20 ต.ค. 2019 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
ยิ่งแก่ขึ้น จะยิ่งสร้างความแตกต่าง
ให้มีพื้นที่ยืนในหน้าที่การงานได้อย่างไร
ในโลกที่หมุนเร็วจี๋ ความรู้เก่าเร็วขนาดนี้
ช่วงนี้เราและเพื่อนๆหลายคนเม้าท์กันว่า
ทำไมรู้สึกตัวเองแก่ขึ้นเร็วมากทั้งๆที่อายุแค่ 30 กว่ารู้สึกได้ว่าเหนื่อยเร็วก่อนจะใช้ร่างหมดวันเสียอีก นอนหลับตื่นมาก็ยังรู้สึกไม่หายเหนื่อย
และเพื่อนหลายท่านก็มีโรคเจ็บป่วยถามหาเร็วขึ้น
สมองเราล้า คิดช้าลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่ยังไม่ 50 ด้วยซ้ำ
แล้วเราก็มาเริ่มตระหนักว่า ต่อไปความสามารถเราจะถดถอยลงเรื่อยๆ
แล้วเราจะมีค่าอะไรถ้าเราอายุมากขึ้น
ใครจะสนใจจ้างงานเรา
ถ้าถึงวันนึงเราจะได้ขึ้นตำแหน่งเป็นผู้บริหารสูงขึ้น
เราจะมีความสามารถอะไรในการเป็นผู้บริหาร ในวันที่เราเริ่มแพ้เด็กรุ่นใหม่
อะไรคือสิ่งที่เราควรพัฒนาในวันนี้เพื่อให้เราเป็น CEO อย่างมีคุณภาพ
อะไรที่เรามี แต่เด็กรุ่นใหม่ยังไม่มี
จนมาถึงจุดหนึ่งก็คิดได้ว่า
สิ่งหนึ่งที่จะทำให้ Senior แตกต่างจาก Junior ก็คือ Wisdom หรือปัญญา ในการมองเห็นสิ่งต่างๆอย่างทะลุปรุโปร่งและบริหารจัดการได้อย่างชาญฉลาด
(ตอนแรกเราก็คิดว่ามันคือ Vision หรือ วิสัยทัศน์ รึเป่านะ
แต่เอาจริงๆเราก็ได้ยินข่าวว่า วิสัยทัศน์ของCEO
หรือความสามารถในการมองเห็นอนาคตในยุคนี้
มันพ่ายแพ้ต่อความผันผวนของโลกไปแล้ว)
(เราเลยคิดว่า มันน่าจะเป็น Wisdom)
Wisdom เกิดจากอะไร
ในการทำงาน เรามองว่า Wisdom เกิดจากการที่เราผ่านประสบการณ์ในการทำอะไรบางอย่างซ้ำๆจนถึงจุดหนึ่ง มันก็ โพละ บรรลุขึ้นมา มองเห็นทุกอย่างด้วยดวงตาที่สามว่า สิ่งนี้จะต้องจัดการอย่างไร จนเกิดเป็นภูมิปัญญาใหม่ในตัวเองขึ้นมา
ซึ่ง Wisdom จะเกิดจากExperience ที่ทำซ้ำๆ
จนมีคำว่า Business Wisdom ที่หมายถึง
คนที่ทำธุรกิจจนเกิดปัญญาในเกมส์ธุรกิจแบบอ่านขาดว่าจะต้องทำธุรกิจอย่างไร ซึ่งคนทำธุรกิจวันแรกจะยังไม่มี Wisdom นี้
หากแต่ทำไปจนถึงจุดนึง Business Wisdom จะเกิดเอง
ในทางปฏิบัติธรรม Wisdom ก็เกิดจาก"การปฏิบัติ" ซ้ำๆเช่นกัน จนมองเห็นและเข้าใจแบบบรรลุขึ้นมา
และเมื่อเราอายุเยอะขึ้น เราก็ควรมี Wisdom ให้หลากหลาย
ทั้งการทำธุรกิจ การบริหารคน การบริหารจิตใจตัวเอง ฯลฯ
แต่เราจะมี Wisdom ที่หลากหลายได้
เป็นคนแก่ที่มีคุณภาพได้
มองเห็นทุกๆอย่าง ทุกๆมุมได้
ก็ต้องผ่าน experience ให้หลากหลายเช่นกัน
นั่นหมายความว่าในช่วงเวลาที่เรายังมีแรง ร่างกายยังไม่เสื่อมถอยมากนัก
เราควรจะเปิดโอกาสให้ตัวเองมี Experience ที่หลากหลาย
ทำหลายๆงาน หลายๆด้าน ให้นานมากพอ จนเกิด Wisdom ในแต่ละสิ่ง
เมื่อเราทำมันลึกลงเรื่อยๆและเปลี่ยนสนามไปเรื่อยๆ(หลังจากที่เราได้ Wisdom จากที่เดิมมากพอแล้ว อย่ารีบเปลี่ยนก่อนจะเกิดWisdom)
จนเรามี Wisdom ในหลายสนามมากพอควร
เราจะสามารถเป็น CEO ที่มี Wisdom ที่จะบริหารองค์กรลักษณะไหนก็ได้
ถึงจุดนั้น เราจะไม่ต้องกังวลว่า เราจะเอาปัญญาที่ไหนไปคิดทางออกในธุรกิจในแต่ละอย่างได้
เพราะฉะนั้นบทสรุปก็คือ
วันนี้ ตอนที่เรายังมีแรง
เราควรที่จะเปิดโอกาสให้เรามีexperienceจากการทำงานให้หลากหลาย
เพื่อสร้าง Wisdom ระดับลึกในแต่ละสนามให้ลึกและกว้างมากที่สุด
นั่นหมายความว่าคนยุคนี้ควรทำงานให้หลากหลายมิติ
เช่น คุณอาจจะค้าขายออนไลน์+ทำการเกษตร+เป็นโปรแกรมเมอร์+เป็นครูสอนหนังสือ(coach) + ทำธุรกิจเพื่อสังคม ในเวลาเดียวกัน
ซึ่งเราเชื่อว่าตอนนี้ก็มีหลายคนทำได้แบบนั้น
เราก็เป็นคนนึงที่ทำเช่นนั้นเหมือนกัน
และทุกๆงานก็ทำให้เราเกิด Wisdom มากขึ้นๆ
อย่างเช่น Post ที่แล้วที่พูดถึง Landscape ก็เช่นกัน
(เอาจริงๆเด็กรุ่นใหม่ทำงานหลากหลายแบบนี้กันมากขึ้น
สร้างBusiness Wisdomตั้งแต่อายุน้อยๆกันมากมาย)
อยากจะทราบเหมือนกันว่าผู้ใหญ่แต่ละท่านที่กำลังผ่านช่วงชีวิตแบบนี้
มีความเห็นอย่างไรกันบ้าง
(เพื่อให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ)
อยากฟังความเห็นของพวกพี่ๆ แบ่งปันให้เด็กรุ่นน้องๆอย่างพวกเราด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับคนที่อ่านบทความนี้ในค่ำวันนี้
หวังว่าจะมีประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ในการวางแผนประสบการณ์ตัวเองในอนาคต ที่มีมากกว่าแค่เสียเงินซื้อประสบการณ์เที่ยวต่างประเทศไปเรื่อย
ขอบคุณภาพประกอบ: แฟนเราเองค่า
โฆษณา