ส่วนที่นักวิจารณ์ยังคงเบลมอยู่ก็คือ ลักษณะทางกายภาพอาจจะไม่ได้เหมาะกับสรีระหูของทุกคน ระบบ Noise cancellation(ตัดเสียงรบกวน) ยังไม่ค่อยเวิร์คมาก ทั้งยังไม่รองรับการเชื่อมต่อพร้อมกันกับโทรศัพท์หรืออุปกรณ์เล่นเสียง 2 เครื่อง รวมถึงระบบสั่งการ “Siri” ยังถือว่าช้าที่สำคัญทำงานกับระบบปฏิบัติการ iOS และ MacOS เท่านั้น (iPhone 8 or later and iPod touch (7th generation) with the latest version of iOS; and 12.9-inch iPad Pro (2nd generation or later), 11-inch iPad Pro, 10.5-inch iPad Pro, iPad (5th generation or later), iPad Air (3rd generation), and iPad mini (5th generation) with the latest version of iPadOS.)
มาถึงพระเอกของเรา Google Pixel Bud2
น้ำหนัก : ยังไม่เปิดเผย
ขนาดของเคส : ยังไม่เปิดเผย
แบตเตอรี่ : 5 ชั่วโมงต่อเนื่อง
ราคา : 179 USD
ครั้งหนึ่ง Hiroshi Lockheimer Google Senior Vice President และหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้ง Google Android team ได้ทวิตว่า หูฟังไร้สายที่เพอร์เฟ็คสำหรับเขาจะต้องมีคุณบัติดังนี้
Hiroshi's Tweet
1.เสียงดี
2.อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมงขึ้นไปโดยไม่ต้องชาร์ต
3.เคสใส่หูฟังต้องไม่ใหญ่จนเกินไปและพอดีสำหรับที่จะใส่กระเป๋ากางเกง และต้องมี USB ไทป์ C
ต้องบอกว่าถ้าทำได้จริงยอดขายคงจะถล่มทลายเพราะมันดูเป็นหูฟังไร้สายที่เพอร์เฟ็คจริงๆ ทีนี้กลับมาดูเจ้า Google Pixel Bud Ver.2 กันหน่อยดีกว่าว่าสามารถทำได้กี่ข้อตามที่คุณ Hiroshi แนะนำ
Google ได้นิยาม Pixel Bud 2 ว่าเป็น ประสบการณ์ที่เข้ามาหาผู้ใช้ พูดง่ายๆว่าผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไร แต่ทาง Google ได้เซ็ทระบบที่ตอบสนองต่อการสั่งการด้วยเสียงเอาไว้หมดแล้วนันเอง ทีนี้ถามว่ามันสั่งการด้วยเสียงอย่างไร ง่ายๆว่าเราแค่พูดว่า “Hey Google” ระบบ Google Assistant จะทำงานทันทีโดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเปิดมือถือมากดๆ ด้วยซ้ำ(แต่จริงๆก็คล้ายๆกับที่ Apple มี Siri เหมือนกัน)