Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Business Decode - ถอดรหัสธุรกิจ
•
ติดตาม
26 ต.ค. 2019 เวลา 14:00 • ธุรกิจ
เปิดตัวได้ยังไม่ถึง 2 เดือน ยอดขาย iPhone 11 + iPhone 11 Pro ก็ถล่มทลาย คิดเป็นสัดส่วนรายได้จากการขาย iPhone ทั้งไตรมาสถึง 11%
เพราะกลยุทธ์ด้านราคาของ Apple รอบนี้ที่หวือหวาขึ้นมาก
หลังจากปีก่อนพลาด ตั้งราคาแพงเว่อ
ปีนี้ Apple เลยปรับกลยุทธ์ใหม่ คือ
1. ต้องการ Market Share เพิ่ม โดยการลด cost of ownership ลง กำไรการขาย device อาจจะลดลง แต่
2. Apple กำลัง Remodeling ธุรกิจตัวเอง จากขายของสร้างรายได้ครั้งเดียวแล้วจบ มาเป็นการขายของเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Revenue)
เพื่อให้เติบโตทดแทนกำไรที่ลดลงจาก Hardware
ยิ่งมี device เยอะ ก็ยิ่งมีโอกาสขยายตรงนี้ได้อีกมาก
เหมือนที่โกนหนวดถูกลง แต่ลูกค้าต้องซื้อใบมีดโกนตลอดไป
Recurring Revenue ของ Apple ตอนนี้มี
- iCloud
- Apple Music
- iTunes Match
- Apple News+
- Apple TV+
- Apple Books
- Apple Care Plus
- Apple Arcade
- Apple Developer Program
Transactional Revenue
- Apple Pay
- Apple Card
- iTunes (Movies/Music)
- App Store + Mac App Store (มี recurring บางแอพด้วย)
ก่อนเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ ยอดขาย iPhone ตกเยอะมาก
แต่สังเกตมั้ยครับว่า งบการเงินที่ออกมาถือว่าดีกว่าที่คนทั่วไปคิด คู่แข่งรายอื่น ถ้ายอดขายเครื่องตก รายได้มีทรุดทั้งบริษัท
แต่ Apple ไม่ได้เป็นแบบนั้นเพราะมันมีรายได้ส่วน Service ที่โตวันโตคืน เข้ามาดึงรายได้รวมขึ้น
ถ้า breakdown รายได้ของ Apple ตอนนี้ส่วนของ Service อยู่ที่ 21% แล้ว (เท่ากับ Mac+Accessories+Watch+Home Device รวมกัน) และรายได้ส่วนนี้โตปีละกว่า 13%
จากรายงานยอดขายสมาร์ทโฟนของ Gartner พบว่า
ยอดขายสมาร์ทโฟนลดลง 2 ไตรมาสติดกัน
แม้ว่าผู้ผลิตแต่ละรายพยายามอัดฟีเจอร์เต็มที่เพื่อให้ลูกค้าซื้อใช้แทนเครื่องเดิม
แต่เทรนด์ที่เกิดขึ้น คือ คนเปลี่ยนมือถือใหม่กันน้อยลง
เพราะแต่ละปีไม่ค่อยมีอะไรแตกต่างกับรุ่นเดิมมากนัก
แต่รายได้ recurring ของ Apple ยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่เปลี่ยนมือถือใหม่เลยก็ตาม
เท่ากับว่า iPhone 1 เครื่อง ไม่ได้มีแค่รายจากการขายเครื่องอย่างเดียว แต่ Customer Lifetime Value สูงกว่านั้นมาก
ถ้าสังเกต price plan ของ iPhone ในอเมริกา
จะเห็นว่า มีโมเดลการจ่ายค่าเครื่องรายเดือน แล้วครบปีก็เปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ได้เรื่อยๆทุก 12 เดือน
เรียกว่า iPhone Upgrade Program
เหมือนเช่า iPhone จาก Apple ซึ่งก็เป็น recurring revenue อีกทางเลือกนอกจากการขายขาด
iPhone อาจจะไม่ได้เป็นผู้นำในวงการมือถือเหมือนแต่ก่อน การเปิดตัว iPhone รอบนี้เห็นชัดเจน คือ การเน้นขายกล้อง ตามมือถือแบรนด์อื่นๆ
แต่สิ่งที่อยู่เบื้องหลังและเป็นพระเอกจริงๆ คือ การ shift ของ Business Model จากขายของแบบเดิม ไปสู่การสร้าง Recurring Revenue แบบจ่ายค่าเช่าบริการต่างๆแทน
ของแบบนี้ไม่ใช่ว่าคิดแล้วอยู่ๆจะเนรมิตทำได้เลย
ต้องวางแผนมานานพอสมควร ทั้งการดีลเพลง หนัง เกม
การพัฒนาแพลตฟอร์ม วิธีการเก็บเงินในรูปแบบต่างๆ ที่ล้วนใช้เวลา
แม้จะถูกแซะเยอะจากแบรนด์คู่แข่ง
แต่เรื่องนี้ Apple ถือว่านำหน้าคู่แข่งพอสมควร ทั้ง Ecosystem และ Business Model
ณ ตอนนี้ Samsung, Huawei, Oppo ยังเป็นได้แค่คนผลิตที่โกนหนวด ไม่สามารถสร้างรายได้จากบริการต่างๆที่เพิ่มจากการขายเครื่องได้
แต่ Google นี่แหละ คนผลิตใบมีดโกนขายตัวจริงฝั่ง Android
มีบริการทุกอย่างที่ชนกับ Apple แต่ก็ยังตามหลังอยู่หลายก้าว บริการบางตัวจำกัดอยู่เฉพาะในอเมริกา
น่าเสียดายที่ Apple ให้ไม่สุด ควรแถม Apple TV+ กับ Apple Music ให้ใช้ฟรีซักปี
จะได้มีแรงจูงใจให้เปลี่ยนเครื่องใหม่ 55
แต่เท่านี้ก็เห็นได้ชัดเจนแล้วว่า iPhone เป็นโทรศัพท์ที่คนต้องการ อยากได้มาก แม้มันจะไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
หน้าตาก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือกล้องชาไข่มุกด้านหลัง
พอกลับมาขายราคาที่คนคิดว่าเหมาะสม ดีมานด์ก็กลับมาทันที
ถึงจะโดนแซะเยอะ แต่ก็ยังขายได้ดี แถมมีรายได้จากบริการต่างๆด้วย
ปีนี้ น่าจะเป็นปีที่ Tim Cook กลับมายิ้มได้อีกครั้งหลังจากปีก่อน ดูเครียดๆ 😅
(รูปจาก AndroidAuthority.com)
35 บันทึก
158
17
50
35
158
17
50
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย