3 พ.ย. 2019 เวลา 14:26
"ผีนางรำที่ลาว"
เรื่องราวจากการบอกเล่าของเพื่อนร่วมงาน
ของดารินญาน้องผู้หญิงที่สนิทกับผม
*นนท์* คือชื่อของเพื่อนน้องคนนั้น
ได้เล่าประสบการณ์ตอนไปเที่ยวที่ประเทศ
เพื่อนบ้านที่ลาวให้ฟังว่า..
ย้อนกลับไปเมื่อหกปีที่แล้วพ.ศ.2556
นนท์ได้ไปเที่ยวที่ต่างจังหวัดกับกลุ่มเพื่อน
อีกสองคน
หลังจากผ่านไปสองวัน
มีความคิดว่าไหนๆก็ลามาเป็นอาทิตย์แล้ว
ข้ามไปเที่ยวฝั่งลาวดีไหมเห็นเขาว่าสาวที่นั่นสวย
ตกลงกันข้ามไปที่เมืองหนึ่งในประเทศลาว
ได้พบเจอประเพณีวัฒนธรรมวิถีชีวิตของผู้คน
ที่นั่นยังคงงดงามและเรียบง่าย
จนถึงเวลาหาที่พัก
ทั้งหมดไปเจอกับโฮมสเตย์บ้านไม้แห่งหนึ่ง
ดูแล้วสงบร่มรื่นมากเพราะติดภูเขาและมีบ่อน้ำ
อยู่ด้านหลัง...
เจ้าของที่พักบอกว่าดื่มกินได้แต่อย่าเสียงดัง
และให้ดึกมากเพราะมันจะรบกวนสิ่งต่างๆ
พอจบคำว่าสิ่งต่างๆ นนท์คิดในใจทำไมไม่พูด
ว่าคนอื่นๆแต่ใช้คำนี้แทน พยายามไม่คิดอะไร
สะพายกระเป๋าพากันเดินไปที่พัก
เวลาพลบค่ำมองดูตะวันจะลับฟ้าผ่านทิวเขา
เดินขึ้นบันไดไปบนบ้านพัก
มีโต๊ะกินข้าวเก้าอี้,ห้องนอนหนึ่งห้องสองเตียง
ห้องน้ำอยู่ด้านล่าง....
นนท์เดินไปมาบนบ้าน
มองผ่านหน้าต่างหลังบ้าน ถัดไปสักสามเมตร
มีบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่อยู่ มีก้อนหินวางไว้
คิดในใจวิวดีมากๆ
แต่พอหันกลับมาพบว่าเพื่อนอีกสองคน
จัดแจงเอาเครื่องดื่มกับแกล้มมาวางไว้บนโต๊ะ
เรียบร้อยเพื่อจะดื่มกัน
เวลาล่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่มกว่า
หลังจากดื่มไปได้สักพักพอตึงๆ
เพื่อนคนนึงบอกนนท์ว่าไปเอากีตาร์
มาดีดร้องเพลงดีกว่ากูว่ามันเงียบไป
ได้ยินแต่เสียงจิ้งหรีดเรไร
นนท์ลุกเดินมาที่ห้องนอน
พลันสายตาไปสะดุดกับตู้ไม้เล็กๆสูงแค่เอว
เพราะตอนเอาของเข้ามาวางมันปิดไว้สนิท
แต่ทว่าตอนนี้มันแง้มออกมานิดนึง
นนท์เอามือจับตรงฝาประตูตู้แต่ต้องชักมือกลับ
เพราะมันรู้สึกเหมือนมีเส้นผมผู้หญิงยาวๆ
มาเรี่ยมือที่จับ ตัดสินใจเปิดออกดูทันที
ปรากฏว่าไม่พบสิ่งใด เป็นเพียงตู้ไม้เก่า
มีชั้นไม้คั่นกลางสำหรับไว้วางสิ่งของเท่านั้น
เดินไปหยิบกีตาร์แล้วออกมา
พบเพื่อนนั่งคุยกันอยู่บอกว่าลงไปเข้าห้องน้ำมา
เมื่อครู่ ไม่รู้เมาหรือตาฝาดเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่
ตรงบ่อน้ำหลังบ้าน พอออกมาจากห้องน้ำก็ไม่เห็น
แล้วเสียดายจริง..
นนท์ได้แต่ขำและส่ายหัวหยิบกีตาร์มาจะเล่น
พลันเจ้ากายเพื่อนอีกคนบอกเดี๋ยวก่อนกูปวดฉี่
ขอเวลาแป๊ป นนท์กับแทนคิดว่ามันจะลงไปห้องน้ำ
แต่ผิดคาด กายเดินไปหลังบ้านตรงหน้าต่างบอกว่า
กูขี้เกียจลงไปเอามันตรงนี้ล่ะ
นนท์กับแทนก็เตือนว่าไม่ดีมั้งลงไปแป๊ปเดียว
กายบอกไม่มีใครเห็นหรอกน่า
พอจัดแจงธุระเสร็จก็เดินกลับมานั่งที่โต๊ะ
กำลังจะดีดกีตาร์มีเสียงปี่ชวาลอยตามลม
ทั้งสามคนมองหน้ากัน
แต่กายบอกไม่มีอะไรหรอกเล่นต่อเถอะ
"เอ่อ..เอ่อ..เอ้อ..เออ..เออ..เอิง..เอย..เอ่อ..เออ
เอิง...เอ้ย..เออ..เอ่อ..เอิง..เอ้ยยยย"..
เสียงขับเสมาของหญิงสาวดังขึ้นมาคล้ายอยู่ใกล้ๆ
มันหนาวจับขั้วหัวใจทีเดียว
ท่าจะไม่ดีแล้ว นนท์บอกว่าพอเถอะคืนนี้ไปนอน
ดีกว่าเช้าค่อยคุยกัน..
ท่ามกลางความเงียบงันกลางดึกนั้นเอง
นนท์รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
สายตามองไปที่หน้าต่างเห็นกายยืนหันหน้าออกไป
คิดในใจมันสูบบุหรี่หรืออย่างไรก็ไม่น่าใช่
พลันเจ้ากายก็หันกลับมาสายตาเหม่อลอย
เดินผ่านนนท์เปิดประตูออกไป
นนท์เห็นท่าไม่ดีเลยไปปลุกแทนที่นอนอยู่ข้างๆกัน
แทนบอกไปเข้าห้องน้ำมั้งไม่มีอะไรหรอก?
แต่ว่านนท์มองไปทางหน้าต่างสิ่งที่เห็นคือ
กายเดินออกไปทางบ่อน้ำด้านหลัง
ทั้งสองคนจึงรีบลงตามมาทันที
พอเดินตามไปถึงบ่อน้ำกลับไปพบกับกาย
สายตามองสำรวจไปทั่วบริเวณ
หันมองไปคนละด้านซ้ายขวา
ได้ยินเสียงดังตรงหน้า
"จ๊ะทิงนองนอย..จ๊ะทิงทิง..จ๊ะทิงนองนอย!!"
หันมองพร้อมกันตามสัญชาตญาน
สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือ
นางรำเต็มชุดชฏาหน้าขาวตาขาว
ตั้งวงแล้วร่ายรำอ่อนช้อยอยู่บนผิวน้ำกลางบึง
ก่อนจะหยุดแล้วค่อยๆหันมามองหน้าทั้งสองคน
แล้วเลือนหายไปกับตา
นนท์หันมามองหน้าแทนที่ซีดไม่แพ้กัน
หันกลับไปข้างหลังเจอเจ้ากายนั่งพิงต้นไม้ใหญ่
ตาเหลือกเบิกโพลงเหมือนเจอกับสิ่งที่น่ากลัว
ที่สุดในชีวิต
ทั้งสองคนเข้ามาพยุงปีกเจ้ากายขึ้นมา
แต่ทว่ากายหลุดมาคำนึงทั้งสองคนสะดุ้งทันที
"จ๊ะทิงนองนอย..จ๊ะทิงทิง..จ๊ะทิงนองนอย!!"
แล้วมีสิ่งหนึ่งร่วงลงมาจากต้นไม้ใส่ตักเจ้ากาย
มันคือหัวของนางรำใส่ชฏาตาขาวเบิกตามอง
แล้วพูดเสียงแหลมดังว่า
"มึงจะเอามันไปไหนไม่ได้!!!!"
รับรู้ได้แค่นั้นจอดับไปทันที
ทั้งสามคนมารู้สึกตัวอีกที
ตอนที่เจ้าของโฮมสเตย์มาปลุก
ทุกคนอยู่ที่บ้านของเขา
คำถามแรกที่เจอคือไปนอนทำไมตรงนั้น
พอดีให้เด็กเอาอาหารเช้ามาให้แต่ไม่เจอ
เลยไปบอกแกเดินไปดูถึงรู้ว่าไปนอนอยู่หน้าศาล!!
พอพูดว่าศาลเท่านั้นทั้งสามคนมองหน้ากัน
แล้วถามว่าศาลอะไรครับ
เจ้าของเลยบอกว่า
ตรงหลังบ้านก่อนถึงบึงนั้นมีศาลเพียงตาของนางรำ
ที่มาผูกคอตายตรงต้นไม้ตั้งไว้อยู่
แต่เธอก็ไม่เคยมาหลอกหลอนใคร
ทั้งสามคนจึงเล่าเรื่องราวเมื่อคืนที่ได้เจอให้ฟัง
แต่เขาก็พูดว่าตอนไปเอาตัวพวกเขามามองไปใน
ศาลมันเปียกๆ แล้วในแก้วก็มีน้ำอะไรไม่รู้เหม็นๆ
เต็มไปหมดเลย...
เท่านั้นล่ะ รู้เรื่องราวได้เลย
เพราะองศาของศาลกับหน้าต่างหลังบ้าน
มันตรงกัน นั่นคือปัสสาวะของเจ้ากายแน่นอน
ไม่ผิดแน่ ทั้งนนท์และแทนมองหน้ากายว่า
จะยอมรับไหม? กายจึงเล่าเรื่องให้เจ้าของฟัง
เขาจึงนำของพาไปไหว้ขอขมานางรำที่อยู่ในศาล
ทั้งสามคนไปไหว้ตามที่เขาบอก
แล้วทั้งสามคนก็เช็คอินออกไปวันนั้นเลย
ทุกที่มีเจ้าของอยู่ก่อนแล้วหากเราเข้าไปก็ควรทำ
ความเคารพอยู่ในกฏเกณฑ์ตามความเหมาะสม
ไม่ใช่ทำอะไรที่ห่ามและไม่ควรก็ต้องได้รับบทเรียน
แบบนี้เอง....
โฆษณา