30 ต.ค. 2019 เวลา 05:05 • ประวัติศาสตร์
ฉลองเปิดเพจและเปิดแฟ้มคดีเรื่องเล่าอันหน้ากลัวในวัน ฮาโลวีล กับฆาตกรรมต่อเนื่อง
นายเท็ด บันดี้ ถือเป็นหนึ่งในฆาตกรที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในศตวรรษที่ 20 เขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่ก่อเหตุข่มขืน และลักพาตัวหญิงสาวและเด็กหญิงในช่วงปี 1970 โดยที่เขามักจะเข้าไปหาหญิงสาวตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และหลอกล่อเหยื่อให้ไปในที่เปลี่ยว ก่อนที่เขาจะล่วงละเมิดทางเพศและฆ่าเหยื่อ เขาจัดการตัดหัวเหยื่ออย่างน้อย 12 คนและเก็บศีรษะเอาไว้ในอพาร์ทเม้นท์ เปรียบเสมือนกับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
นายเท็ด บันดี้ ถูกจับกุมบ่อยครั้ง แต่เขาสามารถแหกคุกแหกศาลออกมาได้ถึง 2 ครั้ง และก่อเหตุฆาตกรรมอีก 3 ศพ และเนื่องจากนายเท็ด บันดี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมหลายศพ เขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้าเมื่อปี 1989 
รู้จักกับ เท็ด บันดี้ ฆาตกรต่อเนื่องสุดโฉด แต่กลับมีผู้ปลาบปลื้มและเป็นแรงบันดาลใจ ให้หนังฆาตกรต่อเนื่องอีกหลายเรื่อง พร้อมเปิดพฤติกรรมใช้ท่าทางดูดี นุ่มนวล ลวงเหยื่อฆ่า
นายเท็ด บันดี้ (Ted Bundy) ฆาตกรต่อเนื่องที่ฉาวโฉ่ที่สุดของสหรัฐฯ ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งเรื่องราวของเขาได้สร้างแรงบันดาลใจของนิยายรวมถึงภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเมื่อประกอบกับความหล่อเหล่านุ่มนวลของชายคนนี้ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในอาชญากรที่มีแฟนคลับมากที่สุดในประวัติศาสตร์อาชญากรรม
สำหรับ เท็ด บันดี้ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2489 ในเมืองเบอร์ลิงตัน รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐฯ ชีวิตวัยเด็กของเขาเติบโตมาพร้อมกับพ่อ แม่ และพี่สาว ในครอบครัวที่เคร่งครัดศาสนา ก่อนความจริงจะปรากฏว่าผู้ที่เขาคิดว่าเป็นพ่อแม่มาตลอด กลับเป็นตาและยาย ส่วน เอเลนอร์ โคเวลล์ ผู้เป็นพี่สาวต่างหาก คือแม่แท้ ๆ ของเขา ซึ่งตัดสินใจปกปิดความจริงเอาไว้เพราะไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าตัวเธอท้องลูกไม่มีพ่อ
จากนั้นในปี 2494 เอเลนอร์ก็ได้แต่งงานกับ จอห์นนี่ บันดี้ ซึ่งนามสกุลบันดี้ของเท็ด ก็ได้มาจากพ่อเลี้ยงของเขานี่เอง เอเลนอร์และจอห์นนี่ใช้ชีวิตครอบครัวกันอย่างมีความสุข และมีลูกที่น่ารักด้วยกันอีกหลายคน เป็นครอบครัวชนชั้นแรงงานแสนอบอุ่น ที่เท็ดบอกเองว่าเขาได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี ไม่เคยถูกล่วงละเมิดในครอบครัว
อย่างไรก็ตามด้านมืดในใจของเท็ดเริ่มพอกพูนขึ้นตรงข้ามกับฉากนอกที่เป็นนักเรียนตัวอย่าง สุภาพและฉลาดเฉลียว เขาจบการศึกษาด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยในวอชิงตัน ที่ซึ่งได้พบรักกับเด็กสาวหน้าตาดี ฐานะร่ำรวยจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อนที่ความสัมพันธ์นั้นจะจบลง จากนั้นเขาได้เข้าเรียนต่อด้านกฎหมายในรัฐยูทาห์ ก่อนจะเดินหน้าเข้าสู่แวดวงการเมือง
