29 ต.ค. 2019 เวลา 06:15 • บันเทิง
"วันเวลาที่เธอมอบให้ สำหรับฉันคือสมบัติล้ำค่าเลยนะ"
and the review goes to.. ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเธอนะ part 2/2
สวัสดีทุกท่าน ต่อจากโพสที่แล้ว โพสนี้ขอเสนออารมณ์ความรู้สึกและข้อคิดดี ๆ หลังจากดูหนังเรื่อง “ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเธอนะ” จบครับ
ซึ่งหนังเรื่องนี้ให้อะไรกับผมเยอะมาก และเป็นโพสที่อธิบายว่าทำไมผมถึงยกให้เป็นหนังที่เติมพลังให้ชีวิต
โพสมีสปอยเนื้อหาในหนังด้วยนะครับ หรือถ้าใครไม่ซีเรียสก็อ่านได้เลย
สำหรับโพสนี้ผมขอแทนชื่อพระเอกว่า "ฮารุกิ" และนางเอกคือ "ซากุระ" นะครับ เริ่มกันเลย
1. ทุกคนมีหนึ่งวันเท่ากัน
ฉากในห้องสมุดที่ฮารุกิคุยกับซากุระว่าเธอกำลังจะตายแต่ทำไมไม่ไปใช้ชีวิตอย่างที่อยากทำหรือไปอยู่กับคนที่รักให้เต็มที่ ซากุระตอบกลับฮารุกิว่า “จะฉันหรือเธอ หนึ่งวันของเราก็มีค่าเท่ากันนะ”
หลังจากได้ฟังประโยคนี้ผมก็รู้สึกอึดอัดไปเลย ซากุระกำลังจะบอกว่าคนปกติที่คิดว่าพรุ่งนี้ยังไม่สายที่จะทำอะไรสักอย่างกับคนที่กำลังจะตายในอีกไม่กี่ปี ความต่างก็แค่การมองเห็น “เส้นตายของชีวิต” เท่านั้น
ซึ่งในความเป็นจริงเส้นตายนี้ถูกขีดไว้แล้วสำหรับทุกคน
การจากไปของซากุระยิ่งตอกย้ำถึงความจริงข้อนี้ ความตายไม่ใช่อะไรที่ "ไว้ใจได้" แม้กระทั่งคนที่ป่วยกำลังจะตายก็ตาม เมื่อมันมาถึงทุกอย่างจะสายไปเสมอ
การใช้เวลาทุกวันให้รู้สึกคุ้มค่าไม่ใช่เรื่องที่ต้องรู้ว่าตัวเอง “กำลังจะตาย” ถึงจะเริ่มแต่เป็นสิ่งที่ควรทำในทุกวัน
และตัวซากุระเองก็กำลังใช้เวลาของเธออย่างคุ้มค่าโดยการเข้ามาอยู่ในชีวิตของคนที่เธอรัก เพียงแค่ฮารุกิยังไม่รู้ตัวเท่านั้น
2. โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญ
อีกหนึ่งฉากที่ทำให้ผมรักหนังเรื่องนี้คือมุมมองของซากุระต่อความ “บังเอิญ” ที่ใครหลายคนมองว่าเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
ซากุระบอกกับฮารุกิว่า “โลกนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอก ทั้งหมดคือความตั้งใจของเราไม่ใช่เหรอ”
ไม่ว่าจะเป็นการพบกัน การได้มาเรียนรู้กันและกัน รวมถึงการจากกัน ทั้งหมดเริ่มจากตัวเราเอง เราทั้งคู่ตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างซึ่งสิ่งนั้นนำพาเรามาพบกัน เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
1
มุมมองของซากุระเปิดโลกทัศน์ให้กับผมเลย ซึ่งผมเองไม่เคยคิดมุมนี้เลย และมองว่ามันใช่จริง ๆ
การที่ถูกรางวัลเริ่มจากตั้งใจจะซื้อรางวัล การได้งานเริ่มจากตั้งใจที่จะสมัครงาน ความตั้งใจที่นำไปสู่ผลลัพธ์นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ซึ่งหนังก็ทิ้งความจริงเรื่องนี้ไว้อย่างในฉากที่ฮารุกิเจอสมุดบันทึกของซากุระตกอยู่ ถ้าซากุระเดินไปเอาสมุดคืนเฉย ๆ ทุกอย่างก็จบ แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มต้นก็เพราะซากุระสนใจในตัวฮารุกิและตั้งใจจะทำความรู้จักกับฮารุกิอยู่ก่อนแล้ว
3. ชีวิตคือการเปิดใจให้ใครสักคน
คือคำตอบของซากุระที่มอบให้ฮารุกิในฉากที่เขาถามเธอว่า "สำหรับเธอ ชีวิตคืออะไร"
คำตอบของซากุระในตอนนั้นผมยังไม่ได้คิดอะไรเลย คิดว่าเป็นคำตอบที่ดีคำตอบนึงเท่านั้น แต่เมื่อดูหนังจบได้กลับมาคิดถึงเรื่องราวของทั้งสองคนที่เกิดขึ้นผมถึงได้รู้ว่าคำตอบของซากุระมีความหมายลึกซึ้งเหลือเกิน
เพราะเป็นคำตอบที่มอบให้กับคนที่ "หนีสังคม" อย่างฮารุกินั่นเอง
ซึ่งก่อนหน้านี้ฮารุกิเป็นคนไม่มีเพื่อน ก้มหน้าอ่านหนังสือทั้งวัน ไปไหนมาไหนคนเดียว จนวันที่ซากุระเข้ามาในชีวิตของเขา ค่อย ๆ เข้ามาทีละนิด จากตอนแรกฮารุกิพยายามที่จะไม่ยุ่งกับซากุระ แต่ซากุระก็พยายามจนทั้งคู่กลายมาเป็นคนสนิทกัน
เมื่อซากุระให้ความสำคัญกับฮารุกิจึงทำให้เขาถูกจับตามองเป็นพิเศษ มีคนเข้ามาหาเขาด้วยอารมณ์มากมาย ทั้งหึงหวง อิจฉา และหวังดี
คนเหล่านี้ที่เข้ามาทำให้ฮารุกิได้รู้จักการ "มีอารมณ์ร่วมกับผู้คน" เปรียบเสมือนรสชาติใหม่ ๆ ของชีวิตที่หาไม่ได้จากการเก็บตัวอยู่คนเดียว
นั่นคือการที่ซากุระใช้ "ช่วงชีวิตสุดท้าย" ของเธออย่างคุ้มค่า โดยใช้มันเพื่อสอนฮารุกิถึงความหมายของชีวิต
หนังทั้งเรื่องเหมือนถูกสรุปไว้ในประโยคเดียวของคำตอบที่ซากุระมอบให้ฮารุกิ โดยมอบให้ทั้ง "คำพูด" และ "การกระทำ" ของเธอ คำตอบของเธอมีอยู่ว่า
"การเปิดใจให้ใครสักคนนั่นแหละคือชีวิต ตัวคนเดียวไม่รู้หรอกว่าชีวิตเป็นอย่างไร ชอบแต่ก็เกลียด สนุกแต่ก็อึดอัด ความน่ารำคาญทั้งหลายที่ต้องข้องเกี่ยวกับคนอื่น นั่นแหละที่ทำให้รู้ว่าฉันยังมีลมหายใจ"
และในฉากสุดท้าย ข้อความในจดหมายที่ซากุระทิ้งไว้ให้ฮารุกิ บอกให้เขาใช้ชีวิตและส่งต่อความรู้สึกที่ดีให้กับผู้คนต่อไป เป็นฉากจบที่ประทับใจมากจริง ๆ
นี่คือความรู้สึกดี ๆ ที่หนังมอบให้ครับ ซึ่งเป็นแค่ด้านที่ฮารุกิได้รับจากซากุระเท่านั้น มีอะไรที่นำมาพูดถึงได้เยอะแยะไปหมด และบทความนี้พยายามจะสื่อออกมาว่าผมรักหนังเรื่องนี้มากแค่ไหน
การจากไปของซากุระที่เป็นเชื้อเพลิงให้ฮารุกิได้ออกมาใช้ชีวิตนั้นสามารถเป็นเชื้อเพลิงให้กับใครหลายคน รวมถึงผมเองด้วย ผมเชื่อแบบนั้นนะ
และสุดท้ายก็ขอให้ทุกท่านใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างคุ้มค่าและไม่เสียใจภายหลังนะครับ
สำหรับใครที่กดเข้ามาไม่ว่าจะกดเข้ามาเฉย ๆ อ่านผ่าน ๆ หรืออ่านจนจบ ผมต้องขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้นะครับ
แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ
โฆษณา