23 ต.ค. 2019 เวลา 13:54 • ประวัติศาสตร์
ด้วยสายพระเนตรที่ยาวไกล จึงพาไทยให้ผ่านพ้นวิกฤต
สาเหตุที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ต้องเสด็จประพาสยุโรปในครั้งที่ 1 ก็เพราะในเวลานั้นสยามถูกรุมล้อมจากมหาอำนาจอย่างอังกฤษและฝรั่งเศสที่กำลังมองหาอาณานิคมเพื่อแผ่อำนาจและมองหาทรัพยากร
ส่วนการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่สองเป็นการเสด็จส่วนพระองค์เพื่อรักษาอาการประชวร และหลังจากเสด็จกลับเพียง 3 ปีก็สวรรคต
ในการเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่สองนี้พระองค์มีพระราชหัตถเลขามาถึงสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้านิภานภดลเป็นระยะเพื่อทำการเก็บบันทึกรวบรวมกลายเป็นพระราชนิพนธ์เรื่อง “ไกลบ้าน”
ในพระราชหัตถเลขาฉบับสุดท้ายนั้นพอจะสรุปใจความสำคัญได้ว่า ที่ทำมาหากินของฝรั่งนั้น ได้อเมริการับรองไปเสียเป็นหนักหนาแต่ก็ไม่พอ แอฟริกา ออสเตรเลีย ก็เข้าไปจับจองกันจนหมด เอเชียก็โดนจับจองไปเป็นอันมาก
ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะยุโรปกำลังจะหมดดี เป็นธรรมดาของโลกมนุษย์ที่ไม่มีใครยอมตายง่าย ๆ และปรารถนาจะให้ได้มากที่สุด มั่นคงที่สุด
ความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ จึงทำให้ต้องปั่นป่วนวนเวียนอยู่เป็นนิจ ไม่มีทางสงบเรียบร้อยได้
หลังจากพระราชหัตถเลขาฉบับสุดท้ายนี้เพียง 10 ปีก็เกิดมหาสงครามขึ้น ทุกหย่อมหญ้าในแผ่นดินยุโรปลุกเป็นไฟ จากการแย่งชิงความเป็นใหญ่แสวงหาอำนาจและแย่งชิงทรัพยากร
แม้มหาสงครามครั้งนั้นจะสิ้นสุดลง แต่ความขัดแย้งและความสูญเสียไม่ได้สิ้นสุดลงตามไปด้วย หลังจากนั้นเพียงยี่สิบปีก็เกิดมหาสงครามครั้งใหญ่ตามมาอีกครั้ง
การที่เราผ่านพ้นวิกฤตในช่วงต่าง ๆ มาได้เพราะเรามีผู้นำที่เข้มแข็ง และการใช้กุศโลบายที่ชาญฉลาดในการดูแลบ้านเมือง
ในสมัยรัชกาลที่ 5 สยามพัฒนาประเทศในหลาย ๆ ด้านให้ทัดเทียมยุโรป สร้างความสัมพันธ์อันดีกับชาวยุโรปด้วยการศึกษา มีการจัดทุนเล่าเรียนหลวงเพื่อส่งคนไทยไปศึกษาหาความรู้เพื่อมาพัฒนาบ้านเมือง
และจะทรงตักเตือนนักเรียนไทยในต่างประเทศเสมอว่า “ให้พึงนึกในใจไว้ว่าเราไม่ได้มาเรียนเป็นฝรั่ง เราเรียนเพื่อจะเป็นคนไทยที่มีความรู้เสมอด้วยฝรั่ง”
23 ตุลาคม วันปิยมหาราช หรือวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
#pordee
โฆษณา