ในช่วงเวลาระหว่างนั้นมีเด็กสาวหน้าตาดีจำนวนมากที่หายตัวไป โดยมีหลายคนเชื่อว่าเท็ดน่าจะก่อเหตุลักพาตัวและฆ่า แอนน์ มาเรีย เบอร์ วัย 8 ขวบ ขณะที่เขายังเป็นเพียงวัยรุ่น แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น แล้วอ้างว่าการลงมือฆ่าครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นในปี 2517 ขณะที่มีอายุ 27 ปี โดยเหยื่อรายแรกก็คือ ลินดา แอนน์ ฮีลลี นักศึกษาหญิงที่ถูกลงมือทำร้ายร่างกายและฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ก่อนที่ไม่กี่เดือนต่อมาเขาจะลงมือล่วงละเมิดทางเพศและทำร้ายเหยื่ออีกราย ซึ่งแม้เหยื่อรายนี้จะรอดไปได้ แต่ก็ต้องพิการตลอดชีวิต
จากฐานข้อมูลอย่างเป็นทางการระบุว่า เท็ด บันดี้ มีความเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมโหด 36 ราย (แม้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเหยื่อของเขาจริง ๆ น่าจะมีถึงร้อยราย) โดยพฤติกรรมการลงมือของเขา มักจะเข้าไปหาหญิงสาวตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ และใช้ท่าทีสุภาพอย่างผู้ดี ลักษณะที่มีเสน่ห์ของตัวเอง หลอกล่อเหยื่อให้ไปในที่เปลี่ยว ก่อนที่จะล่วงละเมิดทางเพศและฆ่า เขาจัดการตัดหัวเหยื่ออย่างน้อย 12 คนและเก็บศีรษะเอาไว้ในอพาร์ทเม้นต์ เปรียบเสมือนกับรางวัลแห่งความภาคภูมิใจเหยื่อส่วนมากถูกเขาซ้อมอย่างหนักจนตาย บางรายถูกทรมานจากสิ่งของรอบตัวในที่เกิดเหตุ
ในครั้งหนึ่งเขาได้ล่อลวงหญิงสาว 2 คนที่ริมชายหาด ตอนกลางวันแสก ๆ โดยแสร้งทำทีเป็นบาดเจ็บและขอความช่วยเหลือจากพวกเธอ ก่อนที่พวกเธอจะหายตัวไป โดยมีพยานในที่เกิดเหตุให้ข้อมูลกับตำรวจว่าพบเห็นพวกเธอพูดคุยอยู่กับชายหนุ่มผมดำชื่อเท็ด ที่แขนใส่เฝือก ซึ่งเมื่อตำรวจสเก็ตช์ภาพคนร้ายออกมา ก็มีอดีตเพื่อนร่วมงานของเท็ดที่จำเขาได้ แต่ทางตำรวจเลือกที่จะมองผ่านเขาไป เพราะคิดว่าคนหนุ่มหน้าตาดีอนาคตไกล ประวัติขาวสะอาดรายนี้ ไม่น่าที่จะฆ่าใครได้
นับจากนั้นยังมีเหยื่ออีกหลายรายที่ถูก เท็ด บันดี้ ลักพาตัว ล่วงละเมิดทางเพศ และสังหารด้วยวิธีเหี้ยมโหด มีเหยื่อบางคนหลุดรอดมือเขาไปได้ ทำให้เขาถูกดำเนินคดีฐานลักพาตัวในปี 2518 แต่เขาก็รอดมาได้ ก่อนถูกจับอีกครั้งในข้อหาฆาตกรรมเมื่อตำรวจมีหลักฐานพอจะเชื่อมโยงเขากับเหยื่อคนก่อนหน้า ทว่าเขาสามารถแหกคุกแหกศาลออกมาได้ถึง 2 ครั้ง และก่อเหตุฆาตกรรมอีก 3 ศพ ซึ่งเนื่องจากนายเท็ด บันดี้ ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมหลายศพ เขาจึงถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยเก้าอี้ไฟฟ้า ในวันที่ 24 มกราคม 2532 ปิดฉากฆาตกรต่อเนื่องสุดฉาวโฉ่รายนี้
สำหรับภาพยนตร์และซีรีส์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เท็ด บันดี้ เช่น อาทิ Ted Bundy, ซีรีส์เรื่อง The Deliberate Stranger รวมถึงภาพยนตร์เรื่อง Extremely Wicked, Shockingly Evil and Vile ที่กำลังจะสร้าง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา