21 ต.ค. 2019 เวลา 12:38 • บันเทิง
Movietalk คอหนังนั่งเล่า
I’ll be Back Terminator
ย้อนเวลา...ล่าอดีตคนเหล็ก EP.1:
กว่าจะเป็นคนเหล็ก
ย้อนกลับไปเมื่อ 25 ปีก่อน ในปี 1994 คงไม่มีใครคาดคิดว่าหนังฟอร์มเล็กที่ว่าด้วยเรื่องราวย้อนเวลากลับมาไล่ล่าผู้หญิงคนหนึ่งของหุ่นยนต์สังหาร มันจะกลายเป็นหนังฮิตถล่มทลายจนกลายเป็นหนังภาคต่ออันทรงคุณค่า ส่งผลให้ชื่อผู้กำกับ
โนเนม กลายเป็น ขาใหญ่ในตำนานนาม ‘เจมส์ แคเมรอน’ ที่สำคัญกว่านั้น
นักแสดงชายชื่ออ่านยาก ‘อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์’ กลายเป็นนักแสดงชายที่
ค่าตัวสูงสุดในโลกภาพยนตร์ในเวลาต่อมา ทั้งหมดนี้คือความสำเร็จจนกลายเป็นตำนานของภาพยนตร์ที่เรื่อง “The Terminator”
เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของ Terminator ดั้งเดิมที่ เจมส์ แคเมรอน กลับมาสานต่อไว้ และเป็นฉลองครบรอบ 25 ปี (1994-2019) Movietalk จะพาผู้อ่านเจาะเวลากลับไปสู่ตำนานคนเหล็ก นั่งเฉย ๆ ไม่ต้องถอดเสื้อผ้าออกเหมือนในหนังคนเหล็กนะ สูดลมหายใจ แล้ววาร์ป....!
ไอเดียเริ่มต้นที่ว่า มนุษย์ชอบทำตัวเองไปสู่วันล้างโลก เจมส์ แคเมรอนที่กำลังเขียนโครงเรื่องหลักTerminator ในปี 1982 ภาพหุ่นสังหารร่างกายเหล็ก ทำสงครามกับมนุษย์ มันถูกพัฒนาจนกลายเป็นบทหนัง The Terminator ในเวลาต่อมา
จากฝันร้ายในช่วงตกงานของ เจมส์ แคเมรอน อดีตผู้กำกับกองถ่ายสองของนิวเวิลด์พิคเจอร์ส และผู้กำกับหนังภาคต่อปลาปิรันย่าไล่งับคนใน Piranha II: The Spawning เขาฝันเห็นหัวกะโหลกโครเมี่ยมท่ามกลางเปลวเพลิง ก่อนมันจะกลายเป็นต้นแบบของหุ่นเทอร์มิเนเตอร์ ผนวกด้วยสมมติฐานที่ว่า ชะตาของโลกที่อยู่ในมือของคนธรรมดา อาชีพพื้น ๆ อย่างเช่น สาวเสิร์ฟที่วันหนึ่งเธอจะกลายเป็นแม่ของผู้นำกลุ่มกบฏที่ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่ครองโลกในอนาคต ถ้านั่นไม่มากพอ พ่อของผู้นำคือหนึ่งในกลุ่มกบฎที่ถูกส่งย้อนเวลามาพิทักษ์สาวเสิร์ฟก่อนที่จะเขาจะกลายเป็นพ่อของผู้นำ ส่วนสิ่งที่ตามมาด้วยคือหุ่นสังหารในคราบมนุษย์ที่ไม่มีวันจะทำลายได้ง่าย ๆ เหล่านี้คือหนัง The Terminator ที่เต็มไปด้วยไอเดียสุดยอด จึงไม่น่าแปลกใจที่มันกลายเป็นหนังฮิตแบบม้ามืด
เมื่อจุดขายมันอยู่ที่ ‘คนเหล็ก’ หุ่นยนต์สังหารเทอร์มิเนเตอร์ การเฟ้นหานักแสดงเพื่อรับบทนี้ จากภาพในหัวของแคเมรอนที่หมายมั่นจะให้ แลนซ์ เฮนริคเซน มารับบทนี้ แต่โอไรออน สตูดิโอผู้ออกทุนสร้างอยากได้คนมีชื่อเสียงอย่าง โอ.เจ. ซิมป์สัน ส่วนบท ไคล์ รีส เป็นของนักแสดงกล้ามโตเจ้าของดีกรีมิสเตอร์โอลิมปัส 6 สมัย และ มิสเตอร์ยูนิเวิร์ส 5 สมัย อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ ที่ในเวลานั้นผ่านงานหนังมาสองเรื่องคือ Hercules in New York และ Conan the Barbarian
1
เกือบได้เป็น หรือ โชคดีที่ไม่ได้เป็น 'คนเหล็ก'
