3 พ.ย. 2019 เวลา 10:35 • การศึกษา
Deepfake นวัตกรรมหลอกลวง
1
เทคโนโลยีการเปลี่ยนใบหน้าถูกนำมาใช้มากขึ้นในปัจจุบัน ที่เราเห็นได้ชัดคือในวงการภาพยนตร์ เพื่อนใช้แสดงแทนนักแสดงที่เสียชีวิต อย่างในหนังเรื่อง fast and furious 8 ที่ Paul Walker นักแสดงหลักของเรื่องได้เสียชีวิตก่อนหน้านี้ เมื่อถึงภาคที่ 8 ในหนังจึงใช้ เทคโนโลยี Deepfake เข้ามาใช้
รวมถึงนักแสดงที่แก่แล้ว อย่างหนังเรื่อง the terminator 5 ที่มีฉาก อาโน ชวาสเนกเกอร์ หน้าหนุ่มโผล่มาด้วย ทั้งที่จริงๆอายุปาไป 70 กว่าๆแล้ว
กว่าสิ่งเหล่านี้จะออกมาบนจอภาพยนตร์ให้เราได้ชมนั้น ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 40 ชั่วโมงในแต่ละคัท ต่อมามีการนำเทคดนโลยี AI มาใช้กับการเปลี่ยนใบหน้าของคน
สามารถทำได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงและยังง่ายเหมือนกระดิกนิ้ว แต่สิ่งที่ตามมากลับยากเกินที่จะรับไหว เมื่อมคนนำใบหน้าของเหล่าคนดังมาใส่กับคลิปอนาจาร
เทคโนโลยีทดแทนใบหน้ากลายเป็นที่ฮือฮา เมื่อมีงานวิจัยชื่อว่า Face2Face จับเอาท่าทางการแสดงสีหน้าไปใสในคลิปวิดีโอ เพื่อเปลี่ยนการขยับริมฝีปาก และการแสดงสีหน้าในวิดีโอนั้นได้
และงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่เริ่มมีการใช้ deep learning ในส่วนการทำงาน โดยคุณศุภศรณ์ สุวจนกรณ์ จากห้องวิจัย GRIAL
นำเสียงของ อดีตประธานาธิบดี โอบามา มาสร้างเป็นภาพวิดีโอใหม่ ด้วยการนำข้อมูลเสียงมาสร้างเป็นรูปแบบของปาก แล้วค่อยใส่รายละเอียดอย่างอื่นตามลงไป
ตอนนี้คุณศุภศรณ์ ทำงานวิจัยอยู่ที่ Google Brain ซึ่งทำเกี่ยวกับ deep learning computer vision และ VR
และสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนี้คือภัยคุกคาม ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอาจเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต เมื่อผู้ใช้ Raddit นาม Deepfake โพสวิดีโอของดารา Hollywood โดยใช้ซอฟเเวร์ตรวจจับใบหน้า ที่ใช้กระบวนการdeep learning
และการส้รางใบหน้าทับลงไปนั้น เป็นซอฟต์แวร์ที่เขาพัฒนาเองด้วย Keras บน Tensorflow
และยิ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อผู้ใช้ Reddit รายอื่นๆ ได้เผยแพร่แอฟพลิเคชั่น fakeapp ที่สร้างวิดีโอ deepfake เองได้
แค่เพียงไม่นานใบหน้าของดาราดังหลายคน ก็ถูกนำไปใส่ในวิดีโอมากมาย
จนเว็ปไซต์ขวัญใจหลายคนอย่าง Pornhub ต้องไล่ลบคลิปที่มาจากการ Deepfake
หลักการของโปรแกรม Fakeapp นั้นง่ายมาก มีเพียงแค่ 3 ขั้นตอน
1.ให้โปรแกรมเรียนรู้ใบหน้าของ A และ B
2.ให้โปรแกรมเทียบใบหน้าระหว่าง A และ B
3.ทำการนำใบหน้าของ A ไปใส่วิดีโอที่มีใบหน้าของ B
ถึงงแม้ว่าตอนนี้ fakeapp ยังไม่สามารถหลอกได้แบบเเนบเนียน เป็นไปได้สูงว่าในอนาคตจะพัฒนาจนเรามองไม่ออก
ถ้ามันถูกนำมาใช้ในการสร้างข่าวปลอม สร้างเพื่อหวังผลทางการเมืองต่อฝ่ายตรงข้าม สิ่งที่ตามมาจะส่งผลร้ายแรงแน่นอน
* แล้วคุณคิดอย่างไร หากในอนาคต วิดีโอที่คนรับชมอยู่ ไม่มีอะไรเป็นของจริงเลย *
โฆษณา