แรงขับดันในธรรมชาติของมนุษย์ต่างประกอบไปด้วย อาหาร, ความรัก, เซ็กส์ และสิ่งให้ค้นหาใหม่ ๆ สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการหลั่งโดปามีนมากกว่ากิจกรรมอื่นใด เพราะมันถือเป็นสิ่งที่มีผลต่อยีนส์และการดำรงเผ่าพันธ์ุของเรา
.
ด้วยเหตุนี้สมองของเราจึงวางภารกิจให้เราจดจำและแสวงหาสิ่งเหล่านี้มาอีกเรื่อย ๆ โดปามีนจึงมีอีกชื่อเล่นหนึ่งว่า “หน่วยย่อยที่สุดของการเสพติด” (molecule of addiction)
.
แม้ว่าโดปามีนจะถูกกล่าวขานเหมือนกับว่ามันคือสารแห่งความสุข แต่อันที่จริงแล้วมันเกี่ยวข้องกับ “การสืบเสาะแสวงหา, ความต้องการ และความคาดหวัง” ต่างหาก
.
โดปามีนไม่เพียงแค่ทำให้มนุษย์เรารู้สึกชอบหรือประทับใจ แต่มันยังทำให้เกิดพฤติกรรมการเสาะแสวงหาอีกด้วย เราชอบการได้เสาะแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ มากกว่าชอบความสุขที่เราได้รับจากสิ่งนั้นเสียอีก การเสพติดเปรียบเสมือนแนวคิดอย่างหนึ่งของ “ความฟุ้งซ่านอยากได้ไม่รู้จบ” (wanting run amok)
.
ไม่ใช่แค่เรื่องอาหารหรือเซ็กส์เท่านั้น โดปามีนขับดันให้เราออกไปค้นหาสิ่งใหม่ ๆ แทบทุกอย่าง เช่น รถคันใหม่ (ทั้ง ๆ ที่คันเก่าก็ยังใช้การได้ปกติ), สมาร์โฟนเครื่องใหม่ (ทั้ง ๆ ที่เครื่องเก่ายังใช้งานได้ดีอยู่), รองเท้าออกกำลังกายคู่ใหม่ (ทั้ง ๆ ที่คู่เก่าเองยังใช้งานได้ไม่คุ้มเลย), กระเป๋าแบรนด์เนมชิ้นใหม่ (แม้ว่าอันเก่าก็ยังไม่ได้มีอะไรชำรุดเสียหาย) ไปจนถึงอยากได้คู่รักคนใหม่ (ทั้ง ๆ ที่ …… )
.
พฤติกรรมเหล่านี้ถูกขับดันโดยโดปามีนทั้งสิ้น เราเรียกกลไกการเสาะแสวงหาสิ่งใหม่ ๆ นี้ว่า novelty seeking
.
*** อันที่จริงแล้ว ยังมีสารสื่อประสาทบางตัว และการเปลี่ยนแปลงในสมองอีกหลายอย่าง ที่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเสพติดในสมองของเรา ซึ่งผมจะอธิบายในบทถัดไป แต่สำหรับบทนี้ ผมจะเน้นย้ำไปที่ “โดปามีน” เท่านั้น เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของอาการ Porn-induced ED
.
ไอ้อาการอยากดูหนังโป๊ที่เกิดขึ้นทุกวันเวลา มันไม่ใช่ความต้องการทางเพศนะครับ แต่มันคือเสียงของตัวรับโดปามีนในสมองของเรา
.
มันกรีดร้องอยากได้โดปามีนมาเติมเต็มมัน ซึ่งสิ่งเดียวที่สามารถแตะถึงระดับ threshold ของมันได้ก็คือ โดปามีนจากการดูหนังโป๊แนวโปรดพร้อมกับการกระตุ้นอย่างรุนแรงจากมือข้างถนัดเท่านั้น
.
เราเรียกพฤติกรรมนี้ว่า PMO มาจากคำว่า Porn Masterbation Orgasm ซึ่งแปลว่า “การช่วยตัวเองให้ถึงจุดสุดยอดโดยใช้สื่อโป๊”
.