แต่หลังทานมื้อเที่ยงร่วมกันระหว่าง แคเมรอน และ อาร์โนลด์ ที่ดีไซน์การแสดงของหุ่นสังหาร ที่ยิงปืนได้โดยไม่กระพริบตา ต้องไม่มองปืนเวลาใส่กระสุน พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ขยับศรีษะ สิ่งเหล่านี้ทำให้แคเมรอน มโนภาพคนเหล็กจากโครงหน้าของอาร์โนลด์ และยืนยันว่า ต้องอาร์โนลด์เท่านั้นที่จะสวมบทเป็นคนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์ แคเมรอนต้องกล่อมให้อาร์โนลด์เชื่อว่าเขาเหมาะสมกับบทผู้ร้ายอย่างคนเหล็กมากกว่าบทพระเอกอย่าง ไคล์ รีส
1
อาร์โนลด์ที่ขณะนั้นกำลังเริ่มสร้างชื่อจากบทพระเอกต้องเอาอนาคตของตนเองมาฝากไว้กับหนังที่เขาแสดงเป็นตัวร้ายไล่ฆ่าผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งกำกับโดยผู้กำกับสยองขวัญหนังเกรดบี ช่างเป็นความเสี่ยงอย่างใหญ่หลวงต่ออนาคตทางการแสดงโดยแท้ แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ยอมเสี่ยง ผ่านมาถึงวันนี้ 21 ปีมองย้อนกลับไปบท ‘คนเหล็ก’ กลายเป็นบทสร้างชื่อเสียงและอำนาจต่อรอง ค่าตัว20 ล้านดอลลาร์ต่อเรื่องที่สำคัญมันกลายเป็นภาพจำของคนดูที่รักจะได้เห็นอาร์โนลด์สวมแว่นดำและชุดหนัง แว๊นซ์มอเตอร์ไซด์ในบท ‘คนเหล็ก’ ถือเป็นการเดิมพันที่เปลี่ยนชีวิตของอาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ไปตลอดกาล
ตัวละครที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง ซาราห์ คอนเนอร์ นักศึกษาผู้มีอาชีพเสริมเป็นสาวเสิร์ฟ ก่อนจะดวงแตกถูกตามล่า ต้นแบบมาจากหญิงแกร่งในชีวิตของแคเมรอน นั่นคือ เชอร์ลีย์ แม่ของเขาเอง และอดีตภรรยาคนแรกของเขาที่มีอาชีพเป็นสาวเสิร์ฟ แชรอน แต่แรงบันดาลใจแท้จริงมาจากตัวละครหญิงอย่าง ริปเลย์ ใน Alien และ รอลีย์ ใน Halloween ดังนั้นในหนัง The Terminator คนดูจึงได้เห็นมุมระทึกขวัญที่หญิงสาวบอบบางโดนตามล่าด้วยคน (เหล็ก) ร้ายที่หมายจะฆ่าเธอ บทซาราห์ คอนเนอร์ เป็นของ ลินดา แฮมิลตัน แต่กว่าจะมาถึงมือของเธอ บทดังกล่าวเคยผ่านตัวเลือกอย่าง โรซานนา อาร์เคทต์ หรือ เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์ ที่ตอนนั้นจัดว่าเป็นเบอร์ต้น ๆ ของนักแสดงฝ่ายหญิงที่มีฐานคนดู
ตัวเลือกแรกในบท ซาราห์ คอนเนอร์
ตัวละครสุดท้ายคือ ไคล์ รีส ผู้พิทักษ์ข้ามเวลาที่กลับมาปกป้องซาราห์ คอนเนอร์ ก่อนที่คนดูจะพบว่าเขาคือพ่อของจอห์น คอนเนอร์ ผู้รับบทดังกล่าวคือ ไมเคิล บีห์น ซึ่งเกือบจะไม่ได้แสดงเพราะตอนที่ไปแคสติ้ง บีห์นดันติดภาพลักษณ์และสำเนียงแบบหนุ่มใต้ซึ่งไม่เข้ากับบท ทั้ง ๆ ที่บีห์นไม่ใช่คนใต้ แต่ภายหลังบีห์นไปทดสอบอีกครั้งและได้บทไคล์ รีส และเชื่อไหมว่าครั้งหนึ่งแคเมรอนเคยมีไอเดียที่จะให้นักร้องดังอย่าง สติง สวมบทเป็น ไคล์ รีส
งานเทคนิคสร้างหุ่นเทอร์มิเนเตอร์ ถูกบอกผ่านจากตัวพ่อเอฟเฟ็คในยุคนั้นอย่าง ร็อบ บอททิน และ ดิ๊ก สมิธ ซึ่งทั้งคู่ได้แนะนำให้แคเมรอนไปหา สแตน วินสตัน เรื่องหุ่นยนต์กลไกต้องคนนี้เลย และ สแตน วินสตันก็ไม่ทำให้แคเมรอนผิดหวัง ที่สำคัญงานหุ่นเทอร์มิเนเตอร์กลายเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงระดับตำนานของสแตน วินสตันจนทุกวันนี้
