20 ต.ค. 2019 เวลา 21:53 • ประวัติศาสตร์
ทำไมเราถึงไม่รู้สึกตลกกับ"ตัวตลก"เสียเลย
จินตนาการว่าคุณกำลังกลับจากสวนสนุกตอนกำลังพลบค่ำ ยามฟ้าสลัวมีแค่คุณกับพนักงานบางส่วน คุณคงสบายใจกว่าถ้าพวกเขาแต่งตัวเป็นมาสคอตสัตว์มากกว่าตัวตลกในเวลาแบบนี้
ปัจจุบันอาชีพตัวตลกกำลังเป็นอาชีพที่เหลือคนทำน้อยลงเพราะคนไม่ได้รู้สึกตลกกับมันอีกต่อไป
ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ได้เริ่มแต่งแต้มตัวเองเพื่อสร้างความขบขันนั้นย้อนได้ไปถึง2500ปีก่อนคริสตกาลเลยทีเดียวในอารยธรรมอียิปต์ แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงที่มาของตัวตลกหน้าขาวแบบที่เราคุ้นตากัน
-ที่มาของตัวตลกแบบที่เรารู้จัก
ในสมัยยุคกลาง ช่วงศตวรรษที่13-14 ตัวตลกที่เรียกว่า"Jester" แสดงตลกคู่กับนักดนตรีที่เรียกว่า"minstrels"ซึ่งไม่ได้แค่เล่นดนตรีอย่างเดียวแต่ต้องเป็นตัวชงมุกด้วย ทั้งสองมีหน้าที่เล่นตลกในวังให้กับพระราชาหรือเจ้าผู้ครองแคว้นได้ชม แต่งกายด้วยหมวกที่มีปลายแหลมโค้งงุ้มลงมาแยกออก2-3 แฉก ตรงปลายห้อยด้วยกระดิ่ง แต้มสีบนใบหน้าและแต่งกายด้วยชุดสีสันแปลกตาและดูน่าขันที่สุด(สำหรับยุคนั้น) หน้าที่ของเขาคือทำให้บรรยากาศมีแต่เสียงหัวเราะ ในขอบเขตของการทำงานนั้นสามารถเล่นถึงเนื้อตัวผู้ชมอย่างพระราชาได้ด้วยซ้ำ ความกดดันภายใต้รอยยิ้มตลอดการแสดงนั้นคือถ้ามุกที่เล่นไปนั้นเกิดไม่ขำขึ้นมา พวกเขาอาจจะโดนโทษถึงประหาร การเล่นตลกของJesterจึงเป็นการimproviseที่ตรึงเครียดที่สุดและวางแผนอยู่ตลอดเวลา มีJesterมากมายที่เล่นมุกแป้กจนถูกนำไปทรมานหรือประหาร แต่Jesterคนหนึ่งชื่อว่าRoland le Pettour ได้เป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ ถึงกับพระราชทานที่ดินให้ 30เอเคอร์ เพื่อแลกกับการถูกเรียกมาเล่นตลกได้ทุกเมื่อ
นักแสดงตัวตลกพัฒนารูปแบบการแต่งกายมาจนถึงสมัยศตวรรษที่18 Joseph Grimaldi คือตัวตลกคนแรกที่เริ่มทาหน้าเป็นสีขาวทาสีแดงที่ริมฝีปากและตรงแก้ม สวมวิกผมสีสดใส เป็นรูปแบบที่เรียกว่า AugusteหรือCircus clown ตัวตลกประเภทนี้จะมาจากคณะละครสัตว์ เป็นตลกเงียบ ผู้แสดงจะไม่พูดแต่จะแสดงออกด้วยท่าทางที่ดูโง่ๆประหลาดๆ การแต่งหน้าแบบนี้ก็มาจากลักษณะของคนเมาหน้าแดงก่ำ(เป็นลักษณะที่ดูตลกในยุคนั้น) ตัวตลกแบบAugusteหรือClownนี้เอง ได้กลายเป็นภาพจำให้กับตัวตลกสยองขวัญที่เรารู้จัก
และในยุคนี้เดียวกันนี้ Joker ได้เกิดขึ้นมาในประเทศฝรั่งเศส จากไพ่ใบหนึ่งในเกมไพ่ที่เรียกว่าEuchre
(ความแตกต่างคือJoker เป็นผู้เล่าเรื่องตลก แต่Clownเป็นตลกไบ้ ผู้เล่นตลกท่าทางร่วมกับอุปกรณ์)
-ตั้งแต่เมื่อไรที่ตัวตลกเริ่มน่ากลัว
สิ่งหนึ่งที่อธิบายที่มาของความกลัวนี้ได้คือ Uncanny valley effect ทฤษฎีนี้จะกล่าวถึงความกลัวถึงสิ่งที่คล้ายคลึงมนุษย์แต่ไม่ใช่ เราจะรู้สึกเฉยๆกับสิ่งที่ไม่ได้คล้ายมนุษย์ แต่จะเริ่มกลัวมันเมื่อมีบางสิ่งคล้ายเราแต่ไม่ใช่เรา เป็นความกลัวที่ฝังลึกอยู่ในตัวมนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยงภัยคุกคาม ในที่นี้ครอบคลุมถึงศพด้วย ศพนั้นคล้ายมนุษย์แต่ศพไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป กลายเป็นวัตถุอินทรีย์ที่รอวันย่อยสลาย และเริ่มเปลี่ยนสภาพไปในทางน่ากลัว เราจึงหลีกเลี่ยงที่จะสัมผัสกับศพ(ตามสัญชาติญาณเพราะศพอาจจะนำมาซึ่งโรคระบาด) ตรงส่วนนี้กราฟความกลัวของUncanny effectจะเริ่มขึ้น แต่กราฟความกลัวสามารถพุ่งไปถึงจุดขีดสุดได้ ถ้าศพมันเริ่มขยับ...
หนังสยองขวัญต่างใช้ทฤษฎีนี้เป็นวัตถุดิบสร้างหนังประเภท ซอมบี้ สัตว์ประหลาดที่มีลักษณะhumanoid และตัวตลกสยอง
ในปี1981 Stephen Kingนักเขียนนิยายชื่อดังได้หยิบเอาวัตถุดิบนี้มาใช้และเริ่มเขียน"IT"
หลังจากที่ฆาตกรในชุดตัวตลกชื่อ John Wayne Gacy ถูกจับในปี1978 ในคดีฆ่าเด็กผู้ชายไป 33ศพ เป็นไปได้ว่าคดีนี้เป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งของเรื่องIT และความสะเทือนขวัญของคดียิ่งตอกย้ำความน่ากลัวของตัวตลกให้มากขึ้น ตามเนื้อเรื่องITไม่ใช่มนุษย์โดนสิ้นเชิง แต่เป็นสิ่งคล้ายมนุษย์มีรูปลักษณ์ผิดแปลกไป และมันเป็นตัวตลกกินคนที่เปิดฉากด้วยการหลอกเด็กไปกินในท่อระบายน้ำ ITจึงได้สร้างบรรทัดฐานของตัวตลกสยองให้กับหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ เด็กที่เกิดในยุค90sจำนวนมากจึงกลายเป็นโรคกลัวตัวตลกหรือ"coulrophobia" จากสื่อเหล่านี้
ในความจริงมันก็ดูน่ากลัวเหมือนกันแม้จะไม่มีตัวตลกที่เป็นสัตว์ประหลาดกินคน แต่มีมนุษย์ที่ปกปิดความคิดบิดเบี้ยวภายใต้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ นึกภาพว่ามีคนในรถไฟขบวนเดียวกับเราและเขาเริ่มหัวเราะลั่นแบบไม่มีสาเหตุ ยากที่จะคาดเดาว่าเขากำลังจะทำอะไรต่อไป แค่นี้ก็น่ากลัวแล้ว
โฆษณา