24 ต.ค. 2019 เวลา 04:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
6G : Internet-Of-Thoughts
หลังจากที่เล่าเรื่อง 5G ไปแล้ว เมื่อวาน
วันนี้จะพาทุกท่านไปสู่อีกยุคหนึ่ง นั่นคือ 6G
แต่ก่อนจะไปถึง 6G ขอแวะสักนิดนึงครับ
ตอนนี้มีสองประเทศที่ได้ยินข่าวจะพัฒนา 6G นั่นก็คือ จีนและอเมริกาสองประเทศมหาอำนาจของโลกในตอนนี้ ซึ่งอเมริกานั่นเสียท่าในเรื่อง 5G ให้กับจีนไปแล้วพอสมควรจึงอยากกู้หน้าคืนด้วยการพัฒนา 6G ไปเลย
ว่าแต่ว่า 6G นี่มันจะเร็วขนาดไหนกัน??ความเร็วตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ แต่ที่แน่ ๆ เร็วกว่า 5G แน่นอน
แต่เอ๊ะ!! 5G นี่มันก็เร็วมากแล้ว คนเราจะต้องการความเร็วมากขนาดนั้นไปเพื่ออะไรกัน??
นี่แหละครับคือคำตอบของ 6G มันไม่ได้มีมาเพื่อตอบสนองคน
แต่มีมาเพื่อตอบสนอง AI นั่นเอง
6G จะทำให้ AI สามารถรับส่งข้อมูลให้กันและกันอย่างรวดเร็วเพราะความเร็วขนาดนั้น มีไว้เพื่อถ่ายข้อมูลระดับ Big DATA สู่กันและกัน
ยุคนี้ จะเป็นยุคที่เรียกว่า Internet of Thoughts
ทำไมถึงใช้คำนี้นะหรอครับ??
เพราะจะมีตัวแปรที่สำคัญมาก ๆ เข้ามาตัวหนึ่ง
ตัวแปรที่ว่านั้น เรียกว่า นาโนบอท (nanobot)
ซึ่งปัจจุบัน ถูกคิดค้นขึ้นเป็นที่เรียบร้อย ที่รัฐ Arizona ประเทศอเมริกาโดย nanobot นั้นมีหน้าที่เข้าไปยับยั้งการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้ไปหล่อเลี้ยงเนื้อร้าย ที่เราเรียกกันว่ามะเร็ง เพื่อให้เนื้อร้ายหยุดการเจริญเติบโตและก็ตายไป
(ใครอยากอ่านเพิ่มเติมถึงรายละเอียดขออนุญาตแปะลิงค์ไว้ให้นะครับ)
ซึ่งด้วยเทคโนโลยีนี้ เรียกว่า เป็นอนาคตของ มวลมนุษย์ชาติ เลยก็ว่าได้ ที่ต่อไปในอนาคต เราจะสามารถสู้กับโรคร้ายที่ชื่อว่ามะเร็งได้แล้ว
แต่อย่าพึ่งดีใจไปครับ เพราะตอนนี้ เจ้า นาโนบอทที่พัฒนามา สามารถ กำจัดมะเร็งได้แค่ 4 ชนิดเท่านั้นคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งผิวหนัง มะเร็งรังไข่ และมะเร็งปอด
ซึ่งนี่คือเทคโนโลยีเบิกทางให้กับมนุษย์ที่่จะทำให้เราสามารถเอาชนะโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
เรย์ เคิร์ซเวล (Ray Kurzweil) ผู้อำนวยการด้านวิศวกรรมจากค่ายบริษัท ‘กูเกิล (Google) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ในปี 2030 โลกจะมีเทคโนโลยี ของ Nanobot ที่เข้าไปสู่ในสมองของคน
เพื่อเชื่อมกับเส้นประสาทต่าง ๆ พอเรานึกถึงเรื่องอะไร เจ้า Nanobot จะดึงความรู้จาก Cloud ที่เป็นเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่บน Network มาใส่ในหัวเราได้ในทันทีเรียกว่าคิดถึงอะไร ก็ได้ข้อมูลทันทีไม่ต้องหากันทีเดียวนี่แหละครับ ที่ทำให้เกิดยุค  Internet Of Thoughts
แน่นอนว่าไอ้เจ้า nanabot นี่คงจะถูกใช้และประยุกต์ทำงานที่หลากหลายมาก ๆ ในอนาคต
ซึ่งไม่ทราบว่าจะไปถึงขนาดไหน
ไม่แน่ว่า มนุษย์ในอนาคต อาจจะแก่ช้าขึ้น และมีชีวิตที่ยาวนานกว่าปกติ เพราะ nanobot พวกนี้ก็เป็นไปได้
6G ที่ว่านั้น ถูกนำมาเพื่อเชื่อมต่อ nanobot กับ cloud หรือระบบที่ใช้นี่แหละครับ ซึ่งเป็นการเชื่อมกันระหว่าง AI และ AI
ถ้าถามว่า ไอ้ Nanobot เล็กแค่ไหน เปรียบง่าย ๆ ก็เหมือนเอาเส้นผมเราไปผ่าอีกสักสามครั้ง
คือครั้งแรกผ่าแล้วได้สอง เอาหนึ่งจากสองไปผ่าอีก และเอาหนึ่งจากสองที่ผ่าอีกที ก็จะเป็นนาโนครับขนาดตามสมการจริงก็คือ 1x 10^-9(ยกกำลังลบเก้า
ลองคิดกลับกันนะครับ กิโลนั่นคือ 1x10^3
แต่นาโน เป็น -9 มันจึงเล็กเอามาก ๆ ถึงขนาดเข้าไปในหลอดเลือดของมนุษย์อย่างเราได้
เอาหละครับทีนี้ อีกแค่ 11 ปี ไม่รู้ว่าโลกใบนี้จะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหนนอกจากเทคโนโลยีที่ได้กล่าวมาจะสามารถเขย่าโลกนี้ได้อีกครั้งแล้ว
อย่าลืมว่า เทคโนโลยีอื่น ๆ ก็ยังถูกพัฒนาไปอีกด้วยเช่นกัน
มาถึงตอนนี้ คนที่อ่าน คงจะเป็น คนที่รู้ก่อนแล้วว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นเช่นไร
ตอนนี้อยู่ที่คุณแล้วหละ ว่าจะเลือกทำตัวแบบไหน
ชีวิตเรา เลือกทางของเราเองนะครับ
เดินตามทางที่เราเลือกดีกว่า
ให้คนอื่นมาเลือกทางให้เรา
จบ แล้วนะครับสำหรับสาระจาก Talk show
หากสงสัยตรงไหนก็ถามได้ครับ ตอบเท่าที่รู้ให้แน่นอนครับ
ตอนหน้า จะขอกลับไป ซีรี่ย์ Human Being ซะหน่อย เกี่ยวกับสมอง และการหักห้ามใจ รออ่านนะครับ
โฆษณา