22 ต.ค. 2019 เวลา 16:24 • ประวัติศาสตร์
ความเชื่อเรื่องผลเสียของการสำเร็จความใครด้วยตัวเองในสมัยก่อน
ในปี 1766 นายแพทย์ ซามูเอล ออกุส ทิซซอส ( Samuel-Auguste Tissot ) ได้ตีพิมพ์วรสารทางการแพทย์เรื่อง ผมข้างเคียงของการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองโดยมีเนื้อหาประมาณว่า
2
ซามูเอล ออกุส ทิซซอส
"ผู้ป่วยด้วยผลข้างเคียงจากการสำเร็จความใคร่ ส่งผลให้ลดสติสัมปชัญญะ ลดศักยภาพการทำงานของสมอง ทำให้เห็นภาพซ้อน ความผิดปกติของระบบประสาท ส่งผลถึงโรคไขข้อ ทำให้สุขภาพอ่อนแอตั้งแต่เยาว์วัย ปัสสาวะเป็นเลือด ลดความอยากอาหาร ทำให้มีอาการปวดหัว และ ความผิดปกติทางสุขภาพอื่น ๆ อีกมากมาย "
แนวคิดนี้มีอิทธิพลมากช่วง ศ ที่ 17-19 มีหนังสือเล่มนึงชื่อ Le livre sans titre ซึ่งพิมพ์ออกมาในปี 1830 ได้วาดภาพผลกระทบของการช่วยตัวเองไว้เช่น
ช่วยตัวเองทำให้ร่างกายอ่อนแอ
ช่วยตัวเองทำให้ร่างกายอ่อนแอ
ช่วยตัวเองทำให้หลังค่อม
ช่วยตัวเองทำให้หลังค่อม
ช่วยตัวเองทำให้พิการเดินไม่ได้
ช่วยตัวเองทำให้พิการเดินไม่ได้
ช่วยตัวเองทำให้ไอเป็นเลือด
ช่วยตัวเองทำให้ไอเป็นเลือด
ทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ
ทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ
ช่วยตัวเองทำให้หัวล้าน
ช่วยตัวเองทำให้หัวล้าน ผมร่วง
ช่วยตัวเองทำให้อาเจียนเป็นเลือด
ช่วยตัวเองทำให้อาเจียนเป็นเลือด
ช่วยตัวเองทำให้ฟันร่วงหมดปาก
ช่วยตัวเองทำให้ฟันร่วงหมดปาก
ช่วยตัวเองทำให้มีตุ่มหนองขึ้นเต็มตัว
ช่วยตัวเองทำให้มีตุ่มหนองขึ้นเต็มตัว
สุดท้ายก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังหนุ่ม
อาจเป็นเพราะว่า ความเชื่อแบบคริตศาสนา ในสมัยก่อนนั้นมีความเคร่งครัดในข้อห้ามสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และ มีอิทธิพลต่อสังคมโลกตะวันตก ทำให้ความเชื่อนี้ฝังหัวคนมาร่วม หลายร้อยปี จนกระทั้งวิทยาศาสตร์ก้าวหน้า ความเชื่อแบบนี้ก็ค่อย ๆ เลือนหายไปนั้นเองครับ
โฆษณา