วิตามินดี(Vitamin D) คืออะไร สำคัญอย่างไร มีแหล่งที่มาจากที่ไหน มีประโยชน์อย่างไรบ้าง หากขาดวิตามินดีจะเป็นอย่างไร และใครบ้างที่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินดี❓😢
วันนี้จะมาแชร์เรื่องราวดีๆ ของวิตามินดี....ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ👌
วิตามินดี เป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ในไขมัน มีความจำเป็นต่อกระบวนการทำงานของร่างกายหลายระบบ เช่น ระบบกระดูกและฟัน ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบกล้ามเนื้อ ระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงระบบฮอร์โมนต่างๆ เช่น อินซูลิน เป็นต้น
แหล่งที่มาของวิตามินดีได้มาจากไหน❓
มี 3 แหล่งที่มาของวิตามินดี คือ...
1.มาจากการสังเคราะห์ของคลอเลสเตอรอลที่ผิวหนังชั้นนอกสุดของเราเอง โดยใช้แสงแดด(รังสี.UVB) จะได้วิตามินดีในรูป วิตามินดี 3 (cholecalciferol) โดยอาจมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความสามารถในการสังเคราะห์วิตามินดีนี้ เช่น สีผิว(คนสีผิวเข้มจะสังเคราะห์วิตามินดี 3 ได้น้อยกว่าคนผิวสีอ่อน) อายุมากขึ้นจะทำให้สังเคราะห์วิตามินดี 3 ลดลง และปริมาณความเข้มของแสง(280-320 นาโนเมตรของรังสี UVB) และระยะเวลาการสัมผัสกับแสงแดดก็มีผลต่อปริมาณการสังเคราะห์วิตามินดี 3 เช่นกัน
👉เวลาที่เหมาะสมต่อการสัมผัสแสงแดดในตอนเช้าอย่างน้อยประมาณ 15 นาที โดยการใส่เสื้อแขนสั้นและกางเกงขาสั้นรับแสงแดด
หากต้องการข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นถึงกลไกต่างๆสามารถกดติดตาม ได้ที่。。。
ขบวนการสังเคราะห์วิตามินดี 3 ที่ผิวหนังเราจากแสงแดด https://bit.ly/34wHaq5
2.วิตามินดี มาจากการรับประทานอาหารที่มาจากพืช เห็ด ยีสต์จะอยู่ในรูปวิตามินดี 2 (ergocalciferol) ส่วนวิตามินดีที่มาจากสัตว์ เช่น ปลา ไข่ไก่ ตับ นม เนย ฯ จะอยู่ในรูปวิตามินดี 3
แซลมอล เป็นแหล่งวิตามินดี 3 ที่ค่อนข้างสูงจากสัตว์
นมสดและไข่ แหล่งวิตามินดี https://bit.ly/36ttNsq
3. วิตามินดี ที่ได้จากการทานอาหารเสริม ปัจจุบันมีหลายบริษัทผลิตออกมาในรูปอาหารเสริม แต่ราคาค่อนข้างแพง
วิตามินดี ในรูปแบบผลิตภัณฑ?เสริมอาหาร https://bit.ly/2WNq3h7
รู้หรืิอไม่❓... ปริมาณวิตามินดี ที่แนะนำให้รับประทานในคนไทย(Thai RDI) คือ 5 ไมโครกรัม หรือ 200 IU ต่อวัน
👉ต่อไปเรามาดูประโยชน์ของวิตามิน ดี ว่ามีบทบาทสำคัญต่อร่างกายของเราอย่างไรบ้าง โดยประโยชน์หลักๆคือ
✔️ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง ลดความเสี่ยงกระดูกพรุน กระดูกแตกหักได้
✔️ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส ส่วนใหญ่จะเห็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมี แคลเซียมผสมกับวิตามินดี อยู่มากมายหลายยี่ห้อ
✔️ควบคุมสมดุลแคลเซียมในเลือด
✔️ช่วยในการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ ลดความอ่อนล้า
✔️ช่วยการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ลดการติดเชื้อโดยเฉพาะทางเดินหายใจ
✔️มีบทบาทในการผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
✔️ควบคุมการแบ่งตัวของเซลล์ให้เป็นปกติ
✔️มีบทบาทคว่มคุมความดันโลหิต เป็นต้น
ภาวะกระดูกพรุน เกิดได้ในผู้ขาดวิตามินดี และมีอายุมากขึ้น https://bit.ly/2N9uiQK
✍️ จากสภาวะการทำงานของใครหลายๆ คน ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า อาบน้ำแต่งตัว ทาครีมกันแดด ใส่เสื้อคลุมแขนยาว และขับรถติดฟิล์มหนาทึบไปทำงาน พอถึงที่ทำงานก็นั่งทำงานในออฟฟิศทั้งวัน กลับเย็นก็ไปฟิตเนตออกกำลังกายในร่ม ชีวิตแต่ละวันแทบจะไม่ได้โดนแสงแดดเลย ยิ่งเป็นคนที่มีอายุมากขึ้นอีกและมีผิวสีคล้ำ ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ล้วนทำให้คุณมีความเสี่ยงต่อการ "ขาดวิตามินดี" ได้เพิ่มขึ้น
.
หากใครคิดว่าตัวเองในแต่ละวัน แทบจะไม่โดนแดดเลย การป้องกันขาดวิตามินดีที่ดีคือ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีสูง ร่วมกับรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินดี จะเป็นทางเลือกที่ควรทำอย่างยิ่ง
👉คราวนี้เรามาดูกันว่า ภาวะการขาด หรือพร่องวิตามินดี จะมีความสัมพันธ์กับโรคหรืออาการอะไรบ้าง
ภาวะขาดหรือพร่องวิตามินดี ทำให้เกิด
😢โรคกระดูกอ่อนในเด็ก กระดูกพรุนในผู้ใหญ่ และกระดูกแตกหักง่าย
😢กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง อ่อนล้า
😥ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ไวต่อการติดเชื้อ
😢โรคหัวใจและหลอดเลือด
😢โรคเบาหวาน
😥โรคซึมเศร้า เป็นต้น
สำหรับเรื่องราวของวิตามินดี ก็ขอจบลงไว้เพียงเท่านี้ หากท่านใดมีข้อสงสัยสามารถคอมเมนท์ซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ครับ
.
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนจบนะครับ ฝากติดตามบทความต่อไปของ Health goods.ด้วยนะครับ❤️
กดอ่านบทความอื่นๆของเพจได้ที่นี่เลยครับ....
แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อไปนะครับ.. ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมากๆครับ..🙏❤️
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
