว่า เฮนรี่เสียชีวิตก่อนที่ไฟจะไหม้โดยพบร่องรอยฟกช้ำและถูกทุบที่ศีรษะ
เจ้าหน้าที่สงสัยว่าเอ็ดอาจจะฆ่าพี่ชายของตัวเอง แต่ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ เจ้าหน้าที่จึงลงบันทึกว่าเฮนรี่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไฟไหม้
และในปีถัดมาออกัสตาแม่ของเค้าก็ล้มป่วยเป็นอัมพาตและเสียชีวิตไปอีกคน...
ออกัสตา คุณแม่ผู้เคร่งศาสนาและเข้มงวด
♥เริ่มหลงใหลในสรีระของเพศหญิง...
ปัญหาต่างๆ ทั้งเรื่องฟาร์มและปัญหาครอบครัวล้วนมีส่วนให้เอ็ดเปลี่ยนแปลงไป จนกระทั่งเค้าเข้าสู่วัย 51 ปี เอ็ด กีน ชายผู้สุภาพอ่อนโยนและรักความสันโดษ แต่สำหรับเพื่อนบ้านแล้วเค้าดูเป็นคนน่ารังเกียจ เป็นคนผิดปกติที่มักจะแสดงกิริยากระตุ้งกระติ้งเหมือนผู้หญิง จึงไม่ค่อยมีใครสุงสิงหรือคบหาเท่าใดนัก
เมื่อปราศจากแม่เค้าก็เป็นอิสระ แต่ในขณะเดียวกันเค้าก็ต้องการให้แม่กลับคืนมา เอ็ดเริ่มสนใจร่างกายของเพศหญิงที่เค้าไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มันเป็นความสนใจที่แปลกประหลาด สับสน แยกไม่ออกว่ามันเป็นความต้องการการทางเพศหรือความต้องการจะมีเรือนร่างของผู้หญิงกันแน่ เค้าหาหนังสือที่เกี่ยวกับเรือนร่างของผู้หญิงมาอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับการแพทย์, สารานุกรม หรือแม้กระทั่งการทดลองของนาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้กระตุ้นความปรารถนาในจิตใจให้เพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นเขาปิดตายห้องต่าง ๆ ในบ้านตัวเอง ยกเว้น ห้องครัวและห้องนอนที่อยู่ชั้นล่างเท่านั้น
1
บ้านของครอบครัวกีน
♥เหยื่อฆาตกรรมรายแรก...
3
ไม่มีใครรู้ว่าแท้จริงแล้ว เอ็ด กีน สังหารเหยื่อไปแล้วกี่ราย แต่จากสืบสวนอย่างเป็นทางการของตำรวจระบุว่า เค้าสังหารเหยื่อไปเพียง 2 รายเท่านั้น รายแรกเป็นผู้หญิง ชื่อ มารี โฮแกน วัย 55 ปี เมื่อปี ค.ศ. 1954 เธอเป็นหญิงหม้ายเจ้าของร้านอาหารและบาร์เล็กๆ ชื่อ โฮแกน ทราเวิร์น ที่หมู่บ้านไพน์ โกรฟ ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธออยู่กับเอ็ดตามลำพัง
จนกระทั่งมีลูกค้าคนหนึ่งเข้าไปที่นั้นก็ไม่พบคนขาย แต่เห็นเลือดกองใหญ่บนพื้นที่ประตูด้านหลังร้าน กับกระสุนปืนพกขนาด .32 ปลอกหนึ่ง และรอยเลือดปรากฏเป็นระยะ ๆ ไปจนถึงที่จอดรถและก็หายไป ซึ่งเข้าใจว่ามารีคงถูกนำไปขึ้นรถจากที่ตรงนั้น ตำรวจไม่สามารถหาตัวเธอได้แม้จะผ่านหลายปีแล้ว จนกระทั่ง เอลโม เจ้าของโรงเลื่อยให้การกับตำรวจภายหลังว่า เขาเคยคุยกับเอ็ดเรื่องการหายตัวของมารี เอ็ดตอบเขาว่าเธออยู่ที่ฟาร์มของเขานั้นแหละ ไม่ได้หายไปไหน ตอนนั้นเอลโมคิดว่าเอ็ดพูดเล่น จึงไม่ใส่ใจและถามอะไรเพิ่มเติม
หลังการเสียชีวิตของแม่ เค้าก็ไม่ใส่ใจดูแลบ้าน
♥เหยื่อรายต่อมา...
เบอร์นิซ วอร์เดน หญิงหม้ายวัย 60 ปี เจ้าของร้านขายอุปกรณ์ในเมืองเพลนฟิลด์ วันเกิดเหตุเป็นคืนวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1957 เอ็ดเข้ามาร้านในตอนที่ไม่มีคนอยู่เช่นเคย เค้าใช้กระสุนขนาด .22 ที่นำมาเอง ใส่เข้าไปในปืนไรเฟิลแล้วยิงเธอโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้นก็นำร่างของเธอขึ้นรถบรรทุกส่งของแล้วขับกลับบ้าน
ในเวลาต่อมา แฟรงค์ ลูกชายของเบอร์นิซ กลับจากการล่าสัตว์ เขาก็พบว่าประตูร้านของแม่เขาล็อกเอาไว้ แต่มีไฟเปิดอยู่ด้านใน ซึ่งผิดปกติ เพราะเป็นเวลาที่ร้านควรปิดได้แล้ว เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในก็พบเครื่องคิดเงินหายไป กับมีหยดเลือดกระจายอยู่บนพื้น แฟรงค์รีบแจ้งตำรวจทันที จากการสอบปากคำของคนในที่พื้นใกล้เคียง มีผู้พบเห็นรถส่งของของร้านแล่นผ่านไป เมื่อเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง
2
จนกระทั่งแฟรงค์และตำรวจพบหลักฐานชิ้นสำคัญ คือใบเสร็จรับเงินที่ระบุได้ว่าร้านของเขาขายของให้ใครบ้าง สิ่งที่พบ คือ ชายที่เป็นลูกค้าประจำที่ถามแฟรงค์ว่าพรุ่งนี้เช้าเขาอยู่หรือเปล่า ซึ่งชายคนนั้นก็คือ เอ็ด กีน
ต่อมา ทั้งแฟรงก์และตำรวจได้บุกเข้าไปยังบ้านของเอ็ด กีน ซึ่งมีสภาพซ่อมซ่อและน่ากลัว ซึ่งเด็ก ๆ ในละแวกนั้นเรียกขานกันว่าเป็น #บ้านผีสิง# และเมื่อเปิดเข้าไปพวกเขาก็ต้องผงะ เมื่อเจอกับกลิ่นเหม็นที่ตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่ว และได้พบกับซากศพและชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมาก มีทั้งที่แขวนห้อยอยู่และตัดเป็นชิ้น ๆ ทำคล้ายเหมือนเครื่องประดับ
ผลงานจากชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบภายในบ้านเค้า
♥ยังคงเป็นปริศนาว่าเค้ากินเนื้อของเหยื่อหรือไม่...
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้จับกุมเอ็ด กีน แล้ว จากปากคำที่เขาสารภาพ ว่ากันว่า ในคืนพระจันทร์เต็มดวง เขาจะสวมชุดผู้หญิงออกมาเต้นระบำท่ามกลางแสงจันทร์ โดยมีอวัยวะเพศหญิงยัดใส่ไว้ในกางเกงในของเขา
...#แต่เอ็ดปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้กินเนื้อมนุษย์...
แต่จากการสอบถามเพื่อนบ้าน หลายคนบอกว่าเคยได้รับเนื้อเป็นของขวัญ ซึ่งเอ็ดบอกว่าเป็นเนื้อกวางที่ล่ามาได้ทั้งๆ ที่เอ็ดเองบอกว่าไม่เคยเข้าป่าล่าสัตว์เลย
1
จากการชันสูตรพลิกศพและพิสูจน์อวัยวะทั้งหมดภายในบ้าน พบว่าจำนวนศพที่อยู่ในบ้านมีทั้งหมดถึง 50 ศพด้วยกัน และเป็นชิ้นส่วนของมนุษย์ที่ไม่เข้ากับร่างใดอีกมากมาย
เข็มขัดที่นำหัวนมเหยื่อมาเย็บติดกัน
♥ภายในบ้านเต็มไปด้วยชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์...
มีกระดูกนับไม่ถ้วนทั้งกะโหลกและส่วนกะโหลกติดอยู่บนเสาเตียงของเขาและชามและเครื่องครัวที่ทำจากกะโหลก อย่างไรก็ตามสิ่งที่แย่กว่ากระดูกคือสิ่งของในครัวเรือนที่ทำจากผิวหนังมนุษย์ !!! อาทิเช่น
1
▪เก้าอี้หุ้มผิวหนังของมนุษย์
▪ตะกร้าขยะที่ทำจากผิวหนัง
▪ถุงน่องที่ทำจากผิวหนังขามนุษย์
▪หน้ากากที่ทำจากใบหน้าของมนุษย์
▪เข็มขัดที่ทำจากหัวนม
▪ริมฝีปากคู่หนึ่งที่ถูกใช้เป็นเชือกคล้องหน้าต่าง ▪สร้อยคอที่ทำมาจากลิ้นของเหยื่อ
นอกเหนือจากรายการทางผิวหนังแล้วตำรวจพบชิ้นส่วนร่างกายต่างๆ เช่น เล็บ, จมูก 4 ชิ้น และอวัยวะเพศของผู้หญิง 9 ชิ้น
เก้าอี้บุหนังมนุษย์
♥พบร่างของเหยื่อที่ถูกชำแหละ...
เจ้าหน้าที่พบศพของ เบอร์นิซ วอร์เด็น โดยศีรษะของเธอถูกแขวนไว้ในกระสอบผ้าใบและหัวใจของเธอถูกแขวนอยู่ในถุงพลาสติกใกล้เตา ร่างของเธอถูกชำแหละและแขวนไว้กับตะขอที่ห้อยจากเพดานห้อง
นอกจากนี้ตำรวจยังพบซากของผู้หญิงอีกคนคือ แมรี่ โฮแกน ซึ่งถูกชำแหละชิ้นส่วนเช่นเดียวกัน
เมื่อสอบถามเอ็ด กีน เกี่ยวกับชิ้นส่วนมนุษย์จำนวนมากที่พบภายในบ้าน เค้าก็ได้สารภาพว่า ตัวเองได้ไปที่สุสานอย่างน้อย 40 ครั้งเพื่อขุดศพขึ้นมา โดยอ้างว่าที่ทำลงไปนั้นเค้าอยู่ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว
เจ้าหน้าที่พบร่างเหยื่อรายหนึ่งถูกแขวนไว้เพื่อทำการชำแหละ
♥แรงจูงใจ...
เอ็ด กีน ได้บอกเจ้าหน้าที่ว่าไม่นานหลังจากที่แม่เสียชีวิตเค้าก็เริ่มเย็บ #ชุดสูทผู้หญิง เพื่อที่เค้าจะได้รู้สึกว่าอยู่ใกล้กับแม่ ภายใต้การสวมชุดสูทที่ทำมาจากหนังมนุษย์
♥พบว่าป่วยเป็นจิตเภท/ถูกจองจำ/และเสียชีวิต...
แม้จะพบศพเป็นจำนวนมากมายในบ้านของเค้า แต่ตำรวจตั้งข้อหาฆ่าคนตายแค่สองศพแก่ เอ็ด กีน คือ มารี โฮแกน และ เบอร์นิซ วอร์เดน ซึ่งทั้งสองมีหน้าตาคล้าย ออกัสตา แม่ของเอ็ด กีน และเจ้าหน้าที่ตำรวจยังสงสัยว่าเค้าอาจเป็นคนสังหารพี่ชายของตัวเองและคนงานอีกสองคนที่ทำงานที่ฟาร์ม และเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวสองคน แต่ก็ไม่พบหลักฐานมัดตัวเขาได้
3
เอ็ด กีน ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลจิตเวท ชื่อ เซ็นทรัล สเตท หลังจากแพทย์วินิจฉัยแล้ว พบว่าเขาเป็นคนผิดปกติทางจิตอย่างรุนแรง และต่อมาถูกย้ายไปรักษาตัวที่สถาบันวิจัยและดูแลคนป่วยทางจิตเมนโดด้า ทั้งที่เค้าก่อคดีฆาตกรรมที่โหดเหี้ยมและน่ากลัวอย่างที่ไม่มีใครทำมาก่อน แต่คำให้การของคนที่ดูแลเค้ากลับบอกว่า เอ็ดเป็นคนเรียบร้อย สุภาพ ไม่ก้าวร้าวกับคนอื่น แต่เค้ามักพูดถึงความสุขที่ได้ฆ่าเหยื่อบ่อยๆ ซึ่งในระหว่างที่เค้าถูกจองจำอยู่นั้น บ้านของเค้าก็เกิดไฟไหม้
ต่อมาศาลได้ตัดสินคดีของเค้า ซึ่งผลคือ เอ็ด ผิดจริง แต่ทำไปเพราะอาการป่วยทางจิตอย่างรุนแรง #เพราะเป็นบ้า ดังนั้นเขาจึงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมนโดด้าจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต เอ็ด กีน เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ด้วยวัย 77 ปี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1984
1
ภาพถ่ายก่อนหน้าที่จะเสียชีวิตไม่นานค่ะ
🙏ขอบคุณที่มาจาก :
-------------🗡🗡🗡🗡🗡🗡🗡-------------
❤#แอดมิ้นท์#❤
#เรื่องสยองขวัญกับคดีฆาตกรรม#
ปล.เค้าเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างหนังหลายๆ เรื่องเลยค่ะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา