เรื่องแปลก.. กระดูก.. คุณย่าผม
เรื่องราวที่ผมจะมาเล่าให้ฟัง.. แต่ยังไม่เคยได้ออกสื่อที่ไหนมาก่อน ที่Blockdit ได้เป็นที่แรกครับ แต่มีหนังสือฉบับหนึ่ง เอาเรื่องกระดูกของย่าผม ไปลงหนังสือ ครั้งเดียว ก็แค่นั้นเอง
ผมจะมากล่าวถึง ย่า ผมก่อนแล้วกันครับ
ย่าผม ชื่อนาง ประทุม นันทกูล เกิดที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ.บางบาล ในวัน อาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2477 ย่าผมได้สมรสกับ ปู่ เสวก นันทกูล และได้มีลูก5คนครับ เสียชีวิตไป3 เหลือตอนนี้ พ่อผม กับอาที่เป็นน้องชายพ่อครับ
ย่าผม เรียนจบการศึกษาประถมปีที่4 จึงทำให้ ย่า อ่านออกเขียนได้เท่านั้น ย่าท่องภาษาบาลี ที่เป็นคำสวดมนต์บทต่างๆ ไม่ได้เลย ทุกครั้งที่ ย่า ได้เปิดหนังสือสวดมนต์ ย่า ก็ได้แต่อ่านที่เป็นภาษาไทยเท่านั้น แต่ย่า ได้อ่านบทหนึ่งที่ ย่า ได้อ่านและเข้าใจ ไปกับบทสวด คือบทปลงสังขาร
กระดูก ย่า ไว้ที่บ้านครับ
ย่า ได้สวดมนต์ทุกวัน และยังได้นั่งสมาธิอีกด้วย ย่า เป็นคนชอบทำบุญ ใจบุญ ชอบเข้าวัดฟังเทศน์ จึงทำให้ ย่า ชอบบทสวดปลงสังขารนี้มาก ท่องจนจำได้โดยที่ไม่ต้องดูหนังสือเลย และย่าทำความเข้าใจในบทสวดปลงสังขาร พิจารณา ในทุกๆประโยคของคำเหล่านั้น จึงทำให้ย่าได้เห็นว่า ในสังขารทั้งหลายนี้เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่มีอะไรดีเลย ร่างกายก็ด้วยเช่นกัน เพราะร่่างกายนั้นไม่ใช่ของเรา มันแปรเปลี่ยนไปตามปัจจัย และในที่สุดมันก็จะแตกดับลงไปสักวันหนึ่ง
ดังนั้นเรื่องราวทั้งหลาย ทั้งปวงต่างอาศัยเหตุปัจจัยต่างๆปรุงแต่ง ชีวิตก็เช่นเดียวกัน มีเกิด มีแก่ มีเจ็บไข้และในที่สุดก็ต้องตาย ไม่ว่าจะเป็นของรัก ของหวงสักเท่าใด ก็เอาไปไม่ได้
หลังจากนั้น ย่า ได้ปฏิบัติเช่นนี้ทุกวัน จนมีอยู่วันหนึ่ง ย่า ได้มาหาพวกผมที่บ้านที่ชลบุรี และก่อนจะกลับ ย่าได้พูดมาคำหนึ่งพูดว่า "แม่จะกลับอยุธยา และต่อไปแม่จะไม่ได้มาที่ชลบุรีอีกแล้ว" ทำให้พวกเราตกใจมาก มันเหมือนเป็นรางไม่ดีเลย.
กระดูกย่าเป็นแบบเหล็กไหลเลยครับ พ่อผมรองไปแช่ในน้ำผึ้ง มันจะมีฟองอากาศขึ้นมาด้วย
หลังจากวันนั้นมา.. ก็ได้ข่าวว่า ย่า ไม่สบายต้องเข้าห้องไอซียู พวกผมจึงต้องไปที่โรงพยาบาลอยุธยา ไปดูอาการว่า ย่า เป็นยังไงบ้าง แต่พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะอาการย่ายังไม่ดีขึ้น แต่พอสักพัก ย่า ก็รู้สึกตัวออกมาอยู่ห้อง วีไอพีได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผม ผู้ช่วยพยาบาลพิเศษครับ
ผมจำไม่ได้ว่า.. นอนเฝ้า ย่า ได้กี่วัน ประมาณ 2วันหรือ3วันนี่และครับ แต่ย่าต้องรอดูอาการ เป็นอาทิตย์ล่ะครับ ถึงจะกลับบ้านได้ แล้วผมก็กลับมาชลบุรี
มีทั้งเล็กและสีดำ เป็นสายรุ้งก็มี
หลังจากนั้นย่า ก็ได้กลับบ้านครับ แต่พอได้กลับบ้านย่าก็ได้ถือปฎิบัติเช่นเคย จวบจนวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2547 ย่าเหมือนจะรู้เหตุการล่วงหน้า ย่าได้ซักผ้า เก็บของ และแต่งตัวเหมือนกับว่าจะเตรียมตัวไปไหน และเดินไปที่ร้านค้าหน้าบ้าน ย่า ได้ซื้อของแล้วฝากไว้ แล้วก็กลับมาบ้าน จนเจ้าของร้านผิดสังเกต ว่าทำไมย่าประทุม ไม่มาเอาของเสียที ทำความแปลกใจมาก ด้วยความเป็นห่วงเพราะว่าย่าประทุม อยู่คนเดียวที่บ้าน พวกเพื่อนบ้านเลยพากันมาที่บ้าน
ปรากฏว่าเรียกแล้วไม่มีคนขานรับ และประตูไม่ได้ล็อก พวกเขาจึงพากันเข้าไปในบ้าน ภาพที่ทุกคนได้เห็นก็คือ ย่า ได้นั่งพนมมืออยู่หน้าหิ้งพระ ในมือมีดอกไม้ธูปเทียน เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ จึงได้รู้ว่าย่าได้ละสังขารแล้ว การที่ย่าไปซื้อของและฝากไว้เหมือนจะเป็นการบอกให้เพื่อนบ้านรู้ จะได้ช่วยแจ้งข่าวให้ลูกชายท่านได้ทราบ
กระดูกเป็นหินแข็งมาก จากกระดูกกลายเป็นเม็ดที่แข็งมาก
พอพ่อได้รู้ข่าว พ่อได้ไปที่บ้าน ย่า ซึ่งได้เห็นย่านั่งพนมมือ แต่งตัวพร้อม
เมื่อถึงวันฌาปนกิจ ร่างย่าก็มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้น คืออัฐิธาตุของย่าได้แปรเปลี่ยนเป็น แก้วสีเขียวบ้าง สีน้ำเงินบ้าง จึงทำความแปลกใจให้ผู้พบเห็น เพราะตอนพ่อไปเก็บกระดูกย่านั้น ก็สังเกตุเห็นว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เพราะพ่อได้ศึกษาเกี่ยวกับพระธาตุด้วย จึงได้รู้ว่า กระดูกย่านั้นมีการเปลี่ยนสภาพไปแล้ว
มีออกสีเขียว เป็นอะไรที่หาดูอยากครับ
เรื่องนี้ถือได้เป็นประจักษ์พยานว่าในการปฏิบัติธรรมของย่า ถึงแม้จะท่องเพียงแค่บทปลงสังขารและปฏิบัติ ก็สามารถเข้าถึงธรรมะได้ ถึงจะเป็นคนธรรมดา ท่านก็สามารถทำได้ แต่ขอให้ทำจริงๆเท่านั้นครับ
รูปคุณย่า ชื่อ นางประทุม นันทกูล
Watpamahachai.net
จะมีสีชมพูด้วย และออกสีเขียว
สุดท้ายนี้ผม ก็ขอให้บทความขอผม ที่ให้คุณได้อ่าน รู้ถึงแห่งความไม่แน่นอน ฉะนั้น เราจะต้องรีบ ทำบุญเก็บเอาไว้ชาติหน้าครับเพราะเราอาจจะไม่ได้อยู่ถึงแก่ก็ได้
ถ้าหากว่าผิดพลาดหรือมีอะไรไม่ดี ก็ขออภัยมา ณ.ที่นี่ด้วยครับ
ฝากกดไลค์ กดแชร์ และติดตาม และอนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ
- 52
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