สังเกตุตัวเองดูครับ หลาย ๆ คน แค่หนังโป๊อย่างเดียวไม่พออีกต่อไปแล้ว เราต้องใช้มือในการกระตุ้นร่วมไปด้วย ลองคิดถึงตัวเองดูนะครับ แม้ตาเราจะจ้องหน้าจออยู่ แต่ส่วนนั้นของเราก็ไม่แข็งเลยถ้าหากเราหยุดขยับมือ เราต้องการการกระตุ้นที่มากขึ้น ๆ ๆ เพื่อจะได้หลั่งโดปามีนมากขึ้น ๆ ๆ
.
ผมเชื่อว่าพวกเราหลาย ๆ คนเป็นถึงขั้นนี้แล้ว นั่นก็คือ หากหยุดมือเมื่อไหร่ ส่วนนั้นก็จะอ่อนตัวลงทันที แม้ว่าตายังกำลังจ้องหน้าจออยู่ก็ตาม
.
เราเรียกอาการนี้ว่า desensitization ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “อาการด้านชา” ในกรณีนี้ เราจะเรียกว่าอาการตายด้านก็ได้ครับ ซึ่งผมจะอธิบายรายละเอียดส่วนนี้แบบเจาะลึกขึ้นในบทต่อ ๆ ไป
.
อาการ desensitization คือเหตุผลหนึ่งที่ทำให้รสนิยมทางเพศหรือแนวหนังโป๊ของบางคนถึงได้มีความรุนแรงและแหวกแนวมากขึ้นเรื่อย ๆ บางคนถึงขั้นแหวกแนวไปแนววิปริตหลุดโลกเลยก็มี ทั้งหมดเป็นเพราะสารแห่งความพอใจและสารแห่งความอยากรู้อยากเห็น นั่นก็คือโดปามีน นั่นเอง (ผมจะอธิบายจุดนี้ในบทต่อ ๆ ไปเช่นกันครับ)
.
ไม่ต้องพูดถึงสาวงามที่เราเจอโต๊ะข้างๆเลย เพราะการที่โดปามีนพุ่งแค่ 15น. , 20น.
มันไม่เพียงพอให้สมองเราพอใจและเกิดอารมณ์อีกต่อไปแล้ว มันสู้ “การดูหนังโป๊แนวโปรดพร้อมกับใช้มือช่วยตัวเอง”ไม่ได้เลย
.
ต่อให้สาวสวยคนนั้นนอนเปลื้องผ้าต่อหน้าเราบนเตียง เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะโดปามีนที่สมองหลั่งออกมามันไม่เพียงพอกับความเคยชินของเราไงครับ เผลอ ๆ ส่วนนั้นของกลับเราหดลงกว่าเดิมเพราะความเครียดของตัวเราเองเสียด้วยซ้ำ
.
จริงๆแล้วโดปามีนมันก็หลั่งออกมาในทุกๆกิจกรรมตามปกตินั่นแหละครับ เพียงแต่ threshold ของตัวรับโดปามีนในสมองของเรามันสูงกว่าปกติมากเสียจนโดปามีนตามกิจกรรมธรรมชาติไม่สามารถสะกิดมันให้รู้สึกอะไรได้อีกแล้ว
.
ผลก็คือ ไข่ไม่ขึ้น จู๋ไม่แข็ง นกเขาอ่อนแรง !!!
.
ตอนนี้ชายหนุ่มหลาย ๆ คนกำลังเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่น้อยคนที่จะกล้าสารภาพออกมา เพราะกลัวโดนเพื่อนล้อเลียน แต่หารู้ไม่ว่าเพื่อนของเราหลาย ๆ คนก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย (มีผู้ชายคนไหนบ้างล่ะที่ไม่เสพสื่อโป๊ เผลอ ๆ เพื่อนของเราบางคนอาจเป็นหนักกว่าเราเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ต่อหน้าเราหรือในโลกโซเชียลก็ทำเป็นคุยโวโอ้อวดราวกับว่าตนเป็นกูรูผู้เจนจัดเสียอย่างนั้น)
.
ดังนั้นสำหรับเหล่าผู้เชี่ยวชาญหรือกูรูหนังโป๊ทั้งหลาย แม้เขาจะไม่ยอมรับตรง ๆ แต่เราก็สามารถเดาได้เลยว่าพวกเขามีโอกาสเป็น Porn-induced ED 99.99 % แม้ว่าบางคนอาจจะยังไม่เป็นในตอนนี้ นั่นก็อาจเป็นเพราะว่า Porn-induced ED มันยังไม่แสดงอาการ แต่ในอนาคต ถ้าเขายังไม่ “ลด-ละ-เลิก” พฤติกรรมเหล่านี้ เขาก็ต้องเป็นแน่นอน เร็ว ๆ นี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
.
หรือบางคนอาจจะเป็น Porn-induced ED แล้ว แต่แค่ยังไม่รู้ตัวว่าเป็นก็ได้ เพราะเขาอาจจะไม่มีคู่รัก ทำให้ไม่ทันได้สังเกตุตัวเอง (โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่เราจะรู้ตัวว่าเป็น Porn-induced ED หรือไม่ ก็ตอนที่กำลังจะมีเซ็กส์กับคนรักนี่ล่ะ) หรือบางคนก็อาจจะเป็นแค่ระดับอ่อน ๆ ทำให้อาการยังไม่แสดงออกมาอย่างชัดเจนในตอนนี้
.
ตัวผมเองก่อนหน้าที่ Porn-induced ED จะแสดงอาการออกมา ผมก็ยังคงสามารถมีเพศสัมพันธ์กับคนรักของผมได้ตามปกติทั้งที่ตอนนั้นก็ผมยังคงดูสื่อโป๊อยู่บ่อย ๆ (ตอนที่ผมยังเรียนมหาวิทยาลัย)
.
ที่สำคัญ ในตอนนั้น ผมไม่เคยรู้ข้อมูลของโรคนี้มาก่อนเลยสักนิด ด้วยเหตุนี้ ผมจึงไม่ทันได้ระวังตัวว่าพฤติกรรมของตนกำลังอยู่ในกลุ่มเสี่ยง และผมก็ไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังสะสมอาการอยู่ทีละน้อย ๆ จนในที่สุด อาการที่สะสมเอาไว้ก็ระเบิดออกมา
.
ผมในตอนนั้นก็เหมือนกับพวกท่านหลายคนในตอนนี้ พวกเรายังไม่รู้ถึงต้นเหตุของปัญหา พวกเราส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าต้นเหตุของมันเป็นที่สุขภาพทางกายทั่ว ๆ ไป ดังนั้นพวกเราจึงพยายามแก้ปัญหานี้ด้วยการควบคุมอาหาร, ออกกำลังกาย, พักผ่อนให้ตรงเวลา, งดเหล้าบุหรี่ หรือไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและตรวจสุขภาพ เป็นต้น
.
ถ้าผลการตรวจต่าง ๆ บ่งชี้ว่าเราไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ เช่น ไม่ได้เป็นโรคเบาหวาน ความดัน หรือโรคประจำตัว แพทย์ส่วนใหญ่ก็จะวินิจฉัยว่าอาจเป็นเพราะความเครียด, ความเหนื่อยล้า หรือความวิตกกังวล แล้วก็จะจ่ายยาประเภท sildenafil (ยา Viagra หรือใกล้เคียง) มาให้ ทำให้บางท่านทั้งที่ยังหนุ่มอยู่เลย แต่กลับต้องพก Viagra ไว้ด้วย เพื่อที่จะสามารถมีเซ็กส์กับคู่รักของตนได้
.
อย่างไรก็ตาม ยาเหล่านี้ก็ไม่ได้ช่วยเท่าไหร่หรอกครับ มันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ บางคนอาจจะใช้ยาแล้วทำให้พอมีเซ็กส์ได้ก็จริง แต่เขาก็ต้องใช้ยาทุกครั้ง และเมื่อเวลาผ่านไป ยาปริมาณเท่าเดิมก็เริ่มจะไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว มีแต่ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่อาการกลับแย่ลงเรื่อย ๆ ท่านผู้อ่านหลาย ๆ ท่านคงเข้าใจเหตุการณ์นี้ดีใช่ไหมครับ
.
เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ส่วนนั้นของเรา แต่อยู่ในสมองของเราต่างหาก
.