Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
นายช่างมาแชร์
•
ติดตาม
2 พ.ย. 2019 เวลา 01:07 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
การทำ PT (Penetrant Testing)
สวัสดีครับเพื่อนๆ หลายๆคนที่อยู่ในวงการงานช่าง งานเชื่อม หรืองานตรวจสอบในงานอุตสาห์กรรมอาจจะเคยได้ยินเรื่องการทำ PT มาบ้างแล้ว
ดังนั้นวันนี้ทางเพจนายช่างมาแชร์จะขอมาตีแผ่กระบวนการทำ PT แบบเจาะลึก และละเอียดสุดๆกันนะครับ
รูปภาพแสดงการทำ PT (Penetrant Testing)
การทำ PT คืออะไร ?
การทำ PT มีชื่อเต็มๆว่า Penetrant testing ซึ่งหากแปลตรงตัวแปลว่า การทดสอบความบกพร่องของเนื้อวัสดุโดยการใช้สารแทรกซึม บางทีอาจจะได้ยินในชื่ออื่นเช่น Dye penetrant inspection (DP) หรือ Liquid Penetrate Inspection (LPI)
ซึ่งหลักการคือ สารแทรกซึมนั้นสามารถซึมเข้ารูหรือที่แคบๆที่เป็นรอยร้าวขนาดเล็กได้ ซึ่งสามารถใช้ได้ดีกับชิ้นงานที่เป็นโลหะ แต่สำหรับอโลหะก็ทำได้เช่นเดียวกันนะครับ โดยจะใช้น้ำยาแทรกซึมต่างๆครับ
การทำ PT ถือเป็นกระบวนการทดสอบแบบไม่ทำลาย หรือ NDT (Non-destructive testing) วิธีหนึ่งครับ ซึ่งกระบวนการตรวจสอบแบบ PT นี้ถือเป็นวิธีนิยมใช้มากที่สุด
เพราะข้อดีของการทำ PT มีมากมายเช่น สามารถ apply ใช้ได้หลากหลายงานซึ่งรูปร่างของวัสดุไม่ได้เป็นข้อจำกัดในการทดสอบ ,ระยะการตรวจสอบเวลาที่รวดเร็ว เข้าถึงหน้างานได้ง่ายครับ และราคาไม่แพง
หลักการของการแทรกซึม
โดยปกติทั่วไปของเหลวซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่จุดต่างๆได้ โดยอาศัยหลักการ “Capillary action” โดยแรงดูดจากท่อ Capillary (หรือพูดง่ายๆคือ ความสามารถในการแทรกซึมนี้แหละครับ) โดยจะมาก โดยจะทิ้งไว้พักหนึ่งเพื่อให้เกิดการแทรกซึมหรืิอ Dwell time ทั้งนี้คุณสมบัติการแทรกซึมจะมาก หรือจะน้อยขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ 3 อย่างหลักๆคือ
1. ขนาดของรอยความไม่ต่อเนื่อง
2. ความตึงผิวของของเหลว
3. ความสามารถในการเปียก
ดังนั้นหากเรานำทฤษฎีของ Capillary action มาประยุกต์ใช้ สารแทรกซึมนั้นจะต้องเลือกให้คุณสมบัติทั้ง 3 ข้อด้านบนเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุดครับ
Capillary action ซึ่งแสดงความสามารถในการแทรกซึมของ ของเหลวชนิดต่างๆกัน
การแทรกซึมของสารแทรกซึมในรอยบกพร่องของชิ้นงาน
ขั้นตอนการทำ PT
สำหรับขั้นตอนการทำ PT หรือการตรวจสอบโดยใช้สารแรกซึมบนชิ้นงาน โดยเราจะมีกระป๋องอยู่ 3 กระป๋องหลักๆคือ
1. กระป๋อง Cleaner ไว้สำหรับทำความสะอาดชิ้นงานก่อนเริ่มทำการตรวจสอบชิ้นงาน โดยในกระป๋องจะมีทั้ง Cleaner ที่เป็นตัวทำความสะอาดทั่วๆไป และ Remover ที่เป็นสาร solvent ไว้สำหรับชะล้างสารแทรกซึมส่วนเกิน (ตามขั้นตอนที่ 3 ด้านล่าง) ซึ่งหมายความว่าเราจะไม่สามารถใช้สาร Cleaner ทั่วๆไปสำหรับทำความสะอาดในงานตรวจสอบ PT ได้ครับ
2. กระป๋อง Penetrant หรือกระป๋องน้ำยาแทรกซึม เอาไว้ลงสารแทรกซึมไปที่ชิ้นงานเพื่อหาความเสียหายที่เกิดขึ้น มีทั้งแบบมองเห็นด้วยแสงสว่าง (Visible penetrant) และ แบบเรืองแสง (Fluorescent penetrant)
3. กระป๋อง Developer หมายถึง สารที่ใช้สำหรับดูดซึมน้ำยาแทรกซึมออกจากข้อบกพร่องของชิ้นงาน และมีหน้าที่สำหรับการดังสารแทรกซึมขึ้นมาจากรอยแตกในชิ้นงาน เพื่อให้ตรวจได้ด้วยสายตาครับ โดยมีคุณสมบัติแขวนลอยอยู่ในตัวทำละลายที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำอยู่ (No aqueous wet developer)
โดยชุดน้ำยา PT นั้นจะต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตาม ASTM E165 หรือ EN ISO 3452-2 หรือมาตราฐานแห่งชาติอื่นๆหรือเทียบเท่า และจะต้องถูกเก็บไว้ที่เหมาะสมตามข้อแนะนำของผู้ผลิตครับ
สำหรับเรื่องผ้าที่ใช้ทำความสะอาดเราก็ไม่สามารถมองข้ามได้เช่นเดียวกัน โดยไม่ควรเป็นขุ่ย หรือมีขน เพราะอาจะทำให้สิ่งสกปรก หรือตัวเศษผ้าไปทำให้ชิ้นงานไม่สะอาดครับ
กระป๋องทั้ง 3 อย่างสำหรับทำการตรวจสอบแบบ PT
โดยจะมีขั้นตอนการทำงานสำหรับการตรวจสอบโดยใช้สารแทรกซึม ผมขอแบ่งได้ออกเป็น
6 ขั้นตอนหลักๆคือ
โดยก่อนอื่นชิ้นงานต้องแห้ง และอุณหภูมิของชิ้นงานควรอยู่ประมาณ 10-52 องศาเซลเซียส หากไม่อยู่ในช่วงนี้อาจจะต้องมีแท่งประเทียบมาตราฐาน
และควรมีแสงสว่างเพียงพอ (ประมาณ 1000 lux)
1. ทำความสะอาดชิ้นงาน ไม่ให้มีสิ่งสกปรกตกข้างอยู่ (Pre cleaning) โดยใช้สาร Cleaner โดยมีระยะแนะนำประมาณ 2″ และเช็ดทำความสะอาดออก
2. ทำการลงสารแทรกซึมเข้าไปที่ชิ้นงาน หรือน้ำยา Penetrant โดยมีระยะพ่นประมาณ 3″ และควรจะต้องทิ้งระยะเวลาให้สารแทรกซึม ซึมเข้าไปประมาณ 5 นาทีขึ้นไป (Dwell Time)
3. ทำการเช็ดสารแทรกซึมออก เพราะฉะนั้นจะเหลือสารแทรกซึมที่ยังค้างอยู่ในรอยเสียหายของชิ้นงาน
4. ลงสาร developer ซึ่งจะเป็นตัวดึงสารแทรกซึมออกมา เพื่อให้เราเห็นความเสียหายของชิ้นงาน โดยมีระยะพ่นประมาณ 1 ฟุต หรือ 12 “
5. ทำการตรวจสอบโดย visual inspection หรือการตรวจสอบด้วยสายตา โดยผู้ที่มี certified PT
6. ทำการทำความสะอาดชิ้นงาน (Post cleaning)
youtube.com
Liquid Penetrant Testing
ชนิดของสารแทรกซึม
สารแทรกซึมที่ถูกนำมาใช้ในงานตรวจสอบ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ตามชนิดของการมองเห็นคือ
1. สารแทรกซึมชนิดวาวแสง (Fluorescent dye)
เป็นสารแทรกซึมวาวแสง หรือเรืองแสง ที่จะมองได้เห็นภายใต้แสงแบล็กไลท์ (Black light) เท่านั้นครับ
โดยสีที่เห็นมักจะเป็นสีเขียว ไม่ก็สีเหลืองซึ่งจะมีความยาวคลื่น 200 – 400 nm ซึ่งช่วงนี้จะเป็นอันตรายต่อผิวหนัง และสายตาของคนเราครับ
ดังนั้นจึงใช้ตัวกรองแสงช่วงความยาวคลื่นที่เป็น UV ออกเหลือแค่ 320-400 nm ครับ
และหลังจากเราลงน้ำยาแทรกซึมแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็ใช้สาร develop ดึงสารแทรกซึมออกมาตามปกติ หลังจากนั้นเราจะต้องใช้แสง Black light ส่องเข้าไปที่ชิ้นงานเพื่อดูความเสียหาย หรือความไม่ต่อเนื่องของชิ้นงานครับ
โดยตามข้อกำหนดมาตราฐานสากลของ ASME section V กำหนดไว้ว่า “ความเข้มของสาร Blacklight จะต้องไม่เกิน 1,000 μW/cm2 และไม่น้อยกว่า 12 W/m2 ตาม มอก.1324
โดยไส้ในหลอด Blacklight จะต้องถูกอุ่นก่อนอย่างน้อย 5 นาที และผู้ตรวจสอบก็ต้องปรับสายตาก่อนไปทดสอบ 5 นาทีด้วยเช่นกัน
ภาพตัวอย่างของการทำ PT โดยใช้สารแทรกซึมชนิด Fluorescent dye ที่ทำการทดสอบบนชิ้นงาน
youtube.com
Fluorescent Penetrant Testing - NDT Inspection Technique
Learn more about NDT inspection here: http://bit.ly/20ip8QM The Fluorescent penetrant examination method is an effective means for detecting discontinuities ...
2. สารแทรกซึมแบบมองเห็นด้วยตาเปล่า (Visible Penetrant)
เป็นสารแทรกซึมชนิดมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยปกติสีจะตัดกับสีของ developer ครับ โดยทั่วๆไป สีของสารแทรกซึมจะเป็นสีแดง และสีของ developer สีขาว โดยความสว่างสำหรับในการมองเห็นควรมากกว่า 1,000 ลักซ์ โดยความไว หรือ Sensitivity ของการทดสอบแบบมองเห็นด้วยตาเปล่าจะช้ากว่าแบบสารแทรกซึมแบบเรืองแสงครับ แต่เรื่องความสะดวกในหน้างานสารแทรกซึมแบบมองเห็นด้วยตาเปล่ากินขาดครับ เนื่องจากไม่ต้องทำในที่มืด และชนิดนี้ถือเป็นที่นิยมที่สุดครับ
ส่วนวีดีโอของการตรวจสอบด้วยสารแทรกซึมแบบมองเห็นดูตามวีดีโอขั้นตอนการทำ PT ได้เลยครับผม
แล้วพบกับสาระดีๆ ในโพสถัดๆไปที่เพจนายช่างมาแชร์ ถ้าเพื่อนๆชอบบทความ ฝากกดไลท์ หรือกดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ทางเพจนะครับผม
#นายช่างมาแชร์ #NDT #PT
7 บันทึก
30
13
8
7
30
13
8
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย