31 ต.ค. 2019 เวลา 01:26 • ประวัติศาสตร์
ไขความหมายสุดอาวรณ์ เพลง ...ก่อน โมเดิร์นด็อก
2
ถ้าผมบอกว่า โมเดิร์นด็อกไม่ได้เป็นคนแต่งเพลง ...ก่อน
เพลงแจ้งเกิดอันทำให้พวกเขาโด่งดังเป็นพลุแตก ที่ไม่ว่าใครก็ร้องตามได้เพียงการฟังครั้งแรก แต่โมเดิร์นด็อกคือผู้นำมันมาขับร้อง
และถ้าความหมายของเพลง ...ก่อน แท้จริงแล้วมาจากความตายอันน่าเศร้าของแฟนเพลง มันคงทำให้ท่านผู้อ่านเข้าถึงบทเพลง หนาวเหน็บไปทั่วสันหลังและน้ำตาไหลเบาๆ อย่างที่ผมประสบ
เมื่อผมได้รับรู้
ถึงจุดกำเนิดของมัน
ไขความหมายไปด้วยกัน ในบทความนี้ครับ
หากเราเอ่ยชื่อ พราย นักร้อง นักแต่งเพลงแนวโพรเกรสซีฟร็อค ผมเชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่น้อยคนนักที่จะรู้จักนักดนตรีสติหลุด กับการแสดงที่ทรงพลังคนนี้
ซึ่งก็ไม่แปลก เพราะวงการดนตรีไทยตั้งแต่ยุค 80 เป็นต้นมา ถูกวัฒนธรรมป๊อบจากฝั่งตะวันตกเข้ามาผสมปนเป จนทำให้ค่านิยมการฟังดนตรีของบ้านเราเปลี่ยนไป
ไล่เรียงมาตั้งแต่วงแกรนด์ เอ็กซ์ (ดิสโก้ป๊อบ,สตริง) ที่เก่งในด้านนำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่ให้ทำนองดิสโก้น่าโยกมากขึ้น, นูโว กับจังหวะซินธ์ป๊อบสนุกๆของพวกเขา หรือกระทั่งป๋าเบิร์ดที่มาในสไตล์สโลว์ป๊อบในระยะแรก ก่อนจะปรับมาเป็นป๊อบแดนซ์ในเวลาต่อมา
1
ลากยาวไปถึงห้วงปี 2000 กว่า 20 ปี ดนตรีป๊อบที่ผลิตโดยสองค่ายยักษ์ใหญ่ผลิบานถึงขีดสุด แทบไม่มีพื้นที่ให้ดนตรีแนวอื่นเลย
จนกระทั่งการมาถึงของเด็กหนุ่มจากรั้ว ม.กรุงเทพ ชื่อ ปฐมพร ปฐมพร (พี่แกใช้ชื่อจริงกับนามสกุลเดียวกันครับ)
1
ปฐมพรเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาร่ำเรียนในเมืองหลวง หวังคว้าใบปริญญาเป็นหน้าเป็นตาให้แก่วงศ์ตระกูล ด้านการเรียนปฐมพรทำได้ดี แต่ที่ดียิ่งกว่า คือพรสวรรค์ทางด้านดนตรี โดยเฉพาะการประพันธ์คำร้องที่สวยงามราวกับหลุดมาจากวรรณคดี
2
เขาก่อตั้งวงแรกในชีวิตชื่อวง GAY ร่วมกับ พิเชษฐ์ นิ่มสุวรรณ มือกีตาร์ และ สมประสงค์ หมีปาน มือกลอง ทั้งสามร่วมกันทำเพลงเดินสายประกวดหลายงาน จนฉายแววเข้าตาค่ายดนตรี สโมสรผึ้งน้อย ที่มี อัสนี โชติกุล จากวงอัสนี วสันต์ นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์
1
หลังเข้าค่าย ในปี 1987 พวกเขาเปลี่ยนชื่อวงเป็น MAY 21st เพราะวงทำเพลงกันเสร็จในวันที่ 21 พฤษภาคม และออกเดินสายแสดงสดไปทั่วกทม.
3
จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง วงไปเล่นในงานของคลื่นวิทยุไนท์สปอต ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การแสดงครั้งนั้นออกมาค่อนข้างแย่ ด้วยปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับคีย์บอร์ด คือมีเด็กมาจิ้มๆคีย์บอร์ดก่อนวงจะขึ้นเล่นจนคีย์เพี้ยน! เมื่อเล่นเสร็จสมาชิกในวงทะเลาะกันยกใหญ่ และตกลงแยกทางกันหลังจากนั้นไม่นาน
4
ต่อมาในปี 1989 ด้วยความมุ่งมั่นกับแนวทางของตนเอง ซึ่งแม้จะดูแปลกในยุคสังคมนิยมป๊อบ แต่ก็ทำให้ปฐมพรถูกเซ็นสัญญาอีกครั้งในฐานะศิลปินเดี่ยวกับค่าย รถไฟดนตรี
4
อัลบั้มแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวของ ปฐมพร ชื่อว่า "ไม่ได้มามือเปล่า" มีเพลงเอกชื่อเหมือนอัลบั้มคือ "ไม่ได้มามือเปล่า" เป็นเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง กลายเป็นคำพูดยอดฮิตของคนสมัยนั้นเวลาเจอกันว่า
"เฮ้ เราไม่ได้มามือเปล่านะ เอา ... มาฝาก"
1
ปฐมพรมีเสียงร้องปานกลาง ไม่ได้ดีเลิศเหมือนนักร้องลูกคอทองคำคนอื่น วิธีการร้องจะเน้นการระบายสิ่งที่อยู่ข้างใน ระบายอารมณ์ออกมา จนบางครั้งเหมือนกับการพร่ำบ่นเสียมากกว่า และยังชอบทาหน้าด้วยสีฟ้าเวลาขึ้นแสดง เรียกได้ว่ามีความเป็นศิลปินสูงมาก
เหตุนี้เอง เขาจึงมีคนรักเท่าผืนหนังคนชังเท่าผืนเสื่อ กล่าวคือ คนชอบก็เยอะ แต่กระแสตีกลับจากคอเพลงป๊อบในยุคนั้นก็รุนแรงเช่นเดียวกัน
"เพลงอะไรของมัน ฟังไม่รู้เรื่อง"
"ทำไมไม่ร้องให้ดี ให้เพราะ อย่างนักร้องคนอื่นเขา"
"เป็นบ้าหรือไง เอาสีมาทาหน้าทาตัว คิดว่าโก้หรือ?"
6
นักวิจารณ์ แฟนเพลง ดีเจรายการวิทยุ ประเคนคำถามทำร้ายจิตใจเหล่านี้ไปสู่ค่ายเพลงอย่างไม่หยุดหย่อน และเมื่อมันมากเข้า เขาก็ตั้งคำถามกับตนเองเช่นเดียวกัน
.
เราเกิดมาทำไม? เราเกิดมาเพื่ออยู่ในกรอบของสังคมแล้วตายจากไป หรือเราเกิดมาพร้อมกับสิทธิทางความคิดที่ไม่มีใครเข้าใจ
ถึงแม้เราจะเป็นเพียงคนเล็กๆที่ไม่สำคัญ แต่การแสดงของเราคือสิ่งจริงแท้ที่มาจากสัญชาติญาณ เรามิอาจเปลี่ยนแปลงมันได้ จะไม่มีที่ยืนในสังคมให้เราแสดงความสัตย์นี้ออกมาเลยหรือ?
1
ปฐมพรออกเดินสายทัวร์อัลบั้มแรกอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งงานแสดงสดที่ ร็อคผับ ราชเทวี อันเป็นคอนเสิร์ตสุดท้ายก่อนประกาศอำลาวงการดนตรี...
1
ปี 1991
ไม่มีใครรู้แน่ชัดถึงเหตุผลที่ทำให้ปฐมพรหวนคืนวงการ พร้อมกับวลีเด็ด "ปฐมพร ตายเป็นพราย" ซึ่งทำให้เขาเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรายนับแต่นั้น แถมทุกเพลงในอัลบั้มยังไม่มีชื่อเรียกเสียด้วย นี่ยังไม่นับการแก้ผ้าถ่ายรูปประกอบในอัลบั้มอีกนะ!
2
เช่นเคย งานของพรายถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง แต่ปฐมพรคนเดิมตายจากไปแล้ว พรายคนนี้คือนักดนตรีที่เข้มแข็ง ทั้งแนวทางการทำเพลงและสภาพจิตใจ
1
สาเหตุมาจากในช่วงที่ประกาศเลิกเล่นดนตรีและพักผ่อนอยู่นั้นเอง ได้เกิดเหตุการณ์ที่ถึอเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตของปฐมพร
ปฐมพรได้รับจดหมายจากแฟนเพลงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง บอกเล่าเรื่องราวความชอบของตนต่อตัวเขาในฐานะศิลปิน ซึ่งเธอก็มีพี่สาวอีกคน และทั้งคู่เป็นแฟนตัวยงของเขา
1
จดหมายเริ่มมาด้วยภาษาอันสวยงามในการให้กำลังใจปฐมพร แต่เมื่อเข้าถึงช่วงกลาง เด็กผู้หญิงจึงเริ่มเผยความจริงอันน่าสะเทือนใจ
เธอกล่าวโดยนัยว่า มันคงจะดีไม่น้อย หากพี่สาวของเธอจะเข้มแข็งและได้อยู่ฟังเพลงของปฐมพรอีกครั้ง
1
พี่สาวของเธอ
จากไปโดยการฆ่าตัวตาย
และนี่คือเนื้อความในจดหมายเปื้อนน้ำตาฉบับนั้น
"มันไม่สำคัญว่าพี่ (ปฐมพร) จะถูกมองว่าเป็นอย่างไร ไม่สำคัญเลย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ พี่คือคนที่ฉันบูชา
แม้ไม่เข้าใจ แต่จิตใจทั้งหมดของฉันยึดถือพี่เป็นที่พึ่ง
1
พี่คือตัวแทนของทุกๆอย่าง ที่ฉันไม่มี
ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจหรือความมั่นใจ
ทุกสิ่งที่ฉันทำอยู่ในตอนนี้ ยังไม่มีจุดหมาย ไม่รู้จุดจบ
เคยตั้งความหวัง แต่ฉันกลัว กลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะคิดถึงมัน
ฉันกลัวว่า
1
ถ้าฉันทำไม่ได้ไปไม่ถึง ฉันจะเจ็บ
เจ็บเกินกว่าจะทานทนได้
ฉันเคยเจ็บ...เจ็บจนใจมันล้า มันท้อ อยากตาย
มันสายเกินไปที่จะเรียกร้องสิ่งที่เสียไปให้กลับคืนมา
2
ทุกอย่างมันสายเกินไป พี่สาวของฉัน...
ฉันอยากจะบอกใครๆว่า การตายของเขาไม่ใช่อุบัติเหตุ
เป็นผลของอารมณ์ ความรู้สึก ความรู้สึกที่ตกต่ำที่สุด
น่าเสียดาย ก่อนที่เขาจะตัดสินใจ เขาไม่ปรึกษาฉันเลย
2
ฉันไม่ได้หวัง ว่าฉันจะพูดให้เขาคิดได้
ฉันเพียงแต่หวังให้ฉันมีโอกา่สได้บอกเธอ
ว่าพี่ปฐมพรกำลังจะกลับมา
บางที...บางทีเพราะเขาบูชาพี่มากเหลือเกิน บูชาพี่พอๆกับฉัน
ทุกอย่างคงสายเกินไปที่จะเรียกร้องเอาตอนนี้
เวลามันผ่านไปแล้ว เขาจากไปแล้ว
โดยที่เขาไม่ทันได้ชื่นชมพี่อีกครั้ง
เสียดายที่เขาลืมนึกถึงพี่ในตอนนั้น
ตอนที่อารมณ์ทุกอย่างถึงขีดสุด แต่มันก็ผ่านไปแล้ว...
1
ฉันเองก็เกือบจะทำเช่นนั้น
เพียงแต่พี่คือคนที่อยู่ส่วนลึกของจิตใจของฉัน
ทุกครั้งที่ฉันไม่มีใคร พี่คือคนนั้น...คนที่ฉันคิดถึง
1
พี่ บทเพลงของพี่คือกำลังใจของฉัน
เมื่อพี่หายไปกำลังใจของฉันมันลดน้อยลงทุกที
แม้พี่ไม่ได้แต่งเพลงให้ใครเป็นพิเศษ
แต่ฉันอยากจะบอกใครๆ ว่ามันเป็นเพลงเพื่อฉัน
แต่ฉันไม่ทำหรอก
ฉันไม่เห็นแก่ตัวขนาดนั้น เพลงของพี่เป็นของทุกคน
ทุกคนที่ไร้ความหวัง ต้องการกำลังใจ
แม้แต่พี่สาวของฉัน เขาอาจจะกำลังฟังเพลงของพี่ จากที่ใดที่หนึ่ง
ฉันขอขอบคุณพี่มากสำหรับทุกอย่าง
ฉันยังรักและบูชาพี่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด..."
ผมคงไม่ต้องบอก ว่าจดหมายฉบับนี้ส่งผลต่อจิตใจของปฐมพรมากแค่ไหน มากเพียงพอที่จะทำให้เขาลุกขึ้นยืนอีกครั้ง และเป็นกำลังใจให้กับคนที่เหลืออยู่ น้องผู้หญิงคนนั้น
เขาคว้ากีตาร์ขึ้นมา และเริ่มแต่งเพลงให้พี่น้องคู่นี้ด้วยทุกอย่างที่เขามี
"ก่อนท้องฟ้าจะสดใส ก่อนความอบอุ่นของไอแดด
ก่อนดอกไม้จะผลิบาน ก่อนความฝันอันแสนหวาน"
4
• ทุกตัวอักษร ทุกถ้อยคำร้อง หากเราลองคิดดู มันคือสิ่งที่เขาร้องบอกตัวเองและเด็กสาวคู่นั้น โดยเป็นการเปรียบเปรยว่า ถ้าหากเขารู้เรื่องนี้ก่อน หรือถ้าหากพี่สาวของเธอได้ฟังเพลงนี้ของเขาก่อน
1
และที่เจ็บปวดที่สุดคือ ถ้าหากเขาไม่ยอมแพ้หันหลังให้วงการดนตรีไปเสียก่อน อะไรก็คงแตกต่างออกไป
.
"ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา
ทำให้ดวงตาฉันเห็นความสดใส ข้างกายไม่เคยมีผู้ใด"
3
• สื่อถึงโลกดนตรีอันอ้างว้างของปฐมพร แนวเพลง การแสดงที่ไม่เคยมีใครเข้าใจ ผู้คนรุมตัดสินเขาเพียงเพราะแปลกกว่าวงดนตรีอื่นในสมัยนั้น จนความรักของแฟนเพลงที่มีเพียงน้อยนิด ก้าวเข้ามาในชีวิต
.
