9 พ.ย. 2019 เวลา 07:00 • ธุรกิจ
สรุปความเคลื่อนไหว “ยานยนต์ไฟฟ้าคนไทย” จากรถยนต์ถึงมอเตอร์ไซค์ และสถานีชาร์จหน้า 7-Eleven
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หากพูดถึงรถที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% หรือที่เรียกกันว่า EV หลายคนอาจจะนึกถึงภาพของยานพาหนะ คันเล็กๆ ที่อาจใช้งานได้แค่ระยะทางสั้นๆ เท่านั้น
แต่ ณ เวลานี้ โลกของ EV กลับก้าวไปไกลอย่างมาก มันกลายเป็นรถที่สามารถใช้งานได้จริง มีประสิทธิภาพ ทั้งยังสวยงามน่าดึงดูด ไม่แพ้รถเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแต่อย่างใด
หรือทางภาครัฐของหลายๆ ประเทศเองก็มีการออกนโยบายเพื่อให้ประชาชนหันมาใช้รถประเภทนี้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
หันกลับมามองที่บ้านเรากันบ้าง ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ มีรถไฟฟ้าจำนวนไม่น้อยที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา ไล่ตั้งแต่ Nissan Leaf ไปจนถึง MG ZS EV ที่เพิ่งเปิดตัวไป
อย่างไรก็ตาม ตลาด EV ในบ้านเรานั้นไม่ได้มีแค่ค่ายรถจากต่างประเทศเท่านั้นที่ส่งรถเข้ามาทำตลาด แต่บริษัทสัญชาติไทยเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เช่นกัน
ซึ่งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ พวกเขามีการขยับตัวอย่างไรกันบ้าง เราได้สรุปข่าวคราวมาให้คุณผู้อ่านทราบกันแล้วครับ…
VERA รถยนต์ไฟฟ้าโดยบริษัทของคนไทย
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2017 บริษัท วีราออโตโมทีฟ จำกัด (VERA AUTOMOTIVE) เปิดตัว VERA V1 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ชูจุดเด่นที่ “รถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย”
VERA V1 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15/30 กิโลวัตต์ (kW) ให้แรงบิดสูงสุด 130 นิวตันเมตร (Nm) ทำระยะทางได้ไกลสุด 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง และทำความเร็วสูงสุดได้ 105 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ใช้ตัวถังแบบเดียวกับ GEELY GX2 แฮชแบค 5 ปรตูสัญชาติจีน ในส่วนของระบบความปลอดภัยนั้น ติดตั้งถุงลมนิรภัยคู่หน้าและระบบเบรค ABS มาให้
GEELY GX2 แฮชแบค 5 ปรตูสัญชาติจีน
VERA V1 เปิดตัวมาด้วยราคา 945,000 บาท พร้อมการรับประกัน 2 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร แม้ทางผู้บริหารจะให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า พวกเขาโฟกัสไปที่ลูกค้าแบบเฉพาะกลุ่ม และเน้นคนที่สนใจเทคโนโลยีใหม่ๆ
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามแม้มันจะเป็นรถจากบริษัทของไทย แต่ด้วยความที่มันเป็นรถนำเข้าแบบ OEM และชิ้นส่วนกว่า 70% ถูกประกอบในประเทศจีน (ที่เหลืออีก 30% นำเข้ามาประกอบในบ้านเรา)
จึงไม่แปลกที่ค่าตัวจะพุ่งถึงเกือบ 1,000,000 บาท
หากจะบอกว่า VERA V1 เกิดไม่ถูกเวลา และวางตำแหน่งของตัวเองไม่เหมาะสมก็คงจะพอพูดได้ เนื่องจากในช่วงนั้น กระแสของรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่รู้จักมาก
พวกกับต้นทุนที่สูง และราคาที่สูง(มากๆ) จึงทำให้ไม่นานหลังจากเปิดตัวได้เพียง 1 ปี ทางผู้บริหารก็ออกยอมรับว่าเจ้า VERA V1 คงต้องชะลอการทำตลาดออกไปก่อน
“ปีที่แล้ว(2017) เราประกาศทำรถยนต์ไฟฟ้า VERA V1 แต่ถึงวันนี้มีปัญหาเรื่องต้นทุนแบตเตอรี่ที่มีราคาแพง และการสนับสนุนจากภาครัฐไม่เพียงพอ ทำให้ตัดสินใจชะลอแผนดังกล่าวออกไปก่อน”
นายวันชัย มีศิริ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วีรา ออโตโมทีฟ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวฐานเศรษฐกิจ
ภาพภายในของ VERA V1
เป็นธรรมดาของโลกธุรกิจ ที่เมื่อของเก่าจากไปย่อมมีของใหม่เข้ามาแทนที่ และก็เป็นเรื่องธรรมดาอีกเช่นกัน ที่บางครั้งของใหม่อาจจะได้รับการตอบรับที่ดีกว่า…
Mine Mobility จาก EA
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดตัวรถไฟฟ้าของพวกเขาครั้งแรกที่งานมอเตอร์โชว์ 2018 โดยส่งทำตลาดภายใต้แบรนด์ MINE Mobility
ในงานครั้งนั้น ทางค่ายได้นำเอารถต้นแบบถึง 3 รุ่นมาจัดแสดงด้วยกันคือ City EV Concept รถซิตี้คาร์ 4 ประตู, รถเอนกประสงค์ MPV EV- Concept และสปอร์ตอย่าง Sport EV Concept
Sport EV Concept
City EV Concept
ปีนี้ (2019) จะเปิดให้สั่งจองรถรุ่นแรกของทางค่ายอย่าง MINE SPA 1 ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี กวาดยอดจองไปได้ถึง 4,558 คัน
MPV EV- Concept รถต้นแบบของ MINE SPA 1
โปเจกต์ MINE Mobility ของ EA นั้นแตกต่างจาก VERA เนื่องจากมีการทุ่มงบประมาณกว่า 100 ล้านบาทในการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2017
ก่อนจะตั้งเป็นบริษัท MINE Mobility Research Co., Ltd. ขึ้นเพื่อรับผิดชอบรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ แถมยังมีการตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย และตั้งเป้าหมายผลิตรถรุ่นแรกออกจำหน่ายในช่วงปลายปี 2562 นี้
ซึ่งต้องรอดูกันว่า เมื่อรถออกมาให้ใช้งานจริงๆ และเปิดขายอย่างเป็นทางการ จะมีผลตอบรับในแง่บวกหรือลบมากน้อยเพียงใด…
EA ไม่เป็นบริษัททางด้านพลังงานรายเดียวเท่านั้นที่ให้ความสนใจกับยานยนต์ไฟฟ้า แต่ยักษ์ใหญ่ทางด้านพลังงานของไทยอย่าง ปตท. เองก็หันมาให้ความสนใจด้วยเช่นกัน
เครดิต: https://www.magcarzine.com
โฆษณา