สาเหตุหลักอาจจะเกิดขึ้นมาจากปัจจัยพื้นฐานด้านต่างประเทศที่แข็งแกร่งของประเทศไทย หนี้ต่างประเทศต่อ GDP อยู่ที่ 12% ซึ่งมีค่าพอๆกับของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเงินสำรองระหว่างประเทศมีค่าถึง 8% ต่อ GDP ซึ่งใกล้เคียงกับ สวิตเซอร์แลนด์และญี่ปุ่น (11% และ 4%) เพราะเหตุนี้ค่าเงินบาทไทยถูกนักลงทุนจากหลายๆประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
จึงทำให้เกิดเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้า ตลาดทุนอย่างพันธบัตรและหุ้นมากขึ้น แต่นี้เป็นผลเสียแก่เศรษฐกิจไทยอย่างมากเพราะประเทศไทยเราเป็น Export Driven country หรือประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าเป็นหลัก ถ้าค่าเงินแข็งค่าขึ้นมาก
ก็จะส่งผลให้ราคาสินค้าในสกุลต่างประเทศมีราคาที่แพงขึ้น แล้วคู่ค้าก็จะหันไปซื้อของจากประเทศอื่น ที่ถูกกว่า โดยจากต้นปีถึงปัจจุบัน YTD เงินบาทนั้นแข็งค่ามากขึ้นถึง 5% จาก 32 THB/USD ปัจจุบันมาอยู่ที่ 30.30 THB/USD ในขณะที่ภาคการส่งออกในเดือนกันยายนติดลบ Exports Growth (-1.39% YoY)
และการผลิตมวลรวมของประเทศ GDP อยู่ที่ 0.6% YOY หากเงินบาทแข็งค่ากว่านี้ประเทศไทยคงแย่เป็นแน่