Special Effect
และก็เพราะหุ่นเทอร์มิเนเตอร์นี่ล่ะที่ทำให้วินสตันได้ไปต่อ วิสตันกับแคเมรอนได้ร่วมกันก่อตั้ง ‘ดิจิตอลโดเมน’ ในเวลาต่อมา ถือเป็นบริษัททางเลือกผลิตงานสเปเชียลเอฟเฟ็ค ที่ตอนนั้นเบอร์ใหญ่คือ ไอแอลเอ็ม ของ จอร์จ ลูคัส อยู่เจ้าเดียว (หนึ่งในนวตกรรมที่เปลี่ยนโลกของดิจิตอลโดเมนคือผู้นำเทคนิคแมทซ์ภาพบนจอกรีนสกรีน เข้ามาใช้งานแทนบลูสกรีนที่ใช้กันอยู่มานานแล้ว และเทคนิคซีจีที่เราเห็นกันทุกวันนี้ก็ยังทำกันบนจอกรีนสกรีนกันอยู่เลย)
ภายหลัง The terminator ออกฉายในปี 1984 หนังทำรายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในอันดับที่ 1 เก็บรายได้รวมในอเมริกา 38.3 ล้าน รายได้จากต่างประเทศอีก 50 ล้าน ในขณะที่ใช้ทุนสร้างไปแค่ 6.4 ล้านเหรียญ เจมส์ แคเมรอน กลายเป็นชื่อที่ขายได้ The Terminator กลายเป็นใบเบิกทางให้แคเมรอนได้กำกับหนังภาคต่อ Aliens ตัวละครผู้ร้ายอย่างคนเหล็กเทอร์มิเนเตอร์กลายเป็นตัวละครที่คนดูรักเทียบเท่ากับ ดาร์ธเวดอร์ จาก Star Wars
แต่ในเรื่องดีก็มีเรื่องร้ายตามมา เมื่อนักเขียนไซไฟ ฮาร์เลน เอลลิสัน อ้างว่าบทหนัง The Terminator มีส่วนคล้าย (หรือลอก) งานของตนเอง The Outer Limits และ I Have No Mounth, and I Must Scream ไม่ว่าเรื่องจริงจะอย่างไร โอไรออน สตูดิโอเจ้าของหนังก็เลือกจะประณีประนอมนอกศาลโดยจ่ายเงินเพื่อยุติเรื่อง และให้เครดิตท้ายเรื่องแก่เอลลิสัน ทำเอาแคเมรอนเดือดสุด ๆ แต่ในเวลานั้นเจ้าตัวไม่มีเงินพอที่จะเป็นความกันในศาลจึงได้แต่เงียบไว้
ด้วยความสำเร็จทั้งรายได้ $38.37 ล้าน และคำวิจารณ์ ทำให้เกิดภาคต่อตามมา ไม่ว่า เจมส์ แคเมรอน จะเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ก็ตาม เฟรนไชนส์ Terminator ทั้ง 6 ภาคทำเงินรวมกันทั่วโลกมากถึง $1,843 ล้าน
และหลังจากลิขสิทธิ์กลับมาอยู่ในมือผู้สร้าง่ตามกฎหมายใหม่ ในปี 2019 เจมส์ แคเมรอนก็ไม่รอช้า ที่จะสานต่องานของตนเองเสียที คงจะไม่มีใครเล่าเรื่อง ‘คนเหล็ก’ ได้ดีเท่ากับผู้สร้าง โดยแคเมรอนตัดภาคที่ตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องนับตั้งแต่ Terminator 3: Rise of the Machines ไปจนถึง Terminator: Genisys ดังนั้นเรื่องราวและไทม์ไลน์จะเริ่มต่อจาก Judgment Day ซึ่งจะเป็นอย่างไรเราใกล้จะได้คำตอบนั้นแล้วใน Terminator: Dark Fate
1
Next I'LL BE BACk TERMINATOR EP2: ต้นฉบับ 'คนเหล็ก'
ขอบคุณที่มาข้อมูล: IMDb, Wikipedia, IGN US, Terminator Wiki, MovietalkOKNation
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ: IMDB, tvspiefilm.de, arstechnica.com, Gfycat, theterminatorfans.com, imgur.com

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา