27 ต.ค. 2019 เวลา 02:38 • ปรัชญา
ผมเคยโดนบอกเลิกตอนผมเป็นหมออยู่ในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งครับ
ตอนนั้น ผมวนอยู่วอร์ดศัลยกรรม
ชีวิตไม่มีอะไรมากเลยครับ
ราวน์ดูคนไข้ตอนเช้าเวลา 7 โมง
ราวน์ดูคนไข้ตอนเย็นประมาณ 4-5 โมง
กลางวันระหว่างราวน์แล้วแต่ตาราง เข้าห้องผ่าตัดสลับกับออกตรวจผู้ป่วยนอก
กลางคืน... อยู่เวร คืนเว้นคืน
การอยู่เวรของหมอเนี่ย ก็คือ ทำงานเช้าปกติ อยู่เวรต่อตอนกลางคืน แล้วทำงานต่อตอนเช้าจนหมดวัน
รวมๆ แล้ว ก็ ... ... 36 ชั่วโมง
เวลาจะให้ตัวเองยังไม่ค่อยมีครับ
แต่เย็นวันที่ไม่ได้อยู่เวร ผมขับรถกลับไปหาแฟนที่เชียงใหม่
เคยขับรถลงข้างทางทีนึง ... มันหลับในอะครับ
พอดีเพื่อนที่นั่งอยู่ด้วยตกใจ กรีสดังสนั่นหวั่นไหว
ผมเลยตื่นซะก่อน ... ไม่มีใครตาย
คืนหนึ่ง ตอนประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง
ผมอยู่เวร ใส่ชุดเขียว อยู่ในห้องผ่าตัด
เพิ่งเสร็จเคสผ่าไส้ติ่ง ที่มันต่อๆๆๆ กันมาหลายเคสตั้งแต่หมดเวลาราชการ
ก็รีบโทรหาแฟน เพราะคิดถึงมาก กลัวเค้าจะงอนที่เมื่อเย็นไม่ได้โทรหา
...แล้วผมก็โดนบอกเลิกทางโทรศัพท์...
เหตุผลคือ เค้ารู้สึกว่าเค้าอยากอยู่กับครอบครัวมากกว่า
1
ผมวางสายโทรศัพท์
จ้องมันแบบไม่เข้าใจ
แล้วน้ำตาหยดนึง ก็หยดใส่หน้าจอ
ตามด้วยน้ำตาอีกหยดนึง
และอีกหยดนึง
1
ก่อนจะมีเสียงพี่พยาบาลห้องผ่าตัดเรียกผม
“หมอเจ้า เคสต่อไปมาละหนาเจ้า”
ผมหันไปมองพี่พยาบาลแบบงงๆ
“หมอกลางงงงงงง ไห้ยะหยัง” พี่พยาบาลตกใจ “เป็นอะหยังงงงง ”
ผมปาดน้ำตา
มองชุดเขียวที่ตัวเองใส่อยู่
มองเตียงคนไข้ที่เค้ากำลังเข็นกันเข้าไปในห้องผ่าตัด
แล้วตอบกลับไปว่า “ไม่ได้เป็นไรพี่”
แล้วลุกขึ้นผ่าต่อ
ปรากฎว่าเวรคืนนั้นหนักหน่วงมาก
ผมเดินกลับไปกลับมาระหว่างวอร์ดกับห้องผ่าตัดแบบ non stop
มีเคสที่ต้องเซตผ่าต่อเหมือนคนป่วยมาทั้งจังหวัด
หลายครั้งที่ผมกรีดมีดผ่านผิวหนัง ใช้เคาเทอรี่จี้กรีดผ่านชั้นไขมัน เลาะลงไปจนเข้าสู่ช่องท้องคนไข้ ควานหาไส้ติ่งที่อักเสบ งัดมันขึ้นมา ตัดมัดจี้มันให้จบๆ
...ผมก็คิดถึงคนที่เพิ่งบอกเลิกผมขึ้นมา ... แล้วร้องไห้
ร้องไห้อยุใต้ผ้าปิดปากเงียบๆ
มือทำงานไปด้วย สมองสั่งมือไปด้วย
ใจก็คิดถึงเค้าไปด้วย ตาร้องไห้ไปด้วย
วันนั้น กว่าจะเสร็จทุกเคส ... ไก่ก็ขันรับอรุณแล้วครับ
ผมเดินกลับห้องพักแบบไม่เข้าใจว่า ผมมาทำอะไรอยู่ที่นี่
เมื่อกี๊ ผมทำงานต่อไปได้ยังไง ทั้งๆ ที่ถ้าเป็นตอน ม. ปลาย ผมคงโดดเรียนไปละ
แต่ด้วยอะไรก็เหอะ ผมยังต้องทำงานต่อ
#ใหญ่แล้วอดเอา
#หมอก็มีหัวใจแต่คนไข้หวังพึ่งเรานะ
ปล. เรื่องนี้ผ่านมาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว
แล้วมันทำให้ผมเข้มแข็งขึ้นมาก
ก้าวกระโดดจากการเป็นเด็กน้อยที่เรื่องรักเป็นเรื่องใหญ่
กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ว่าชีวิตรักจะหนักแค่ไหน ก็ต้องทำงานให้ Professional จนจบให้ได้ครับ
โฆษณา