28 ต.ค. 2019 เวลา 03:37
ขอแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว สำหรรับการขึ้นศาลที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งไม่เป็นที่น่าปลื้มปิติซักเท่าไหร่ สำหรับชาวต่างชาติคนนึงที่ต้องไปขึ้นศาล
twitter.com
เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ผมได้มีโอกาสไปฝึกอบรมที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นเวลา 5 วัน และตั้งใจว่าจะไปซื้อ ipad ให้ภรรยาสุดที่รัก ไปถึงวันแรก ก็ไปทานอาหารกับเพื่อน ๆ แล้วก็เดินช้อปปิ้ง ตลาด IT ของเขา เหมือนมาบุญครอง บ้านเรานี่แหละ เดินๆไปร้านเริ่มจะปิด เราก็รีบหาซื้อ เพราะเกรงว่าวันอื่นจะไม่มีเวลาเดิน
ก็ไปเจออยู่ร้านนึง บอกเขาเราต้องการ ipad เขาก็หยิบมาให้เราลอง เราก็โอเค ระหว่างนั้นเจ้าของร้าน 2 คน พูดภาษาจีนอะไรกันก็ไม่รู้ ฟังไม่ออก สุดท้าย เขาก็ชวนคุยถามว่าเรามาจากไหน อะไรยังไง แล้วยื่น สลิปบัตรเครดิตให้เราเซ็นต์เราก็เซ็นต์ แล้วเอาของกลับห้องอย่างสบายใจ
blog.pakorn.net
กลับถึงห้องไปตรวจสอบของก็โอเค ถูกต้อง แต่มาดูที่ Sale Slip กลับพบว่า บิลที่เราเซ็นต์ไป เป็นราคาถึง 2 เท่า ของราคาของ วันรุ่งขึ้น ช่วงพักเที่ยงหลังอบรม เรารีบขึ้น แท็กซี่ ไปที่ร้านเขาอีก เขาบอกราคานี่แหละ ยูว์เซ็นต์แล้ว ไม่สนใจ และ ไม่ยอมคืนเงินใดๆให้ๆ เราไปฟ้องเอาเอง
เราก็ไม่ยอม เราไปที่ศาลยื่นเรื่องฟ้องทันที พนักงานที่นั่นบอก ร้านนี้อีกแล้วเหรอ (ก็แอบ งง เหมือนกัน ถ้าเกิดกับร้านนี้บ่อยๆ แล้วทำไมยังให้เขาเปิดอยู่อีก นี่ประเทศสิงคโปร์นะ ขึ้นชื่อเรื่องความยุติธรรมหนิ) จากนั้นเราก็ไปรายงานเรื่องต่ออัยการ สอบถามความเป็นมาต่างๆ แล้วอีกวันค่อยมาใหม่
money.kapook.com
จากนั้น อีกวันเราก็ไปอีก เขาก็ให้เจ้าหน้าที่พาเราไปที่ร้านนั้น ไปถึงคนขายก็ไม่อยู่ อยู่แต่กับอีกคนนึง คนนี้ไม่รับผิดชอบบอกว่าไม่ได้ขาย ให้ไปตามเอากับคนที่ขายแทน เจ้าหน้าที่ก็ยืนด่า ๆ กัน ฟังไม่รู้เรื่อง
ก็ต้องกลับไปที่ศาลอีกวันต่อมา อัยการ โทรหาที่ร้านเพื่อไกล่เกลี่ย แต่เขาก็ไม่ยอม บอกจะคืนให้อีกแค่ 100 US เท่านั้น เราก็ไม่ยอม ศาลเลยออกคำสั่งศาลให้งดเก็บค่า ipad ทั้งหมด และ คืนของ
ผมก็คิดว่าได้ใบสั่งศาลมาแล้ว ก็สบายใจ จบ แต่ของอยู่ที่นี่จะเอายังไงต่อ ถึงวันกลับบ้านแล้วด้วย ก็เลยนำกลับมา
straitstimes.com
พอถึงวันเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตชื่อดังของต่างประเทศ เราได้ปฏิเสธการจ่ายยอดนี้ พร้อมทั้งยื่นคำสั่งศาลไปให้ แต่ทาง เจ้าหน้าที่บัตรเครดิต ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆ เพียงแต่สอบถามว่าเราได้เซ็นต์หรือปล่าว ถ้าเราเซ็นต์ก็ถือว่ายอมรับ เขาไม่สนใจใบคำสั่งศาลเลย เถียงกันมาเป็นอาทิตย์ สุดท้ายก็ต้องยอมแพ้ ยอมจ่ายค่า ipad เป็นจำนวนเงินกว่า 6 หมื่นบาท
ตั้งแต่นั้นมา ผมจึงหักบัตรและยกเลิกการใช้บัตรเครดิตของธนาคารนั้นและไม่คิดจะใช้บริการของธนาคารนี้อีกต่อไป
ตกแต่งภาพเพื่อไม่ให้รู้ว่าเป็นของธนาคารอะไรนะครับ ไม่อยากพาดพิง
สรุปว่า เสียค่าโง่เอง เซ็นต์อะไรไป ไม่ดูให้ดี ไม่ตรวจสอบให้แน่ชัด ทำงานโรงแรมซะปล่าว และ สอนให้เรารู้ว่า ทำอะไรต้องรอบครอบ อย่าให้เวลา เป็นตัวเร่งการตัดสินใจของเรา บางอย่างเร่งๆๆไป ทำให้เกิดความผิดพลาดในการตัดสินใจ และ การขึ้นศาลที่ต่างประเทศ ไม่ใช่เรื่องตลกเลย อีกอย่าง อย่าคิดว่าสิงค์โปร์เป็นประเทศที่เชื่อถือได้ ทุกประเทศมีคนโกงเหมือนกันหมด เราต้องระมัดระวังตัวเราเอง อย่าหลงเป็นเหยื่อโจรได้ ผิดเป็นครูครับ หลังจากนั้น ผมก็ไม่ซื้อของอะไรให้ภรรยาอีกเลย จะได้ไม่โดนหลอก 555
👍ฝากกดไลค์ ถ้าชอบ
👉ฝากกดตอบ ถ้าสงสัย
👆ฝากกดอะไร ถ้าติดตาม
🤝ฝากคำถาม ติดตามยัง?

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา