23 ต.ค. 2019 เวลา 03:42 • สุขภาพ
ระวัง !!!!! ภัยเงียบในคุณผู้หญิง !!!!!
มะเร็งในผู้หญิงในปัจจุบันนี้ ด้วยสภาพแวดล้อมสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยมะเร็งที่พบได้บ่อยในผู้หญิง คือ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตามลำดับ
ต้องการป้องกันหรือเป็นแล้วทำไงละ !!!!!!.....
แต่ก่อนอื่นมาดูก่อนว่าภาวะมะเร็งในมดลูกเป็นอย่างไร
มะเร็งที่ถือได้ว่าเป็นมะเร็งที่น่าห่วงมากที่สุดในผู้หญิงสมัยนี้นั้นก็คือ มะเร็งปากมดลูก จากตัวเลขที่มีเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี และพบผู้ป่วยที่มีอายุน้อยลงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย และเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ซึ่งมะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันได้ และสามารถตรวจคัดกรองหาความผิดปกติได้ก่อน
จากข้อมูลจากสถิติสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข ปี 2560 ระบุว่าในแต่ละปีจะพบว่าสตรีไทยป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ 5,513 ราย และหากลงลึกไปอีกจะพบว่าในแต่ละวันจะมีสตรีป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกเพิ่มถึง 15 ราย และแต่ละปีจะมีสตรีไทยเสียชีวิตเพราะมะเร็งปากมดลูกถึง 2,251 ราย หรือเฉลี่ยจะมีสตรีไทยเสียชีวิตเพราะมะเร็งปากมดลูกวันละ 6 ราย ผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ถึง 8,184 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากไวรัสเอชพีวีที่ก่อให้เป็นมะเร็งปากมดลูก โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้จะติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุในอวัยวะสืบพันธุ์ จึงทำให้เชื้อไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ที่ปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ของปากมดลูก จนกลายเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง (ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก)
และเป็นมะเร็งในที่สุด
มะเร็งยิ่งรักษาเร็วยิ่งมีโอกาสรอดชีวิตสูง และกำลังใจของผู้ป่วยนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
และการป้องกันตัวเองจากมะเร็งปากมดลูก สำหรับผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกภายใน 3 ปีหลังการมีเพศสัมพันธ์ ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เว้นแต่กับผู้ชายที่จะให้เป็นพ่อของลูก และหากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์อาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 30 ปีขึ้นไปโดยการตรวจแปปสเมียร์ (Pap test) ร่วมกับการตรวจหาเชื้อ HPV ส่วนผู้หญิงที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ที่มีอายุตั้งแต่ 9 – 26 ปีควรฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับต่อต้านเชื้อ HPV ก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
ปัจจุบันมีงานวิจัยใหม่ล่าสุด ที่ใช้การกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง จัดการกับภาวะโรคกลุ่ม NCDs มะเร็ง ความเสื่อมของร่างกาย ระบบเลือด ระบบสมอง ให้เซลล์ต่างๆในร่างกายกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้สารสกัดที่ทานได้มาเสริมฤทธิ์กัน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของวิทยาการทางการแพทย์
ยิ่งเราเริ่มรับประทานสารเหล่านี้เร็วเท่าใด ก็ยิ่งส่งผลดีต่อร่างกายของเราในระยะยาวขึ้นเท่านั้น
บทความสุขภาพน่ารู้ : HealthyGiftThailand
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ :
คลิ๊ก💬
คลิ๊กLine:@healthygift>> http://line.me/ti/p/%40vjj4602x
☎️โทร: 086 829 5626 , 083 565 4624
โฆษณา