31 ต.ค. 2019 เวลา 04:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
TRICK or TREAT : ทำไมหมอดูทายแม่นจัง ???
ผมเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงเท่าไหร่
แต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนเชื่อเรื่องดวงรวมถึงเชื่อเรื่องการทำนายด้วย
ถึงจะไม่เชื่อเรื่องดวงหรือการทำนาย
แต่มันก็น่าสนใจว่าการทำนายมีหลักการอย่างไรที่ทำให้เราเชื่อถือได้
ผมว่าหลักการบางอย่างของการทำนายมีดังนี้
1. Barnum Effect(หรือ Forer Effect)
2. Cold Reading
3. Pygmalion Effect
(จริงๆมีอีกหลายข้อ แต่เกรงว่าจะเขียนไม่หมด)
1. Barnum Effect หรือ Forer Effect
Barnum เป็นชื่อนักต้มตุ๋น
ส่วน Forer เป็นนักจิตวิทยา
หลักการของทั้งคู่เหมือนๆกันก็คือ we've got something for everyone
แปลง่ายๆว่ามันจะมีประโยคบางประโยคที่ใช้ได้กับทุกคน
2
Forer บิดาแห่งการเดาลักษณะคน
Forer เคยทำการทดลองโดยบอกนักศึกษา 39 คนว่า
จะวิเคราะห์นิสัยเฉพาะตัวของแต่ละคน
และให้แต่ละคนตอบว่าตรงแค่ไหนตั้งแต่ 0-5 คะแนน
โดยมีทั้งหมด 12 ข้อ
ผลปรากฏว่าคะแนนเฉลี่ยคือ 4.26 คะแนน
(เต็ม 5 คะแนน)
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ แบบทดสอบของทั้ง 39 คนนั้น
เขียนเหมือนกันทั้งหมด !!!
หรือแปลว่ามันคือข้อความที่ใช้ได้ผลดีกับนักศึกษาทั้ง 39 คน
ผมยกตัวอย่างแค่บางข้อ เช่น
- ความมั่นคงเป็นเป้าหมายหลักอย่างนึงในชีวิต
- ความฝันบางอย่างของคุณดูจะเป็นไปไม่ได้
- คุณภูมิใจที่เป็นมีความคิดเป็นของตัวเอง และไม่ยอมรับความคิดเห็นที่ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ
ฯลฯ
ซึ่ง 12 ข้อนี้ Forer ไม่ได้เอามาจากไหนเลย
แต่ตัดมาจากหนังสือทำนายดวงนี่แหละ = ="
งานวิจัยเพิ่มเติมบอกว่า
Forer effect จะได้ผลดีเมื่อมี 3 ปัจจัยเหล่านี้
1. เชื่อว่าคำทำนายเจาะจงเฉพาะตัวเรา
2. เชื่อมั่นในตัวผู้ทำนาย
3. เป็นคำนายในแง่บวก
เพราะเราคงไม่ชอบคำทำนายแบบโดนด่า เช่น
เป็นคนไม่ซื่อสัตย์ มักเอาเปรียบคนอื่นเป็นบางครั้ง และชอบคบคนที่ผลประโยชน์
แบบนี้เราก็มักจะไม่ยอมรับ แม้ว่าจะเป็นความจริงก็ตาม
2. Cold Reading
cold reading คือการวิเคราะห์บุคคลจากสิ่งต่างๆ เช่น สีหน้า เสื้อผ้า อายุ เพศ เชื้อชาติ ฯลฯ
จะเรียกว่า profiling หรือ behavioral analysis ก็ได้
ซึ่งถ้าใครดูหนังสอบสวนบ่อยๆ เช่น โคนัน หรือ Sherlock Holmes ก็จะประมานนั้นแหละ
Sherlock Holmes บิดาแห่งการมั่วแบบแม่นๆ
ปกติแล้วการ reading จะเริ่มจากการ"เดา"อะไรที่มีโอกาสถูกสูงก่อน
แล้วดูปฏิกิริยาของคู่สนทนา
โดยจะเน้นเรื่องที่ถูก และข้ามเรื่องที่ผิดไป
แล้วเก็บข้อมูลไปเรื่อยๆเพื่อทำนายต่อไป
เทคนิคหลักๆของ cold reading จะใช้ shotgunning หรือการยิงปืนลูกซอง(shotgun)
ถ้าใครเคยเล่นเกมจะรู้ว่าการยิงปืนลูกซองจะกระจายวงกว้าง
ดังนั้นมันคือการเดาแบบหว่านแหนั่นเอง
การเดาแบบหว่านแหหรือคลุมเครือ เช่น
- ฉันเห็นมีผู้หญิงมีจุดสีดำที่หน้าอก
มะเร็งปอด โรคหัวใจ มะเร็งเต้านม
มีผู้หญิงที่ีคุณรู้จักเป็นโรคนี้ใช่ไหม ???
(อุบัติการณ์โรคพวกนี้ค่อนข้างสูง)
- ฉันรู้สึกว่ามีผู้ชายที่อายุมากกว่าคุณ
แม้จะไม่เห็นด้วยกับทางเดินชีวิตของคุณ แต่เค้าก็ยังห่วงคุณอยู่
(มันก็น่าจะต้องมีแหละครับ)
เทคนิคเสริม คือ rainbow ruse หรืออุบายสายรุ้ง
คือการบอกบุคลิกภาพ 2 ด้านไปพร้อมๆกัน แม้ว่าจะดูขัดแย้งกันเองก็ตาม
เช่น
- โดยมากคุณมักเป็นคนร่าเริง แต่ก็มีบางครั้งที่รู้สึกซึมเศร้าเช่นกัน
- คุณเป็นคนจิตใจดี แต่ถ้าใครมาทำลายความเชื่อใจคุณ คุณจะแค้นใจอย่างมาก
2
แน่นอนว่า cold reading เป็นการเดาแบบมีหลักการ
มันอาจจะพลาดได้
เลยมีเทคนิคช่วยอย่าง push technique หรือผมเรียกว่าการ "ด้นสด"
คือเวลาหมอดูเดาอะไรพลาดไป
ก็จะพยายาม push ไปอีกนิดให้ถูกให้ได้
เช่น
A : ผมเห็นดาวตกผ่านกลุ่มดาวอันโดรเมด้า
มีคนใกล้ตัวคุณกำลังประสบปัญหาเรื่องเงินใช่รึป่าว ???
B : อืมมมมมมมม~มม
(ทำท่าคิด)
A : อ๋อ ไม่สิ อาจจะไกลกว่านั้น
(เห็นท่าไม่ดีรีบแก้เกมก่อน)
เป็นคนที่คุณรู้จักรึป่าวครับ ???
ซึ่งมันคือการแถหรือการด้นสดนั่นเอง 555+
นอกจากนี้ยังมีตัวเสริมในการเดาให้มีโอกาสถูก คือ
การพูดให้กว้างๆและการพูดแบบ abstract
- การพูดให้กว้างๆ
ผมขอตัดบทความจากหมอเลิฟ ฟันเธอ มาให้ดูนะครับ
1
"ชีวิตของการต่อสู้ ย่อมมีชัยชนะและการพ่ายแพ้ อย่าเผลอ อย่าหลง อย่าขาดสติ ทุกๆอย่าง ทุกๆเรื่องของชาวราศีXXX ไม่มีได้มาง่ายๆ ชีวิตต้องสู้"
"ส่วนความรักปิดล็อคไว้ให้ดี ถ้ามีต้องดูแลให้ดีมากๆ ให้ไปลุยเรื่องงาน เตือนอย่าให้ใครยืมเงิน"
จ้าาาาาาาาาาาา~าา
แบบนี้เอา พี่หนึ่ง จักรวาล มาทำนายก็ถูกจ้า
จะเห็นว่าคำทำนายมันดูกว้างจนโอกาสถูกสูงมาก
ไม่ว่าราศีไหนเราก็ต้องสู้ชีวิต
ไม่ว่าตอนไหนเราก็ต้องรักษาความรักให้ดีๆ
ถ้าดูแลความรักไม่ดี 15 ปีก็ไม่มีความหมายครับ
- การพูดแบบ abstract
พูดแบบให้ไปตีความกันเอง ซึ่งเราก็จะตีความแบบมี cognitive bias หรือความโน้มเอียงทางความคิด
มักจะตีความตามที่เราเข้าใจ
พวกนี้จะออกแนวๆเจ้าบทเจ้ากลอนหน่อยๆ
ที่ดังมากๆคงเป็นนอสตราดามุส และเซียมซีบ้านเรานี่แหละ
เช่น
"แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจราจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน"
คนไทยอ่านก็คงนึกถึงกีฬาสี
คนใต้อ่านอาจจะคิดถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้
แต่คนสเปนอ่านอาจจะคิดถึงแคว้นคาตาลันก็ได้
การพยายามแยกดินแดนหรือการปะทะกันของสองขั้วความคิดมีมาทุกยุคทุกสมัย
(ประชาธิปไตย การเมือง ศาสนา ฯลฯ)
และก็ไม่เคยไม่มีผู้ล้มตายเลยสักครั้ง
พอไม่ระบุ timeline ก็เหมือนยืด timeframe เป็นอนันต์
ไม่ระบุสถานที่ชัดเจน ก็คือที่ไหนก็ได้บนประเทศไทย กว้างดี
ดังนั้นโอกาสถูกจะสูงมาก
เกิดเมื่อไหร่ ก็แม่นเมื่อนั้นแหละ
ไม่เกิดก็รอกันต่อไป
จริงๆรายละเอียดในส่วนของ technique จะเยอะมาก
ทั้ง fishing, fine flattery, fuzzy facts ฯลฯ
เอาเป็นว่าถ้าขยันพอค่อยมาทำนายดวงกันแล้วต่อกันคราวหน้าแล้วกันนะครับ
3. Pygmalion Effect
Pygmalion มาจากชื่อเทพบนเขา Olympus
วันหนึ่งเทพ Pygmalion ได้ปั้นรูปปั้นแล้วหลงรักรูปปั้นเสียเอง
จน Zues ต้องเสกรูปปั้นให้มีชีวิต และแต่งงานกับ Pygmalion
Pygmalion บิดาแห่งการคิดไปเอง
Pygmalion Effect หรือ self-fulfilling prophecy
คือเชื่ออย่างไรก็ได้อย่างนั้น
1
เช่น
ถ้าหมอดูบอกกับคุณว่า เนื้อคู่ของคุณคือคนที่อายุมากกว่า
ทีนี้ถ้าคุณกำลังคบกับคนที่อายุน้อยกว่า
และคุณ Pygmalion ไปแล้วว่าเนื้อคู่คุณต้องอายุมากกว่า
อาจทำให้คุณตีตัวออกห่างจากคู่ของคุณ
และไปสนใจแต่คนที่อายุมากกว่าก็ได้
1
มันเลยกลายเป็นว่าคำทำนายเป็นจริง เพราะคุณทำมันเอง
ไม่ใช่เกิดจากการทำนาย
ดังนั้นอย่าให้ใครให้มา Pygmalion คุณได้
"the best way to predict the future is to invent it"
วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตก็คือสร้างมันขึ้นมาเองครับ
เหมือนที่ปู่ Buffett บอกว่า
"I always knew I was going to be rich."
ผมรู้มาตลอดว่าผมจะรวย
"I don't think I ever doubted it for a minute."
ผมไม่เคยสงสัยมันเลยแม้สักนาทีเดียว
1
Buffett คนนี้บิดาแห่ง VI ครับ
ว่าแต่มันวนกลับมาที่ปู่บัฟได้งัยวะ ???
p.s. เทคนิคหรือหลักการหลายๆอย่างอาจมีความคล้ายคลึงหรือซ้อนทับกันได้
อย่าง Forer Effect บางตำราก็จัดให้อยู่ใน cold reading ครับ
โฆษณา