"จนความรักเธอเมตตา เป็นพลังให้ฉันสู้ต่อไป
บนโลกที่โหดร้าย เหลือเกิน"
4
• มันได้แปรเปลี่ยนเป็นพลัง ให้เขาตัดสินใจลุกขึ้นยืนหยัดกับมันอีกครั้ง ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เป็นเพื่อแฟนเพลงที่มีผลงานของเขาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวนำชีวิต
1
ปฐมพรแต่งเพลงนี้เก็บไว้ และหยิบเอามาร้องให้ตัวเองฟังอยู่บ่อยครั้ง มันสามารถให้กำลังใจเขาเวลาที่เจออุปสรรคในการทำงานได้อย่างน่าอัศจรรย์
4
จนกระทั่ง สุกี้-กมล สุโกศล แคลปป์ ผู้ซึ่งกำลังทำงานเป็นโปรดิวเซอร์ให้วงร็อค/กรันจ์ น้องใหม่ไฟแรงชื่อ Modern Dog ได้ยินเขาร้องเพลงนี้โดยบังเอิญในห้องซ้อม
2
ด้วยความชื่นชอบในเนื้อร้อง ทำนอง และอารมณ์เพลงเป็นอย่างมาก สุกี้ จึงเอ่ยปากขอเพลงนี้ไปให้ Modern Dog ร้อง เพราะทางวงกำลังต้องการเพลงช้าอยู่พอดี ซึ่งปฐมพรก็ยินดีมอบให้ไปขับขาน
1
และ Modern Dog ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เพลง ...ก่อน ทะยานขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่ง กลายเป็นเพลงแจ้งเกิดให้กับ Modern Dog และเป็นรากฐานให้กับดนตรีทางเลือกแนวอื่นๆมาจนถึงปัจจุบัน
2
ผู้เขียนต้องยอมรับว่า มันเป็นเรื่องยากจริงๆในการเขียนบทความชิ้นนี้ให้จบโดยที่ไม่เสียน้ำตา ถ้อยคำในบทเพลงมันช่างบาดลึกลงไปถึงจิตใจ ไม่ว่ายุคสมัยไหน ก็ยังให้ผลไม่ต่างกัน
เพลง ...ก่อนคือสัญลักษณ์แห่งความเป็นขบถนอกกรอบ และความคิดสร้างสรรค์ ในขณะเดียวกันมันยังแสดงถึงความเข้มแข็ง
หากวันใดที่ท่านเหนื่อยล้า หมดกำลังใจ
และคิดว่าตัวเองยืนอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้
ขอให้เปิดเพลงนี้ฟัง แล้วท่านจะรับรู้ได้ว่า
ยังมีคนรักในสิ่งที่ท่านทำ ในสิ่งที่ตัวท่านเป็น
4
และขอให้ท่านมีความสุขที่จะหายใจต่อไป เพื่อตัวท่านเอง และคนข้างๆท่าน ดังคำที่บอกไว้
"ทั้งวิญญาณและหัวใจ ให้เธอครอบครอง
ทั้งชีวิตให้สัญญา จะอยู่ จะสู้เพื่อเธอ"
4
เกร็ดเล็ก: เพลง...ก่อนในเวอร์ชั่นของพรายนั้น นอกจากจะมีความดิบแดด แผดเผาถึงอารมณ์ จากจดหมายอันเจ็บปวด
ยังมีเนื้อเพลงในท่อนที่ร้องว่า "ก่อนที่คนอย่างฉันจะหมดไฟ" แต่เวอร์ชั่นของพรายร้องว่า "ก่อนคนจนอย่างฉันจะหมดไฟ"
.
1
เกร็ดน้อย: ท่านผู้อ่านเคยสงสัยไหมว่าทำไมชื่อเพลง ...ก่อน จึงมี จุดสามจุดนำหน้าอยู่เสมอ
3
จุดสามจุดนั้น แทนความหมายของชีวิตสามชีวิตที่เกี่ยวโยงกันจนเกิดเป็นเพลงนี้ นั่นก็คือ ปฐมพร, เด็กสาวผู้เขี่ยนจดหมาย และพี่สาวที่ล่วงลับของเธอ
3
จุดสามจุดนั้น ยังแทนคำที่ไม่เคยถูกเขียนลงไปสามคำ ซึ่งก็คือ
เธอจากไป...ก่อน
5
- Xyclopz
โฆษณา