1 พ.ย. 2019 เวลา 15:57 • ไลฟ์สไตล์
หลังคาแบบไหนดี ? (part 1)
หลังคาคือส่วนที่อยู่บนสุดของตัวบ้านช่วยกันแดดกันฝนให้กับเรา
แล้วหลังคามีตั้งมากมายหลายแบบ
จะใช้แบบไหนดีล่ะ ??
เมื่อเวลาเราพูดถึงการออกแบบหลังคา
เราจะมีปัจจัยหลักๆให้ดูอยู่ 2 เรื่องครับ
เรื่องแรกคือรูปทรงหลังคา
อีกเรื่องคือ วัสดุของหลังคา
ก่อนจะไปที่รายละเอียด ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าสองเรื่องนี้เกี่ยวพันกันอย่างแยกไม่ออก
เคยสงสัยไหมครับ
ทำไมวัดหรือบ้านเรือนไทยสมัยก่อน ต้องเป็นหลังคาทรงสูง ลาดชัน จะทำให้มันแบนๆหน่อยไม่ได้เหรอ ??
ก็เพราะวัสดุหลังคาสมัยก่อนที่เราผลิตใช้กัน เป็นกระเบื้องดินเผาหรือเป็นแผ่นไม้แผ่นเล็กๆ เมื่อวางซ้อนกันแล้วระยะซ้อนทับจะมีไม่มาก
ถ้าหลังคาไม่มีองศาที่ลาดชันมากพอ น้ำฝนจะไหลย้อยเข้าใต้กระเบื้องเมื่อลมฝนพัดกระหน่ำ
ดังนั้น ถ้าคุณชอบบ้านอารมณ์แบบธรรมช้าดธรรมชาติ หลังคาเป็นแผ่นไม้แป้นเกล็ดดิบๆ แต่ไม่อยากได้หลังคาลาดชันมากนัก เพราะคิดว่าจะทำสูงไปทำไมให้เปลืองวัสดุ
คุณก็เตรียมรับมือกับปัญหาหลังคารั่วได้เลย
กลับมาที่เรื่องรูปทรงหลังคา
หลังคาที่ใช้กันทั่วไปจะมีรูปแบบมากมายอย่างไร
ก็มาจากรูปแบบพื้นฐานประมาณนี้ครับ
แต่ละรูปแบบ มีข้อดีเสียแตกต่างกัน  แล้วแต่ว่า สถาปนิกผู้ออกแบบจะเลือกใช้เพื่อตอบโจทย์การออกแบบรูปทรงอาคารอย่างไร
๏ หลังคาแบน (slab)
ส่วนมากเราจะทำหลังคาแบนเพราะเราจะใช้พื้นที่ดาดฟ้า
แต่หลังคาแบบนี้จุดอ่อนคือ
มีสโลปน้อยมาก ดังนั้นจึงอาจกลายเป็นแอ่งรับน้ำ ตามมาด้วยปัญหาการรั่วซึม อีกทั้ง การเป็นแผ่นพื้นแบนๆแบบนี้ จึงแผ่รับแสงแดดได้ทุกทิศทุกทาง  เราจึงรู้สึกร้อนมากถ้าอยู่ในชั้นที่ติดกับชั้นดาดฟ้า เพราะความร้อนนั้นจะแผ่ลงมาเต็มๆ
๏ทรงหมาแหงน ( Shed roof)
เป็นหลังคาที่ดูซื่อๆจริงใจที่สุด แดดฝนมาทางไหน ก็กันทางนั้น 
แต่ถ้าฝนกับแดดมากันคนละทิศล่ะ เอ่อ...
๏หลังคาจั่ว (Gable roof)
หลังคาแบบนี้ จะมีผืนหลังคา 2 ด้าน ข้อดีคือ รอยต่อน้อย รั่วยาก  ข้อเสียคือ ดูเรียบง่ายธรรมดาเกินไป ถ้าเป็นอาคารขนาดใหญ่ สถาปนิกจะใช้วิธีทำซ้อนกันเป็นชั้นๆ(ตับ) เพื่อลดขนาดไม่ให้หลังคาดูใหญ่โตเกินไป
๏หลังคาทรงปั้นหยา (Hip roof)
แบบนี้พัฒนาต่อมาจากทรงจั่ว จึงทำให้ดูมีดีไซน์ง่ายขึ้น แต่รอยต่อหลังคาและโครงสร้างก็ซับซ้อนมากขึ้น ปัญหาการรั่วซึมก็มีโอกาสมากขึ้นด้วย
๏หลังคาแบบฟันเลื่อย (Saw tooth roof)
แบบนี้ เหมาะกับอาคารที่มีความยาวมากๆ เพราะสามารถเปิดช่องให้แสงและอากาศผ่านเข้าไปที่กลางอาคารได้ง่ายขึ้น แต่รางน้ำที่มีอยู่มากมายก็สร้างอาจปัญหาได้ง่่ายๆเช่นกัน
๏หลังคาปีกผีเสื้อ (Butterfly roof)
เป็นหลังคาที่ทรวดทรงโฉบเฉี่ยวที่สุด ดูบางเบา ทันสมัย  แต่กันแดดกันฝนได้น้อย  โดยเฉพาะรางน้ำที่วางพาดอยู่กลางบ้านนั่นแหละ ตัวดีเลยครับ  ถ้ามีใบไม้ปลิวลงมาอุดท่อน้ำฝนเมื่อไร ม่านน้ำตกขนาดย่อมๆในบ้านจะตามมาอีกไม่นาน
คงพอจะเข้าใจถึงทรวดทรงของหลังคาที่กันแดดกันฝนให้เราแล้วนะครับ
ตอนต่อไปผมจะอธิบายถึงวัสดุต่างๆที่เราจะนำเอามาทำเป็นวัสดุมุงหลังคา
โปรดอดใจรอนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา